“เรื่องนี้ผมเองก็ไม่ชัดเจนเหมือนกัน แต่ช่วงไม่กี่ปีมานี้เย่ซือเฉินก็ดูแลบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป คงจะไม่น่ามีกำลังและจิตใจไปพัฒนากิจการอะไรได้มากนักหรอกมั้ง? ผมคิดว่าน่าจะมีไม่มากนัก?” เจิ้งฉงเพียงแค่คาดคะเนไปตามสถานการณ์โดยทั่วไปเพียงเท่านั้น
“แต่เมื่อกี้เลขาหลิวบอกว่าเรื่องของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนั้นสำหรับเย่ซือเฉินแล้วถือว่าเป็นเรื่องเล็ก ในเมื่อเรื่องของบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปเป็นเรื่องเล็กสำหรับเย่ซือเฉินแล้ว ถ้าอย่างนั้นทรัพย์สินของเย่ซือเฉินก็คงจะมีไม่น้อยเลยใช่ไหม?” เฉิงโหรวโหรวที่คิดง่ายๆมาตลอดนั้นครั้งนี้กลับฉลาดขึ้นมาเสียอย่างนั้น ยังรู้จักที่จะวิเคราะห์การคาดคะเนนี้อีกด้วย
แน่นอนว่า คงจะไม่พูดไม่ได้ว่าการวิเคราะห์ในเวลานี้ของเฉิงโหรวโหรวนั้นถูกต้องเป็นอย่างมาก ทรัพย์สินของเขาอีกที่หนึ่งนั้นก็คงจะไม่มากเกินไปกว่าบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป
“เลขาหลิวจะต้องคุยโวโอ้อวดเอาไว้อย่างแน่นอน เย่ซือเฉินมีความสามารถ แต่ทรัพย์สินอื่นก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเกินไปจากบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ป” เจิ้งฉงปฏิเสธคำพูดของเฉิงโหรวโหรว จากที่เขาดูแล้วนั้น นั่นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลยเสียด้วยซ้ำ
เฉิงโหรวโหรวเม้มปากเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรอีก เฉิงโหรวโหรวที่ปกติแล้วไม่ได้ฉลาด เวลานี้ในหัวนั้นกลับมีความคิดมากมายแวบขึ้นมา
บริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปใหญ่โตขนาดนี้ ดีขนาดนี้ แต่เย่ซือเฉินกลับไม่ให้ความสำคัญอย่างนั้นหรือ? จะต้องมีทรัพย์สินอื่นๆอีกไม่น้อยอย่างแน่นอน
เย่ซือเฉินสามารถพัฒนาบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปให้ใหญ่โตได้ขนาดนี้ ดีขนาดนี้ และยังสามารถสร้างกิจการเป็นของตัวเองได้ นั่นก็แสดงว่าเย่ซือเฉินนั้นมีความสามารถเป็นอย่างมากนั่นเอง
ถ้าหากเธอแต่งงานกับเย่ซือเฉิน บางทีก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยเหมือนกัน
แต่ความดูดีของหัวหน้าน้อย ครั้งแรกที่เธอเห็นหัวหน้าน้อยก็รู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ ในใจของเธอยังคงตัดใจจากหัวหน้าน้อยไม่ได้ อา ลำบากใจจริงๆ เธอควรจะเลือกอย่างไรดี?
เธอจะเลือกใครดี?
