เข้าสู่ระบบผ่าน

อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์ นิยาย บท 5

ดวงตาของจางซื่อหมิงมีประกายแบบคนที่เห็นหนทางรำไร “ถ้าเช่นนั้นท่านไปอยู่โรงเลี้ยงม้าดีหรือไม่ ท่านแม่ทัพมีม้าคู่ใจอยู่ตัวหนึ่ง เมื่อมีเวลาว่างก็จะแวะเวียนไปดูมันเสมอ”

“แต่...ข้าดูแลม้าไม่เป็น ได้แต่ขี่อย่างเดียว”

“นั่นสินะ” เขาพึมพำ จะให้องค์หญิงมาคอยแปรงขนม้า เก็บมูลของมันและป้อนหญ้าได้อย่างไร

“อย่าเพิ่งถอดใจไป ข้ารู้แล้ว!” นางร้องด้วยความยินดี ท่าทางแจ่มใสขึ้นมา “ฝ่ายเครื่องแต่งกายอย่างไรเล่า ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องแต่งตัวไม่ใช่หรือ ขนาดในตำหนักของข้า ยังต้องใช้คนตั้งมากมาย กองทัพที่มีทหารหลายพันคนเช่นนี้ ย่อมต้องการแรงงานเป็นแน่”

“พวกเขาไม่ใคร่สนใจการแต่งตัวนัก ส่วนมากแล้วจะสวมใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ เพราะไม่ค่อยมีเวลาและใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ บวกกับการทำงานหนัก สิ่งที่ขาดไม่ได้คือชุดเกราะเท่านั้นเอง”

หยางจูถอนหายใจเฮือกใหญ่ “เห็นจะมีเพียงคนรับใช้ส่วนตัวของเขาเท่านั้น ที่จะได้อยู่ชิดใกล้เกือบจะตลอดเวลา”

“แต่กว่าจะไปถึงตำแหน่งนั้นได้ ก็ต้องอยู่ในสายตาของท่านแม่ทัพเสียก่อน เมื่อท่านแสดงให้เห็นความสามารถ เขาต้องย่อมเรียกท่านเข้าไปรับใช้”

“ใช่” นางผงกศีรษะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่านอกจากเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่มแล้ว คนเรายังต้องกินอีกด้วย บางทีนางน่าจะเข้าไปทำอะไรในโรงครัวได้บ้าง เช่น ล้างถ้วยชามหรือเตรียมวัตถุดิบต่าง ๆ แม้ว่านางจะไม่เคยทำมาก่อนก็ตาม

อันที่จริง นางแทบไม่เคยทำอะไรเลย แม้แต่อาบน้ำแต่งตัว ก็ยังมีนางกำนัลมาทำให้

“โรงครัวล่ะ ข้าคิดว่างานไม่น่าจะหนักหนาเท่าส่วนอื่น” หยางจูลองเสนอความคิดเห็นอีกรอบ

“จริงด้วย ข้าสามารถมอบหมายให้ท่านเป็นคนยกสำรับของท่านแม่ทัพได้ด้วย เพียงเท่านี้ ท่านก็จะได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาแน่นอน”

จางซื่อหมิงเหมือนเห็นทางสว่าง

“ว่าแต่...ข้าต้องทำหน้าที่ชิมอาหารหรือไม่ เสด็จพ่อของข้ามักจะโดนลอบวางยาพิษ แม้แต่ข้าและพี่ชายก็ยังต้องคอยระวัง มู่หรงเซียวหนานเป็นถึงแม่ทัพ อาจจะมีศัตรูหรือหนอนบ่อนไส้อยากเอาชีวิตเขาก็เป็นได้ เพราะหากขาดเขาไปสักคน กองทัพคงระส่ำระสายน่าดู”

องค์หญิงหยางจูแสดงให้เห็นด้านที่ฉลาดเฉลียวของนาง คำพูดคำจาดูเข้าใจเรื่องการบริหารบ้านเมืองมากกว่าหญิงอื่นทั่วไปนัก

“ท่านไม่ต้องทำหน้าที่นั้น อย่าห่วงไปเลย” จางซื่อหมิงพูดให้นางคลายใจ “แม้ว่าจะมีคนปองร้ายท่านแม่ทัพอยู่บ้าง แต่เขาก็ระมัดระวังตัวเองยิ่งนัก และมีทหารอารักขาตลอดเวลา”

“ถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ท่านช่วยเป็นธุระจัดการให้ข้าที”

“พ่ะย่ะค่ะ เอ้อ ขอรับ”

นางยิ้มอย่างอดไม่ได้ ที่ใครต่อใครทำท่าเงอะงะ รีบแก้คำพูดของตัวเองและหน้าแดงซ่านเพราะความอับอาย

“อยู่ที่นี่ ท่านอย่าทำตัวเด่นเป็นพอ จนกว่าจะได้เข้าไปอยู่ในความดูแลของท่านแม่ทัพ หากต้องการสิ่งใด แจ้งข้าได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อต้องการความช่วยเหลือ”

“เหตุใดทำตัวเด่นจะเป็นภัยหรือท่าน”

มือหนาดันประตูเปิดแล้วก้าวออกไปในความมืดมิด เพราะนั่งคุยกันเป็นเวลานาน แสงสลัวเรืองรองในตอนแรกจึงได้หมดไป ทิ้งไว้เพียงความมืดดำของรัตติกาล

จางซื่อหมิงออกเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงแหบห้าวก็ร้องเรียกจากทางด้านหลัง รองแม่ทัพชะงักเท้า ขณะที่หยางจูซึ่งยืนอยู่หลังประตูก็หยุดนิ่งเช่นกัน

“ซื่อหมิง ข้าตามหาท่านไปทั่ว มาทำอะไรแถวนี้” มู่หรงเซียวหนานเดินเข้ามาหา ขณะที่จางซื่อหมิงก็ปรับสีหน้าให้เรียบเฉยเป็นปกติ

“ข้าเพียงแต่มาเดินตรวจตราความเรียบร้อย กำลังจะกลับที่พัก ท่านตามหาข้า ต้องการสิ่งใดหรือ”

“ข้าอยากขอความเห็นท่านเรื่องการสร้างป้อมปราการใหม่ หากไม่รบกวนเกินไป ข้าก็อยากจะขอเวลาสักประเดี๋ยว”

“ท่านแม่ทัพอย่ากล่าวเช่นนั้น ไม่ถือเป็นการรบกวนแต่อย่างใด” จางซื่อหมิงตอบ พลางเหล่ตามองเงาขององค์หญิง หยางจูที่ยืนอยู่หลังประตู นึกอยากจะให้นางกลับไปนั่งตามเดิม

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”

การสนทนาไม่ได้ยาวไปกว่านั้น แต่หยางจูที่เฝ้าแต่คิดถึงบุรุษหนุ่มท่าทางผึ่งผายและการพูดจาหนักแน่นที่นางเคยเห็นบ่อยครั้ง ก็รู้สึกเต็มตื้นในอกและดีใจที่ได้อยู่ใกล้เขาอีกครั้ง นางต้องหักห้ามใจอย่างมากที่จะไม่เปิดประตูออกไป จึงได้แต่ยืนมองร่างของเขาในความมืด

แต่อีกไม่นานเกินรอ นางคงจะได้เขามาเคียงข้าง ให้สมความมุ่งมาดปรารถนาอย่างแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์