เพราะมีองค์กรที่น่าเกรงขามมาผดุงความยุติธรรมให้ เรื่องจริงเท็จยังไง ก็สามารถพูดมันออกมาตรงๆได้ ทุกอย่างกองวางลงตรงหน้าให้ผู้คนได้เห็น และจัดการมันอย่างใสสะอาด
การเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้คนแบบนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
“คุณหลี่ คุณไม่จำเป็นต้องสงสัยเรา นอกจากอนุญาตให้หน่วยงานฝ่ายกฎหมายมาควบคุมดูแลแล้ว คุณต้องการจ้างทนายแบบไหน คุณหลี่ก็สามารถพูดตรงๆได้ และเราจะเชิญคนที่มีความสามารถและมีความยุติธรรม รักในความถูกต้องว่าความต่อสู้คดีนี้ให้ และเรื่องนี้เราก็ยินดีให้ทุกคนเข้ามาดูแลตรวจสอบ” เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิพิทักษ์ประชาชาติได้กล่าวคำพูดยืนยันนี้อีกครั้ง และได้อธิบายอย่างชัดเจน
หากเรื่องฝ่ายกฎหมายก็อาจจะซับซ้อนไปหน่อย แต่เรื่องทนายความนั้นก็น่าจะง่ายกว่า เพราะทนายความเหล่านี้เคยว่าความคดีอะไร และเรื่องราวเป็นมายังไง ? ลักษณะท่าทางเป็นแบบไหน ? เรื่องพวกนี้ตรวจสอบได้อยู่แล้ว
เพราะจากจุดนี้ จึงเป็นจุดที่ทุกคนพอจะยอมรับมันได้ง่ายขึ้น
“คุณหลี่ เจ้าหน้าที่แทนการพิเศษโจวพูดชัดเจนขนาดนี้แล้ว คุณยังจะกังวลอะไรอีก ? ”นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่เข้าใจท่าทีของหลี่หมิง
“ยังไงผมก็ไม่เชื่อพวกเขา”หลี่หมิงยังคงยืนกรานความคิดของตัวเอง ย้ำคำเดียว ไม่เชื่อพวกเขา
“ถ้าอย่างนั้น เราขอถามคุณหลี่ว่า คุณเชื่อใคร ? ” นักข่าวคนนั้นนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็ถามออกไปตรงๆ
หลี่หมิงเอาแต่พูดว่าไม่เชื่อคนของมูลนิธิ แล้วเขาเชื่อใคร ?
ก่อนหน้านั้นนอกจากเขาจะให้นักข่าวสัมภาษณ์เด็กหญิงแล้ว หนึ่งคือเขาไม่ได้แจ้งความกับตำรวจ และสองเขาไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือองค์กรใดๆ และพูดย้ำอยู่ตลอดว่าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเด็กหญิง
สิ่งที่เขากำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้ลูกสาวคือการให้สื่อรายงานข่าวเรื่องนี้ และให้สื่อเผยแพร่ความเจ็บปวดของลูกสาวซ้ำๆอยู่อย่างนั้นเหรอ ?
และก็ไม่ได้ทำอะไรอีกนอกจากนั้น ?
แบบนี้ก็สามารถจับคนร้ายมาลงโทษได้ ?
นี่มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรอกเหรอ ?
“คุณหลี่ เราเป็นสื่อทำได้แค่เพียงสัมภาษณ์ สิ่งที่เราทำได้ก็คือการตีแผ่เรื่องราวออกไป ให้ทุกคนได้เห็น แต่เราไม่สามารถช่วยคุณแก้ปัญหาเบื้องลึกนั้นได้ หากเราสามารถช่วยอะไรคุณได้ นั่นก็คือการที่เราตีแผ่ข่าวออกไป แล้วให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบ และดึงดูดความสนใจ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือคุณแก้ปัญหานี้ แต่ตอนนี้คุณกลับปฏิเสธความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แม้แต่ความช่วยเหลือจากมูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กคุณก็ปฏิเสธ การกระทำของคุณแบบนี้เราไม่เข้าใจจริงๆ ”ครั้งนี้คำพูดของนักข่าวซัดไปตรงๆ และชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม
“คุณหลี่ คุณต้องรู้ ว่ามูลนิธิพิทักษ์สตรีและเด็กประชาชาตินี้ มีขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกทารุณกรรม กลุ่มเปราะบางที่ถูกรังแก สิ่งนี่เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็รู้กันดี คุณบอกได้ไหมว่าทำไมคุณถึงตั้งแง่กับพวกเขาแบบนี้?” มีนักข่าวคนหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมา
“ฉันแค่ไม่เชื่อพวกเขา”ในตอนที่หลี่หมิงพูดประโยคนี้ ตัวเขาเองก็เอาแต่หลบตาไปมาด้วย
“คุณหลี่ฉันคิดว่าคุณควรจะลองเชื่อใจพวกเขา เพราะพวกเขาสามารถช่วยคุณได้ และช่วยลูกสาวคุณได้จริงๆ ” นักข่าวต่างมึนงง จากนั้นก็เกลี้ยกล่อมหลี่หมิง และนักข่าวที่ต้องเผชิญหน้ากับหลี่หมิงต่างก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรในตอนนี้
“คุณหลี่ คุณเชื่อใจพวกเราได้ เพราะคุณหลิวมาขอร้องพวกเรา พวกเราได้ยินเรื่องที่ลูกสาวคุณประสบพบเจอมาเรารู้สึกเห็นใจมากจริงๆ เพราะฉะนั้นทางองค์กรจึงได้ให้เรามาช่วยคุณ”เจ้าหน้าที่แทนการพิเศษโจวแสดงเจตนารมณ์ของตัวเองอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน
แอด ถ้าเป็นไปได้ช่วยอัพ1031-1049เป็นจื่อโม่จะเผยตัวกับพ่อ ท่อนนี้หายไป ไม่รู้จะไปตามเรื่องนี้ได้ที่ไหน ขอบคุณมากกกกกกกก...
ตอนหายไป 400 ตอนเลย จะหาอ่านได้ที่ไหนคะ 😓...