ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 225

ในพระวินัยปิฏกบันทึกไว้ว่า “เสี้ยววินาทีหนึ่งนั้นคือหนึ่งช่วงความคิด ยี่สิบช่วงความคิดนั้นคือชั่วพริบตา ยี่สิบชั่วพริบตาคือเวลาเพียงดีดนิ้ว ยี่สิบชั่วเวลาดีดนิ้วนั้นเป็นหนึ่งช่วงเวลา ยี่สิบช่วงเวลาเป็นชั่วขณะหนึ่ง เวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนเป็นเวลาสามสิบชั่วขณะ”

แต่เวลาบนภูเขานั้น เงียบสงบดุจสายน้ำ และผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เวลา 3 วัน ผ่านไปกว่า 90 ชั่วขณะแล้ว แต่ถึงกระนั้นกลับรู้สึกราวกับผ่านไปเพียงชั่วเวลาดีดนิ้วเท่านั้น

ถ้ามู่หรงฉีไม่บอกว่าจะจากไป เหลิ่งชิงฮวนเองก็ไม่มีทางเอ่ยปากขึ้นมา ขอเพียงแค่พวกเขาไม่ออกไปจากภูเขานี้ก็สามารถตัดขาดออกจากโลกภายนอกได้แล้ว

มู่หรงฉีใช้นิ้วชี้ไปทั่วบ้าน และพูดกับเธออย่างเสน่หาว่า “สิ่งที่ข้าต้องการทั้งหมดมีเพียงอย่างเดียวคือการได้อยู่ในบ้านหลังนี้ ยามเมื่อสายลมมาปะทะเข้ากับกายข้า แสงอาทิตย์อัสดงได้โอบล้อมกายข้า ก็เหมือนกับได้กับขังตลอดทั้งชีวิตของข้าเอาไว้กับเจ้าชิงฮวน”

เหลิ่งชิงฮวนที่อยู่ในอ้อมกอดของเขาย่นจมูกขึ้นเล็กน้อย เธอรู้สึกว่ามู่หรงฉีนั้นถูกแม่ของเขาบีบบังคับเสียจนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีเสียแล้ว ทำไมเขาถึงได้กลายเป็นคนเจ้าเล่ห์แบบนี้ได้นะ บนโลกนี้คงเหลือก็แต่คนที่ข้ามพ้นโลกมนุษย์มาแล้วออกบวชเป็นพระแล้วล่ะ

มีบ้านช่องมากมาย มีทรัพย์สินจำนวนมาก เรียกลมเรียกฝนได้จะไม่มีความสุขได้อย่างไร

สิ่งที่หามาได้อย่างง่ายๆในยุคปัจจุบันกลับกลายเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยควรค่าที่จะให้ท่านอ๋องรู้สึกเสียดาย

ดูท่าว่าเขาจะต้องไปแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะใหม่ยินยอมที่จะไปเลยสักนิด

ยามเช้าตรู่วันที่สี่ ม้าเร็วก็เข้ามาทำลายความสงบ

ท่านรองแม่ทัพสูงสุดอวี๋ลงจากหลังม้า แล้วพุ่งเข้ามาด้านใน

สองสามีภรรยาคู่นั้นได้ตื่นมาแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหาร มู่หรงฉีกำลังซ้อมดาบอยู่ในลานบ้าน เหลิ่งชิงฮวนยังคงนอนตาปิดอยู่บนเตียง

“ท่านอ๋อง ทันอยู่ที่นี่จริงๆด้วย ทำให้ข้าน้อยหาตัวได้ง่ายแล้ว!”

มู่หรงฉีนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าของม้านานแล้ว เขารู้ว่าท่านรองแม่ทัพสูงสุดอวี๋จะต้องตามมาที่นี่และจะต้องมีเรื่องสำคัญ เขาเก็บดาบลง “ทำไม มีเรื่อง?”

