“พี่ชาย นายนี่มันโคตรจะจี้เลยว่ะ ไม่มีใครเคยกล้าพูดกับฉันอย่างนี้เลยนะ นายเป็นคนแรกเลย”
ในขณะที่เขาพูดลูกน้องสองคนก็ปิดประตูบาร์ลง
เพราะมันเป็นตอนกลางวันบาร์เลยยังปิดอยู่
ฟิลิปเลิกคิ้วสูงเขาจ้องไปยังผู้คนที่อยู่รอบ ๆ พวกเขาต่างเตรียมตัวที่จะสู้ ใบหน้าแต่ละคนมีรอยยิ้มเย็นชาปรากฏอยู่
ลินน์กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก ไม่คาดคิดมาก่อนว่าการที่ขอความช่วยเหลือจากฟิลิปจะกลายเป็นเรื่องผิดพลาดแบบนี้ ไอ้เจ้างั่งนี่กล้าไปพูดกับดิคแบบนั้นได้
‘ก็แค่ใส่หัวไปถ้าไม่มีเงิน จะมาแกล้งทำเป็นเท่อยู่อีกทำไม?’
“ฟิลิป ถ้านายไม่มีเงินก็แค่ออกไปซะ ฉันไม่ได้ต้องการให้นายมายุ่ง” ลินน์พูดขึ้น
ไคล์ เจคอปและคนอื่น ๆ ต่างก็เห็นด้วย
“โธ่เอ๊ย ผ่านมาตั้งนานแล้วแต่ไอ้งั่งนี่ก็ยังไม่มีเงินแม้แต่สลึงเดียวแล้วยังมีหน้ามาทำตัวเท่ต่อหน้าเด็กอีก
“ดิค พวกเราไม่รู้จักชายคนนี้นะ เขาไม่เกี่ยวอะไรกับเรา”
“ใช่แล้วล่ะดิค ทุก ๆ เรื่องเลวร้ายย่อมีผู้กระทำผิดและทุก ๆ หนี้สินที่ก่อย่อมต้องมีผู้ชดใช้ การที่เขาทำให้นายไม่พอใจนั้นไม่เกี่ยวกับเราเลย”
ในตอนนี้ชายหญิงสองคนนี้พยายามที่จะตัดสัมพันธ์กับฟิลิปให้สิ้น
ดิคหัวเราะเยาะเย้ยออกมาสองสามที เขาลุกขึ้นยืนและเดินมาหาฟิลิปตบลงที่บ่าของเขาก่อนที่จะพูดเย้ยหยันขึ้น “ดูสิ มีใครที่นี่ปฏิบัติกับแกเหมือนคน ๆ หนึ่งบ้าง”
เพล้ง!
ขวดไวน์แต่เป็นเสี่ยง ๆ
ฟิลิปหยิบขวดไวน์ขึ้นมาจากโต๊ะ ทุบมันแตก และก็จ่อเศษแก้วไปที่ลำคอของดิค พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ปล่อยเธอซะ แล้วฉันจะจ่ายเงินคืนให้! ถ้าแกไม่เชื่อฉัน ฉันก็จะอยู่ที่นี่แทนให้!”
ดิคยกมือสองมืออย่างยอมแพ้ เชิดคางขึ้นสูง กลืนน้ำลาย เหงื่อเย็นไหลย้อยลงมาจากหัวของเขา เขาพูดติดตลกพร้อมถากถางขึ้นมา “พี่ชาย ใจเย็น ๆ แก้ปัญหาด้วยการทำแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ”
“ไอ้บ้าเอ๊ย! ปล่อยดิคเดี๋ยวนี้นะ!”
“แกนี่มันอยากตายจริง ๆ สินะ!”
ลูกน้องของดิคเกิดบ้าระห่ำขึ้นมา ชี้ไปที่ฟิลิปด้วยความเดือดดาลพลางตะโกนใส่เขา
มีสองคนที่รีบพุ่งเข้ามาหมายจะจัดการฟิลิป
“ไสหัวไป! มาดูกันว่าวันนี้ใครมันจะกล้าออกมาสู้!” ฟิลิป คำราม ปากขวดไวน์ที่แตกทิมลงไปที่ลำคอของดิค เลือดแดงฉานไหลหยดลงมา
ดิคเองก็ตกใจกลัวเช่นเดียวกัน จ้องไปที่ฟิลิป พูดขึ้นอย่างชั่วร้าย “แกรู้ไหมว่าที่นี่มันที่ของใคร? ถ้าแกกล้าแตะต้องฉัน เชื่อหรือไม่ก็ตามจะไม่มีใครได้ออกไปจากที่นี่ แม้แต่คนเดียว!”
ฟิลิปจ้องมองไปที่ดิคอย่างสงบนิ่ง และพูดขึ้น “ฉันไม่สนใจว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่ แต่ถ้าแกยังไม่ปล่อยเธอไป ฉันสาบานได้เลยว่าจะเป็นนายเองที่ได้ลงไปกองที่พื้น!”
ดิคจ้องไปที่ฟิลิปเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะยิ้มกริ่มออกมาแล้วพูดขึ้น “ก็ได้ฉันจะปล่อยเธอไป แต่แกต้องอยู่ที่นี่”
ลินน์รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างกระวนกระวายสองสามครั้งก่อนที่จะวิ่งหนีออกไปพร้อมกับเพื่อนอีกสองสามคน
พวกเขาไม่ได้สนใจความปลอดภัยของฟิลิปเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นลินน์และพวกวิ่งออกไป ดิคยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “ดูสิ นั่นน้องสะใภ้ของแก เธอวิ่งหนีไปแล้วไม่ได้สนใจชีวิตของแกว่าจะเป็นหรือตายเลยสักนิด มันคุ้มค่ากันแล้วเหรอ?”
