คำพูดของเฟิ่งเหล่ยอวี้ทำให้โฉวซือเส่ากังวล “เจ้าคิดว่า ข้าชอบเหลิ่งชิงฮวนงั้นหรือ?”
เฟิ่งเหล่ยอวี้เงยหน้าขึ้นไปมองเขา “ทั้งชอบ และไม่ชอบ”
“ทำไมล่ะ?” โฉวซือเส่าสงสัย
“เหล่ยอวี้ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเพคะ ความชอบที่ท่านมีต่อพระชายาอ๋องฉีนั้นอยู่ระหว่างชอบและรัก ไม่โอนเอียงไปทางใดทางหนึ่ง ท่านบังคับความรู้สึกของตนไว้ที่ตำแหน่งนั้นตั้งแต่แรก ไม่ก้าวไปข้างหน้าแต่ก็ไม่ถอยหลังหนี ไม่ยอมแต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้ ท่านน่ะอ่อนไหวง่าย กลัวว่าจะถูกปฏิเสธและหลุดมือไป”
“พอนานวันเข้า ความชอบของท่านกลายเป็นความอิจฉาลึกๆ ในใจ ยิ่งชอบมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นรอยฝังลึกที่เอาไม่ออก ท่านหวังให้นางมีความสุข แม้ว่าจะต้องยอมปล่อยมือ แม้ตนเองจะต้องเสียใจมากกว่าการได้ครอบครองอย่างเห็นแก่ตัว”
“ดังนั้นในตอนที่ท่านไม่สามารถครอบครองได้ ท่านจึงแสร้งทำเป็นปล่อยมือและเดินออกมาอย่างสง่างาม เช่นนั้นความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านสองคนจึงจะยังคงดำเนินต่อไปยืนยาว”
นี่เป็นครั้งแรกที่โฉวซือเส่ามองเด็กสาวคนนี้อย่างจริงจัง เป็นจริงอย่างที่เหลิ่งชิงฮวนบอก นางเติบโตขึ้นแล้ว สามารถพูดความรู้สึกออกมาได้เช่นนี้ เฉลียวฉลาดเสียจริง
เขามองนางเป็นเพียงเงาที่เลือนรางมาโดยตลอด
“เจ้ารู้ได้อย่างไร มองออกจากตรงไหน?”
เฟิ่งเหล่ยอวี้เอ่ยเสียงเบา “ความรู้สึกเดียวกันเจ้าค่ะ”
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
“ข้าบอกว่า ท่านเป็นเจ้านายของข้า ข้าย่อมต้องเดาใจของท่านได้ เช่นนั้นถึงจะได้ทำอะไรถูกใจท่าน”
โฉวซือเส่ายกมือขึ้นมาลูบหัวเธอ เส้นผมของเธออ่อนนุ่มและไหลลื่นเหมือนผ้าไหม ว่ากันว่าคนที่ผมนุ่มนั้นจะนิสัยดี เป็นอย่างที่เขาว่ากันจริงๆ เขาไม่เคยเห็นเฟิ่งเหล่ยอวี้โมโหมาก่อน ต่อให้เสี่ยวอวิ๋นเช่อจะเกเรขนาดไหน นางก็ยังคงรักเอ็นดูเขา อ่อนโยนราวกับปุยนุ่น
“เด็กน้อย ช่างพูดช่างเจรจาเสียจริง”
เฟิ่งเหล่ยอวี้เอียงศีรษะก่อนจะระบายยิ้ม
โฉวซือเส่าเองก็ยิ้ม ไม่พูดอะไรต่อและหันหลังเดินออกไป
วันนี้ เหลิ่งชิงฮวนและมู่หรงฉีอยู่ในห้องหอ ชิงฮวนบอกเขามากมายด้วยท่าทีปกติ
เหลิ่งชิงฮวนตามหาความสุขที่หายไปของนางเจอแล้ว มีที่พึ่งพิงแล้ว เขาเองก็ยินดีและอิจฉา
นับตั้งแต่นี้ต่อไป ความทุกข์ความสุขของนางจะไม่เกี่ยวกับเขาอีกต่อไป
ความชอบที่เขามีต่อชิงฮวนไม่ได้น้อยไปกว่าผู้ใด เขารู้ว่าความชอบคือการสนับสนุน ทุ่มเทและยอมหลีกทาง เพื่อไม่ให้นางลำบากใจ ไม่ให้นางต้องรู้สึกผิด ดังนั้นเขาจึงต้องแสร้งทำเหมือนว่าตนเองไม่เป็นอะไร
ถึงเวลา ที่ต้องเดินออกมาแล้ว
ดั่งคำพูดของชิงฮวน แม้จะไม่ใช่คนรัก สามีภรรยา แต่ยังเป็นครอบครัวที่ไม่อาจแยกจากได้
ชิงฮวนหวังว่าเขาจะสามารถก้าวผ่านความรู้สึกในใจ พบเจอกับความสุขที่เป็นของเขา ต่อให้ไม่มีมู่หรงฉี แต่บางสิ่งบางอย่างนางก็ไม่สามารถมอบให้เขาได้
ให้เวลาเขา เขาต้องทำใจ ต้องก้าวผ่าน ต้องปล่อยวาง หรือบางทีก็ต้องลองดู
เช้าตรู่วันต่อมา แสงแดดทอประกาย
โฉวซือเส่าลุกขึ้นมาเก็บข้าวของสะพายขึ้นหลัง เขาหยิบดาบยาวขึ้นมา หันหลังกลับไปมองกำแพงจวนอ๋องฉีพลางถอนหายใจแล้วเดินออกจากเรือนไป
หน้าประตูด้านนอกมีคนหนึ่งคนนั่งกอดเข่าขดตัวเป็นก้อนอยู่ น้ำค้างแข็งตกอยู่บนเส้นผม ไม่รู้ว่าอยู่ตรงนี้มานานเท่าไหร่แล้ว
อีกฝ่ายได้ยินเสียงเขาเปิดประตูจึงรีบลุกขึ้นมา กอดถุงผ้าไว้ในอกก่อนจะฉีกยิ้มซื่อๆ ให้โฉวซือเส่า ดวงตาเป็นประกายราวกับลูกกวางตัวน้อย “นายท่าน”
โฉวซือเส่าเลิกคิ้ว “ไม่ใช่ว่าข้าให้เจ้าอยู่ที่นี่หรอกหรือ?”
เขาเดินถือดาบออกไปโดยไม่หันมองหน้านาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...