ท่านรองแม่ทัพสูงสุดอวี๋พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมาว่า “จวนอ๋องรุ่ยเกิดเรื่องแล้วขอรับ พระชายารุ่ยถูกชนจนล้มและได้รับการกระทบกระเทือนถึงพระครรภ์ จนทำให้คลอดได้ยาก ตอนนี้ทำคลอดมาสองวันสองคืนแล้วขอรับแต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ตัวของนางเอกก็จะไม่ไหวแล้ว องค์หญิงเจ็ดได้มาที่จวนของเราด้วยตัวเองเพื่อที่จะขอให้พระชายาไปช่วย ข้าน้อยเองก็ไม่รอช้าจึงรีบมาที่นี่เพื่อแจ้งข่าวขอรับ”

เหลิ่งชิงฮวนที่อยู่ภายในบ้านนั้นก็ไม่มีทีท่าง่วงงุนอีกต่อไปแล้ว เธอลุกผึงขึ้นมา ภายในพระชายาไม่กี่คนนั้นพระชายารุ่ยนั้นเป็นคนที่เธอจำได้ดีที่สุด เนื่องจาก เธอเป็นคนที่พูดจากับเธอได้อย่างเจ็บๆแสบ และแสดงออกมาว่าดูถูกเธออย่างเห็นได้ชัด

คลอดลูกมาสองวันสองคืนแล้ว? นางคงจะเหนื่อยจนหมดแรงมาตั้งนานแล้ว

ทั้งสองคนไม่รอช้ารีบลุกขึ้น แล้วขับเกวียนออกจากผู้เข้า

ไม่แม้แต่จะกลับไปที่จวนอ๋อง พวกเขาตรงไปยังจวนอ๋องรุ่ย และออกคำสั่งให้ท่านรองแม่ทัพสูงสุดอวี๋กลับไปที่จวนเพื่อเอากล่องยา

มู่หรงฉีลังเลอยู่นาน และเตือนเหลิ่งชิงฮวนว่า “ถ้าหากว่าสถานการณ์ไม่ดี เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องฝืน”

ที่จริงแล้วเขาไม่จำเป็นต้องออกปากเตือน เหลิ่งชิงฮวนเองก็รู้ว่าโดยฐานะของเธอแล้วไม่สมควรที่จะต้องมาทำเรื่องนี้

ถ้าหากปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกนั้นก็ดี แต่ถ้าหากว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กก็เป็นเรื่องง่ายที่จะถูกคนที่คิดไม่ดีนั้นเอามาทำให้เป็นเรื่อง

อย่างไรเสียคนที่ไม่อยากให้พระชายารุ่ยคลอดเด็กคนนี้ออกมาก็มีอยู่ไม่ใช่น้อย เหมือนกับการคาดเดาความคิดของคนอื่นนั้นยากที่จะเลี่ยงให้ผู้อื่นนั้นไม่ตั้งคำถาม

เหลิ่งชิงฮวนพยักหน้า “หม่อมฉันจะทำไปตามที่โอกาสเอื้ออำนวยเพคะ และจะรอดูสถานการณ์ก่อนจึงจะตัดสินใจลงมือ”

ที่หน้าประตูจวนอ๋องรุ่ย มีรถใหม่จำนวนมากจอดอยู่เต็มไปหมด อีกทั้งยังมีรถม้าที่มาจากพระราชวัง ลี่ว์อู๋นั้นยืนรออยู่ที่หน้าประตูอย่างร้อนรน เมื่อเธอได้เห็นเหลิ่งชิงฮวนก็รีบวิ่งเข้ามาราวกับจะร้องไห้

“พี่สะใภ้สามคะ รีบไปช่วยพี่สะใภ้ของข้าที”

ลี่ว์อู๋กับอ๋องรุ่ยนั้นมีแม่คนเดียวกัน ดังนั้นเธอกับพระชายารุ่ยจึงสนิทกัน

“เกิดอะไรขึ้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา