“ทหาร มีคนลอบสังหาร!” หลีเซียงตะโกนออกไปด้านนอก
ทหารยามได้ยินเสียงก็รุดเข้ามาทันที
เมื่อขันทีน้อยเห็นว่าตนลอบสังหารไม่สำเร็จจึงยกมีดแทงเข้าไปที่อกของตน
นางกำนัลที่อยู่ข้าง ๆ ดึงซ่างกวนจิ่นซิ่วถอยออกห่าง
ฉึก! กริชแทงเข้าไปอย่างแม่นยำ จากนั้นโลหิตสีแดงฉานก็ไหลออกมา หนึ่งชีวิตสิ้นลมหายใจลงตรงหน้าคนทั้งหมด
ทันใดนั้นเองทหารยามจึงกรูกันเข้ามา
“ข้าน้อยมาช่วยเหลือล่าช้า พระนางฮองเฮาโปรดอภัย”
“ผู้บัญชาการฟู่ ท่านไปดูหน่อยว่าเขาเป็นอย่างไรแล้ว” ซ่างกวนจิ่นซิ่วชี้ไปยังขันทีน้อยที่ฆ่าตัวตายเพราะหวาดกลัวความผิด
ผู้บัญชาการฟู่จับชีพจรของอีกฝ่ายแล้วเอ่ย “ฮองเฮา เขาตายแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ขันทีน้อยผู้นี้รับหน้าที่ทำความสะอาด ปกติเป็นคนซื่อสัตย์ เหตุใดวันนี้จึงได้กล้าหาญเพียงนี้?” หลีเซียงเอ่ย “ผู้บัญชาการฟู่ ท่านต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดีเล่า หากเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง ฮองเฮาอาจไม่โชคดีเช่นนี้อีก”
“ข้าน้อยจะต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้กระจ่างอย่างแน่นอน”
ฟ่านหยวนซีทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน ขณะที่เขากำลังจะพักผ่อนก็ได้ยินเสียงแหลม ๆ ของเฉินกงกงดังมาจากด้านนอก “ฮองเฮาถูกลอบสังหารอย่างนั้นหรือ?!”
เขาลุกขึ้นนั่ง มองเฉินกงกงที่ผลักประตูเข้ามา
“ฝ่าบาท…”
“นางไม่เป็นไรกระมัง?”
“ฝ่าบาทได้ยินแล้วหรือพ่ะย่ะค่ะ?” เฉินกงกงเอ่ยอย่างประจบประแจง “บ่าวสมควรตายยิ่งนัก รบกวนฝ่าบาทแล้ว ฮองเฮาไม่เป็นไร นางกำนัลที่ปรนิบัติฮองเฮาเฉลียวฉลาดยิ่ง นางสังเกตความผิดปกติได้ทันการ ฮองเฮาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ ส่วนขันทีที่ลอบสังหารฆ่าตัวตายเพราะกลัวความผิดแล้ว ได้ยินผู้บัญชาการฟู่กล่าวว่า เขาเป็นข้ารับใช้ที่ทำงานอยู่ด้านนอกพระตำหนักของพระนาง ปกติไม่พบว่าผิดสังเกตอะไร ทว่าวันนี้กลับอุ้มแมวที่ฮองเฮาเลี้ยงเอาไว้เข้าไปในพระตำหนักแล้วลอบสังสารฮองเฮา โชคดีที่ทำไม่สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ”
“ผู้บัญชาการฟู่ตรวจสอบได้ความว่าอย่างไรบ้าง?”
“คนนั้นตายไปแล้ว ส่วนที่พักของเขาไม่มีสิ่งใดผิดปกติพ่ะย่ะค่ะ ผู้บัญชาการฟู่ไต่สวนขุนนางเล็กที่พักที่เดียวกับเขา ทุกคนล้วนแต่เป็นข้ารับใช้ในวังหลวงทำงานอยู่สังกัดที่ต่างกันไป แต่กลับถามอะไรออกมาไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”
ฟ่านหยวนซีสวมรองเท้า
เฉินกงกงรีบนำชุดลำลองมาให้เขา ก่อนจะช่วยสวมให้อย่างรวดเร็ว
เขาไม่รอช้าแต่เดินนำเฉินกงกงมุ่งหน้าไปยังพระตำหนักจิ่นซิ่วทันที
“ถวายบังคมฝ่าบาท…”
“ฝ่าบาทเสด็จ!”
ซ่างกวนจิ่นซิ่วกำลังจะพักผ่อน ทว่าได้ยินเสียงพูดคุยอยู่ข้างนอกจึงกระเด้งตัวลุกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
“ฝ่าบาท…”
“ทำตัวตามสบายเถิด”
“ฝ่าบาท ดึกดื่นเพียงนี้แล้ว พระองค์มาได้อย่างไรเพคะ?”
ฟ่านหยวนซีมองหญิงสาว เมื่อเห็นว่าสีหน้าของนางดูปกติราวกับไม่ได้มีเรื่องเกิดอะไรขึ้น เขาจึงเอ่ย “ข้าเหนื่อยแล้ว อยากมาพักผ่อน”
เฉินกงกงได้ยินดังนี้ก็เข้าใจทันที ขันทีมากประสบการณ์โบกมือให้นางกำนัลที่อยู่ข้าง ๆ พาทุกคนถอยออกไป
ภายในห้องเหลือเพียงซ่างกวนจิ่นซิ่วและฟ่านหยวนซีสองคนเท่านั้น
ณ เมืองฮู่เป่ย มู่ซืออวี่ตรวจสมุดบัญชีแล้วคิดคำนวณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุเข้ามาเป็นวายร้าย
กำลังสนุกเลยค่ะ ขอบคุณแอดที่ลงให้อ่านนะคะ แต่ถ้าลงวันละ 10 ตอนจะดีมากเลยค่ะ รออ่านอยู่นะคะ...
รออ่านบทต่อไปค่ะ...