“และอีกอย่าง ฉันได้ยินพวกมันพูดว่า แกก็เป็นแค่ไอ้คนไม่เอาถ่านแต่ฉันไม่คิดว่าแกเป็นคนแบบนั้นหรอกนะ แกก็กล้าหาญดีนี่”
ฟิลิปไม่อยากจะพูดไร้สาระกับพวกเขาแม้แต่น้อย เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดโทรหาจอร์จ “สตาร์ไลท์ บาร์ ส่งเงิน 100,000 ดอลลาร์มาให้ที่นี่ที”
เขาไม่ได้เอาบัตรที่จอร์จให้เขาไว้ติดตัวมาในวันนี้
“ได้ครับนายน้อยผมจะส่งเงินไปในทันที” จอร์จตอบรับ
ลินน์และพวกของเธอวิ่งไปได้ไม่ไกลนัก
ไคล์ตะโกนออกมา “ลินน์ พี่เขยของเธอพยายามทำตัวให้ดูเท่เหลือเกินสินะ?”
“นั่นมันดิค เจย์สัน เชียวนะ กล้าไปแตะต้องเขาได้ยังไงกัน ฉันคิดว่าเขาต้องตายแน่ถึงแม้ว่าท้ายที่สุดเขาจะไม่ตายก็คงจะพิการ” ไคล์เองก็เห็นด้วย
“ใช่แล้วล่ะคนไม่เอาถ่านอย่างเขากล้ามาทำเป็นเท่แบบนั้น เขาเกือบจะฆ่าพวกเราทั้งหมดเลยด้วย” เพื่อนสนิทของลินสองสามคนกรอกตาไปมาและสบถออกมาด้วยความรังเกียจ
ความรู้สึกของลินน์ว้าวุ่นไปหมด
ถึงแม้เธอจะดูถูกฟิลิปและคิดว่าเขาไร้ประโยชน์แต่ฟิลิปก็อยู่ที่นั่นตัวคนเดียวแทนเธอและเพื่อนของเธอ
“พอเถอะพวกเธอเลิกพูดได้แล้ว” ลินรู้สึกไม่พอใจเพื่อนของอย่างมาก เธอกอดอกพร้อมกับพูดขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ฉันต้องกลับไปดูเขา พวกนายไปกันก่อนเลย”
หลังจากนั้นลินน์ก็หมุนตัวกลับ เธอวิ่งกลับไปที่ประตูบาร์ ยืนนิ่งลังเลอยู่พักใหญ่
ไคล์และคนอื่น ๆ นิ่งคิดอยู่พักใหญ่เช่นกัน พวกเขาเองก็หันหลังกลับและเฝ้ารออย่างลับๆล่อๆ
และในขณะนั้นเองรถยนตร์ไมบัคสองสามคันก็มาหยุดอยู่ที่ทางเข้าบาร์!
รถเหล่านั่นช่างดูหรูหรา ดูจากรถแล้วคนที่อยู่ด้านในจะต้องเป็นผู้มีอิทธิพลมากแน่ ๆ!
ประตูเปิดออกชายวัยกลางคนสวมชุดสูทสีดำเดินลงมาจากรถ ใบหน้าของเขาสลักเสลาและไว้หนวด สีหน้าของเขาดูจริงจัง
มีบอดี้การ์ดร่างกายยำสองคนเดินตามหลังเขา
“แม่เจ้าโว๊ย! จบกัน! นั่นมันท่านนีโน! พี่เขยของเธอตายแน่ตอนนี้!”
ไคล์จำชายวัยกลางคนคนนั้นได้ในทันที
ชายคนนั้นคือนีโน กิล ผู้ทรงอิทธิพลแห่งวงการใต้ดินที่ใหญ่เป็นอันดับสาม
เขาเป็นหัวหน้าใหญ่แห่ง เอล นีโน่!
เจ็ดปีก่อนเขาเป็นผู้บริหารเอล นีโน่มาภายใต้ความรุนแรงในเมืองริเวอร์เดลแห่งนี้ และค่อย ๆ สร้างโลกของเขาขึ้น
ก่อนหน้านี้ เขาก็เป็นเพียงแค่ช่างปูนธรรมดาคนนึง หลังจากนั้นเขาก็ได้รวบรวมพรรคพวกอันธพาลให้ช่วยสร้างและรับมือกับการรื้อถอนโดยใช้ความรุนแรง
เขามีคนหนุนหลังที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมาก
ด้วยความโหดเหี้ยมและใช้วิธีที่รุนแรง เขาจึงชนะสัญญาของผู้พัฒนาการในโครงการรื้อถอนต่างมาได้หลายโครงการ
เมื่อเจ็ดปีก่อน นีโน กิล ได้เริ่มทำสัญญามูลค่ามหาศาลของโครงการรื้อถอนในเมืองริเวอร์เดล เขาจ้างคนงานทั่วไปกลุ่มหนึ่งเพื่อให้มาทำการเคลื่อนย้าย ‘ผู้ที่ไม่ให้ความร่วมมือ’ ในโครงการรื้อถอนนี้ออกไปอย่างผิดกฏหมาย และหลังจากนั้นไม่นานบริษัทก่อสร้างและสถาปัตยกรรมริเวอร์เดล ฮาร์ตฟอร์ดก็ถูกตั้งขึ้น เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นประธานบริหารของบริษัท
พี่เบิ้มอย่างเขาไม่ควรเลยที่จะเขาไปมีเรื่องด้วย!
สตาร์ไลท์ บาร์แห่งนี้เป็นของนีโน กิล!
ฟิลิปตายแน่ ๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทายาทอันดับหนึ่ง