ตอนที่ 172
เปลี่ยน เจ้าวัง เป็น เจ้านิกาย
มัน..ฝ่าด่าน?
อสูรหมีดําจ้องมองอสูรหมูป่าด้วยความงุนงง ปากของมันอ้ากว้าง
อสูรตัวอื่นๆก็ตกตะลึงและแข็งที่อเหมือนรูปปั้น
“นี่…ข้า..”
อสูรหมูป่าก็สับสนเช่นกันหลังจากทําท่าทางไม่อยากชื่อสักครู่มันก็อ้าปากค้าง “กะหล่ําปลีมีวิถีเต! เมื่อรวมภัยร่างกายของข้าที่ผ่านการโจมตีของทัณฑ์สวรรค์ เมื่อเป็นเช่นนั้นข้าจึงฝ่าด่านไปยังขอบเขตมรสุม?”
อสูรงหลามสีเขียวเกือบจะร้องไห้ด้วยความอิจฉา “ข้าน่าจะเป็นอาสาสมัครไปเอง ใครจะรู้ว่าการถูกฟ้าผ่าจะก่อให้เกิดประโยชน์เช่นนี้!
“ข้าควรจะรู้ข้าควรจะรู้!” อสูรหมีดําส่ายหัวและถอนหายใจ “นายของท่านต้าจจะธรรมดาได้อย่างไร เขามอบโชคดีให้กับผู้ที่ทํางานให้ พลาด! ข้าพลาดโอกาสนี้! ข้ามันหมู!”
ทันใดนั้นอสูรหมูป่าก็ต้องกลับมาและพูดว่า “เจ้ามันขยะ! หมู? เจ้า? งั้นเจ้าก็ไปตายแล้วเกิดใหม่ซะ”
วังเต่ํา
ศิษย์นับไม่ถ้วนรีบกลับมา พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความเศร์
การตกแต่งภายในของพระราชวังก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผ้าสีขาวถูกแขวนไว้ทุกที่ สามารถได้ยินเสียงพึมพําอยู่ พร้อมกับเสียงร้องไห้และเสียงสะอื้น มันเป็นเรื่องน่าเศร้า
ฉันม่านหยุนและผู้อาวุโสทั้งสี่ของวังหลินเซียนเต่ ยืนอยู่ตรงกลางห้องโถงใหญ่ พวกเขามองโลงศพที่วางอยู่ตรงกลางด้วยความโศกเศร้า
ภายในโลงศพมีเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่เหยาเพิ่งจี้สวมใส่อยู่เป็นประจํา พวกมันเป็นสิ่งที่เขาชอบ
ฉันม่านหยุนกําลังเผากระดาษรูปที่หน้าโลงศพ ผู้อาวุโสทั้งสี่ปล่อยให้ศิษย์ต่อแถวเคารพอย่างเป็นระเบียบ
ฉันม่านหยุนเช็ดน้ําตาของนางและพูดอย่างเศร้า ๆ ว่า“ท่านอาจารย์ ท่านพักผ่อนอย่างสงบเถิด! ม่านหยุนจะจดจําคําสอนของท่านไว้เสมอ ท่านสามารถมั่นใจได้ว่าวังเต่จะคงอยู่ตลอดไป!”
ทันใดนั้นร่างหนึ่งก็บินมาจากระยะไกล ร่างนั้นดูตื่นเต้น
“ข้าเกือบจะถึงวังเต่ําแล้ว ม่านหยุนและคนอื่นๆ จะได้รู้ว่าข้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาต้องประหลาดใจมากแน่ๆ… “เหยาเพิ่งจี้คิดแล้วยิ้ม ฮะ? ทําไมวัง หลินเซียนเต่ํา ถึงมีคนเยอะเช่นนี้? บางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่าข้าไม่ตายและ วางแผนงานฉลองให้ข้า?”
เหยาเพิ่งจี้เร่งความเร็วขึ้น
จากนั้นเขาก็ดูตกตะลึง
นี่เป็นงานศพใช่ไหม ใครตาย?
“ท่านเจ้าหวัง ท่านเสียชีวิตอย่างน่าอนาถ ข้าขอให้ท่านพักผ่อนอย่างสงบสุข”
“ข้าได้ยินมาว่า เจ้านิกายเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง เขาถูกฟ้าผ่าจนกระดูกกลายเป็นสีดํา!”
“ไม่เพียงแค่นั้น, ข้าได้ยินมาว่า เจ้านิกายถูกระเบิดจนเป็นเถ้าธุลีแม้กระทั่งศพยังไม่มี ดังนั้นพวกเขาจึงใส่เสื้อผ้าของเขาแทน”
“ช่างน่าเศร้า เจ้านิกาย โปรดพักผ่อนอย่างสงบ …”
เหยาเพิ่งจิ้มีใบหน้าที่มืดมน เขาขบกรามแน่นและคําราม”ฉินหม่านหยุน โจวต้าเฉิง พวกเจ้าทุกคนออกมา!”
เสียงตะโกนของเขาทําให้วังหลินเซียนเต่ที่มีเสียงดังเงียบลง ทุกคนหยุดร้องไห้พร้อมกัน
ทุกคนนิ่งงัน พวกเขาทั้งหมดมองขึ้นไปบนฟ้า
พวกเขาเห็นชายชราคนหนึ่งที่มีเสื้อผ้าขาดวิ่นมีรอยไหม้เกรียมตามร่างกายและท่าทางสกปรก เขากําลังลอยตัวและดูโกรธเกรี้ยว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่