ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 226

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า เธอไม่มีพิธีรีตองอะไรอีกต่อไปจากนั้นก็เปิดม่านเดินเข้าไปภายในห้อง

เมื่อเท้าของเธอก้าวเข้าไปด้านในก็ได้กลิ่นคาวเลือดตีขึ้นมา นั่นก็เป็นเพราะประตูหน้าต่างนั้นถูกปิดอย่างสนิท ภายในห้องนั้นร้อนอบอ้าวทำให้กลิ่นนี้ยิ่งดูน่าอาเจียนออกมา

เหลิ่งชิงฮวนอดกลั้นเอาไว้ เธอเดินไปที่ข้างเตียงของพระชายารุ่ย เมื่อเห็นว่าร่างของเธอนั้นเต็มไปด้วยเหงื่อซึมจนผมเปียกไปหมด เหงื่อผุดเป็นเม็ดอยู่เต็มใบหน้า ใบหน้าของเธอขาวซีด ดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท มีเพียงแค่ปีกจมูกที่ยังคงขยับอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังมีเสียงครางออกมาอย่างแผ่วเบาที่แสดงให้เห็นว่า หญิงตั้งครรภ์คนนี้ยังมีลมหายใจอยู่

เหลิ่งชิงฮวนรีบเปิดแหวนนาโนของเธออก แล้วตรวจร่างกายให้กับเธอ

การหดตัวของมดลูกนั้นอ่อนแรง กระดูกเชิงกรานเล็กเกินไป และปากมดลูกยังเปิดไม่เต็มที่ อีกทั้งรกยังพันคอของเด็ก ที่สำคัญที่สุดคือ ตำแหน่งของเด็กในครรภ์นั้นไม่ถูกต้อง เด็กไม่กลับหัว! ก้นของเด็กนั้นหันไปด้านล่าง!

ด้วยปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวยหลายอย่างนี้ประกอบเข้าด้วยกัน โอกาสที่แม่ของเด็กจะสามารถคลอดออกมาได้ตามธรรมชาตินั้นเป็นไปได้ หากยังคงช้าต่อไป น้ำคร่ำก็จะขุ่น ถ้าหากว่าเด็กเข้าสู่ช่องคลอดแล้ว ก็ยังมีภาวะเสี่ยงจากการขาดออกซิเจน

โดยเข้าไปตรวจอาการให้กับหญิงตั้งครรภ์ พระชายารุ่ยลืมตาขึ้นมาด้วยดวงตาที่สั่นไหว เมื่อเห็นเธอก็ร้องหึออกมาเบาๆ พร้อมกับเบนหน้าออกไป

“เจ้ามาทำอะไร”

“ทำคลอด”

พระชายารุ่ยออกแรงยกมือขึ้นมาอย่างสุดแรง “เจ้าไม่จำเป็นต้องแกล้งทำตัวเป็นคนดีมาที่นี่หรอก ออกไป!”

เหลิ่งชิงฮวนขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ยังมีแรงเลือกหมอ ดูท่าว่าเจ้าคงไม่ตายไปเร็วๆนี้ ข้าเองก็ไม่ได้รีบ งั้นก็รอให้เจ้าหมดลมหายใจไปจากนั้นช่วยเด็กไว้ก็พอแล้ว”

“เรื่องของข้าไม่ต้องให้เจ้ามายุ่ง!” พระชายารุ่ยขบกรามแน่น “ผู้หญิงที่ไม่รักนวลสงวนตัวอย่างเจ้า ทำลายขนบธรรมเนียมที่ดีงามของเรา อีกทั้งยังไร้ยางอาย ข้าไม่อยากที่จะข้องแวะกับเจ้า! ที่นี่นั้นมีหมอตำแยอยู่แล้ว!”