“นั่งลงรอก่อนดีกว่า เย่ซือเฉินไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่” เจิ้งฉงไม่รู้ความคิดในเวลานี้ของเฉิงโหรวโหรว เห็นว่าเฉิงโหรวโหรวยืนเหม่ออยู่ตรงนั้นแล้ว จึงส่งเสียงตะโกนเรียกเธอออกมา
เจิ้งฉงรู้สถานะของเฉิงโหรวโหรว เพราะถึงอย่างไรนี่ก็คือไป๋หยิงออกแบบเอาไว้ ตั้งแต่แรกเขาก็รู้แล้ว อีกทั้งตอนแรกนั้นเขาเองก็คอยช่วยอยู่ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นต่อหน้าคนนอกแล้วเจิ้งฉงยังนับว่าให้ความเคารพกับเฉิงโหรวโหรวอยู่บ้าง ส่วนตอนที่ไม่มีคนนอก เจิ้งฉงกลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับเฉิงโหรวโหรวเลย
เฉิงโหรวโหรวกำลังคิดเรื่องของตัวเองอยู่นั้น เธอคิดอย่างเพลิดเพลินมากเกินไป คิดไม่ถึงว่าจะไม่ได้ยินคำพูดของเจิ้งฉง ดังนั้นเธอก็ยังคงยืนเหม่อลอยอยู่ตรงนั้น ไม่ไหวติง
“รีบมานั่งสิ คุณเอาแต่ยืนเหม่อยู่ตรงนั้น คนอื่นเห็นเข้ามันดูไม่ดี” เจิ้งฉงเห็นเธอไม่ขยับ จึงขมวดคิ้วขึ้น แล้วส่งเสียงเรียกเธออีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้น้ำเสียงของเขานั้นแสดงความรำคาญออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ถ้าหากตอนนี้เฉิงโหรวโหรวยังเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้นี้อยู่ เขายังจะต้องใช้ประโยชน์จากเฉิงโหรวโหรว เขาไม่อยากที่จะมาพูดคำพูดที่ไร้สาระกับเธอ เธอโง่มากเกินไป เซ่อมากเกินไป อะไรๆก็ไม่รู้เรื่อง อะไรๆก็ทำไม่เป็น ไม่มีความสามารถในการมองแยกแยะได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“อ่อ” เฉิงโหรวโหรวรู้ว่าเจิ้งฉงรู้ถึงสถานะที่แท้จริงของเธอ ดังนั้นเวลานี้อยู่ต่อหน้าเขานั้น เธอเองก็ไม่กล้าที่จะวางมาดเป็นเจ้าหญิงเช่นกัน จึงเดินไปอย่างว่าง่าย แล้วนั่งลง
หลังจากนั่งลงมาแล้วนั้น เฉิงโหรวโหรวก็นั่งหลังค่อมด้วยความเคยชิน
“คุณนั่งตัวตรงๆ” เจิ้งฉงเห็นท่าทางของเธอแล้ว ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง ตอนแรกที่ไป๋หยิงหาตัวเฉิงโหรวโหรวมานั้น ก็เป็นเพราะเฉิงโหรวโหรวมีลักษณะท่าทางเหมือนกับลูกสาวของหัวหน้าที่อยู่ในรูปวาดนั้นมาก
ตอนแรกที่เขาเห็นเฉิงโหรวโหรวครั้งแรก มองดูแล้วเหมือนมากจริงๆ แต่ไม่รู้ทำไม ตอนนี้กลับหาลักษณะท่าทางนั้นไม่เจอเลยแม้แต่นิดเดียว
ตอนที่เฉิงโหรวโหรวเพิ่งจะมานั้น ยังมีความหยิ่งทะนงอยู่บ้างเล็กน้อย ดังนั้นจึงมีลักษณะท่าทางที่เหมือนกับลูกสาวในภาพวาดของหัวหน้า
หากว่ากันตามเหตุผลแล้ว ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวกลายมาเป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ แล้วก็เคยเจอกับสถานการณ์มาบ้างแล้วเช่นกัน ควรจะมีการปลูกฝังมาบ้างไม่มากก็น้อย
แต่เรื่องราวกับกลายเป็นตรงกันข้าม ตอนนี้เฉิงโหรวโหรวกลับยิ่งมีลักษณะท่าทางที่ไม่เรียบร้อย ยิ่งจะปิดบังเอาไว้ไม่ได้แล้ว
ถ้าหากให้หัวหน้าเห็นเฉิงโหรวโหรวในตอนนี้ เกรงว่าจะยิ่งรู้สึกสงสัย
เขาเองก็ไม่เข้าใจ เป็นเจ้าหญิงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ ทำไมกลับยิ่งมีลักษณะท่าทางที่ไม่เรียบร้อยแบบนี้กัน?
เจิ้งฉงไม่เข้าใจตรงจุดนี้ แต่จริงๆแล้วจุดนี้ก็ไม่ได้เข้าใจยากเท่าไรนัก
ตอนนี้ความทะยานอยากของเฉิงโหรวโหรวนั้นก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อยๆ อยากได้อยากมีมากขึ้น แต่ความสามารถของเธอนั้นมีอยู่จำกัด ความสามารถที่มีจำกัด ก็มักจะอยากจะออกหน้า อยากจะแสดงตัวเองออกมา
ประกอบกับที่ไป๋หยิงบอกเธอเอาไว้ว่าเวินลั่วฉิงถึงจะเป็นเจ้าหญิงที่แท้จริงแห่งองค์กรโกสต์ซิตี้ เธอก็อดที่จะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเวินลั่วฉิงไม่ได้ เธอเอาตัวเองไปเทียบกับเวินลั่วฉิง ถึงแม้ว่าปากจะไม่ยอม แต่กลับยิ่งไม่มีความมั่นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...