การมองถังจื่อโม่ของคุณชายสามเย่แวบนั้นไม่ธรรมดา ทว่าถังจื่อโม่กลับไม่อินังขังขอบ
เขามีที่พึ่ง ที่พึ่งของเขาก็คือคุณแม่ มีคุณแม่สักอย่าง เขาต้องกลัวอะไร?
“ฮัลโหล”เมื่อกี้เย่ซือเฉินยังหน้าบูดหน้าเบี้ยว แลดูน่ากลัวเหลือหลาย ทว่าหลังจากที่เขารับมือถือมา ระหว่างที่เอ่ยปากพูด ความเย็นเยียบทางใบหน้าลดลงกว่าครึ่ง น้ำเสียงเย็นชาก็อ่อนโยนหลายส่วน
“เย่ซือเฉิน คุณถึงกับลักพาตัวลูกชายฉันเลยเหรอ”ทว่าเวินลั่วฉิงไม่เห็นท่าทางที่เปลี่ยนไปกับเวินลั่วฉิง แน่นอน ถึงแม้จะเห็น สถานการณ์เช่นนี้ เธอกต้องทำความเข้าใจเรื่องถังจื่อโม่โดนลักพาตัวไปก่อนเป็นอันดับแรก
“เขาก็เป็นลูกชายของผมด้วย”คุณชายสามเย่หน้าเปลี่ยนสี พลางถอนหายใจเบาๆ ครั้งนี้เสียงเบาลงหลายส่วน ทั้งยังเจือความน้อยใจในความไม่เป็นธรรมไว้หลายส่วนอีกด้วย
“คุณก็รู้ว่าเขาเป็นลูกชายคุณด้วยเหรอ คุณรู้แล้วยังลักพาตัวเขาอีกเหรอ?”เวินลั่วฉิงได้ยินก็ยิ่งตะคอกเสียงใส่ เสียงดังขึ้นอย่างชัดเจน
ระดับเสียงสูงมาก ทว่าเวินลั่วฉิงที่อยู่ในสายรู้สึกผิดเล็กน้อย เวินลั่วฉิงเป็นคนชาญฉลาด รู้ว่าคำพูดของเย่เฉินเป็นการถามเธอ เธอยังฟังอารมณ์ที่น้อยใจด้วยความไม่เป็นธรรมของเย่ซือเฉินได้ด้วย
ถึงแม้ถังจื่อโม่ไม่ได้เธอบอกเย่ซือเฉิน ทว่าเวินลั่วฉิงได้ยินการซักถามด้วยน้ำเสียงตำหนิของเย่ซือเฉินแล้วก็รู้สึกผิดในใจเล็กน้อย
คงเป็นเพราะรู้สึกผิดในใจ เวินลั่วฉิงจึงพูดเสียงดังเป็นพิเศษ
เวินลั่วฉิงพูดเสียงดังกะทันหันเช่นนี้ได้ผลลัพธ์ไม่เลวเลยทีเดียว
กู้หวูที่เมื่อกี้จับโต๊ะพยุงตัวเองลุกขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงตะคอกของเวินลั่วฉิง ร่างกายพลันสั่นเทิ้มอีกครั้ง ครั้งไม่เพียงแต่สองขาของกู้หวูอ่อนแรงเท่านั้น ทั่วทั้งร่างกายก็อ่อนแรงไปหมด
ถังจื่อโม่ได้ยินคุณแม่ตัวเองตะคอกก็ขดตัวด้วยจิตใต้สำนึก เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นคุณแม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟมากเช่นนี้
“ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้”คุณชายสามเย่ชะงัก ตอบหนึ่งประโยคด้วยจิตใต้สำนึก คุณชายสามเย่โดนปรักปรำหนักมาก แต่ต่อหน้าภรรยาตัวเอง ถึงจะโดนภรรยาปรักปรำก็ต้องทน
บัดนี้น้ำเสียงคุณชายสามเย่เบากว่าเดิม
“ดังนั้นล่ะ?”อีกฝั่งหนึ่งของสาย เวินลั่วฉิงชะงัก จากนั้นก็ไล่ถามหนึ่งประโยค
“ก่อนหน้านี้คุณไม่รู้ว่าเป็นลูกชายของคุณ คุณจึงลักพาตัวได้เหรอ?”เวินลั่วฉิงหยุดชั่วครู่ จากนั้นก็เอ่ยปากพูดต่อ ไม่ได้พูดเสียงดังเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่น้ำเสียงระคนความโกรธอย่างชัดเจน
“คุณไม่รู้สถานะของเขา คุณก็ไม่ไปสืบ ถึงกับลักพาตัวเลยเหรอ?คุณลักพาตัวเด็กอายุห้าขวบ ถ้าเจ็บตัวขึ้นมาจะทำยังไง?ถ้าคุณทำให้ลูกตกใจจะทำยังไง?ถ้าคุณทำให้เขามีเงามืด(ปม)ในใจจะทำยังไง?”เวินลั่วฉิงนึกความเป็นไปได้นั้นก็อดกังวลใจไม่ได้ นี่คือการลักพาตัวนะ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย
การลักพาตัวเป็นเรื่องรุนแรงมาก เผลอๆอาจทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงได้
เย่ซือเฉินยังไม่รู้สถานะของถังจื่อโม่ก็สั่งให้ลูกน้องลักพาตัวถังจื่อโม่เลยเหรอ แค่เพียงจุดนี้ก็ทำให้เวินลั่วฉิงกราดเกรี้ยวมากแล้ว
ถ้อยคำที่ถังจื่อโม่กล่าวก่อนหน้านี้ เป็นเพราะตอนนั้นเธอใจร้อนเกินไป กังวลเกินไป จึงไม่ได้คิดอย่างละเอียด แต่ตอนนี้ใคร่ครวญดูแล้ว คำพูดของถังจื่อโม่น่าจะเกินความเป็นจริงมาก
ทว่าถึงแม้ถังจื่อโม่จะไม่บาดเจ็บ แต่ไม่แสดงว่าเย่ซือเฉินทำอย่างนี้แล้วจะไม่ผิด
เย่ซือเฉินได้ยินเวินลั่วฉิงพูดก็เงียบกริบ เรื่องนี้เขาเป็นคนผิดเอง เขาไม่ควรให้กู้หวูลักพาตัวมาโดยที่ยังไม่รู้สถานะของถังจื่อโม่
ทว่าก่อนหน้านี้คุณชายสามเย่คาดไม่ถึงว่าถังจื่อโม่จะเป็นลูกชายของเขา
เดินทีกู้หวูได้ยินเวินลั่วฉิงพูดก็รู้สึกไม่ยอม คุณชายน้อยจะโดนทำให้ตกใจได้เหรอ?จะทำให้คุณชายน้อยมีปมในใจเหรอ?
พวกเขาไม่เกิดปมในใจก็ไม่เลวแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...