เหลิ่งชิงฮวนรู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว ตัวเธอกำลังอยู่ในช่วงฮันนีมูนอยู่นะกลับต้องวิ่งโร่มาช่วยคน แถมยังต้องมาโดนดูถูกอีก

ผู้หญิงในโลกนี้นั้นช่างพูดจาคร่ำครึเสียจริง แม้แต่พระชายารุ่ยที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวจนแทบจะหมดลมอยู่แล้ว ก็ยังปฏิเสธที่จะให้หมอเข้ามาทำการรักษาภายในห้อง และยังกลัวว่าเธอจะเข้าไปช่วยทำให้เสื่อมเสียเกียรติของตัวเธออีก

ไม่แปลกใจเลยว่าคนที่อยู่ด้านนอกเรือนทั้งหมดนั้นต่างพากันยอมแพ้ให้กับชีวิต ของเธอ โทษคนอื่นไม่ได้ เป็นตัวของเธอเองที่ดูถูกตัวเอง

ถ้าหากไม่ใช้เป็นลี่ว์อู๋มาขอให้เธอช่วยรักษา ทำไมเธอต้องมาลำบากโดนด่าแบบนี้ด้วย

เหลิ่งชิงฮวนมองไปยังเธออย่างเย็นชา “ให้หมอตำแยมาช่วยเจ้า? เจ้ารู้ไหมว่านางจะช่วยเจ้าอย่างไร ก็ใช้น้ำมันละหุ่งสักสองสามชามบวกกับยาขับเลือด จากนั้นก็บีบจมูกแล้วยัดใส่เข้าปากของเจ้า พอถึงเวลานั้นแล้วเจ้ารู้ไหมว่ามันจะทำให้เจ้าตกเลือด แล้วเลือดก็จะไหลออกมาจากตัวเจ้าจนหมดตัว เจ้าคิดจะมีชีวิตอยู่ก็ทำไม่ได้

จากนั้นพวกนางก็จะเอามือสอดเข้าไปเพื่อช่วยนวดให้เด็กกลับหัว จากนั้นก็จะเอาเด็กออกมาเป็นๆ เด็กก็จะคลอดออกมาก่อนกำหนด กะโหลกของเด็กที่ยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่นั้นจะสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้นก็ไม่อาจรู้ได้

เจ้าต้องการรักษาหน้าตาของตัวเองไว้ และวางมาดไว้เพื่อให้ไปพร้อมกับชีวิตของเจ้าจนได้รับชื่อเสียงที่ดีงามและบริสุทธิ์ แต่จะมีใครจดจำเจ้าได้กัน พอถึงเวลาท่านอ๋องรุ่ยก็จะแต่งคนใหม่เข้ามานอนอยู่บนเตียงของเจ้า และหลับนอนกับผู้ชายของเจ้า ทั้งยังทุบตีลูกทั้งสองคนของเจ้า เจ้าจะยังทำเป็นมองไม่เห็นได้อีกหรือ”

คำพูดที่พูดออกมาทำให้พระชายารุ่ยโมโหจนตัวสั่น เธอกลั้นความเจ็บปวดเอาไว้และใช้กำลังอย่างสุดแรงเกิด “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว ไสหัวออกไปซะ!”

“งั้นเจ้าก็นอนรอความตายเถอะ!”

เหลิ่งชิงฮวนคำรามออกมาในลำคอ เธอหมุนตัวและเดินออกไป เมื่อเดินไปถึงที่ประตูเธอก็หันหน้ากลับมาอย่างไม่มีท่าทีเย่อหยิ่ง “ขอถามเจ้า ยังอยากมีชีวิตอยู่ไหม”

ในวินาทีที่เธอหันหลังไปนั้นที่จริงแล้วพระชายารุ่ยรู้สึกเสียใจ “ข้าอยากมีชีวิตอยู่ แต่เด็กคนนี้ก็ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปเช่นกัน!”

“งั้นเจ้าก็พูดให้น้อยหน่อย เจ้าหญิงพูดมากเลยคำ เด็กก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น”

พระชายารุ่ยเงียบปากไปในทันที “ข้าขอถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าช่วยลูกของข้าได้จริงหรือ”

“ไม่อย่างนั้นข้าจะมาคุยเล่นเป็นเพื่อนเจ้าที่นี่หรือไง”

แม้แต่มดตัวเล็กๆก็ยังรักชีวิตของตัวเอง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพระชายารุ่ยที่กำลังจะกลายเป็นแม่คน คำพูดอันตรงไปตรงมาไม่กี่ประโยคของเหลิ่งชิงฮวนบาดเข้าไปในใจของเธอ ความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้นทำให้เธออยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปมากขึ้นไปอีก เธอกัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ได้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา