ความอึดอัดท่วมท้นขึ้นมาในจิตใจเมื่อได้ยินคำตำหนิว่าอาหารรสชาติแปลกประหลาด หยางจูรู้ดีว่าต้องเป็นเพราะเกลือที่นางโรยลงไปตามคำสั่งเป็นแน่ แต่คงจะใส่มากไปหน่อย หรือไม่อย่างนั้นก็อาจจะมีขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งผิดพลาดจนรสชาติอาหารออกมาผิดแผกไปจากเดิม
“คนครัวคนเดิมหรือเปล่า”
“คนเดิมขอรับ”
มู่หรงเซียวหนานมุ่นหัวคิ้ว ลองตักน้ำแกงพร้อมกับเนื้อไก่กินอีกครั้ง “น้ำแกงนี่ใส่อะไรลงไปบ้าง”
ตายล่ะ นางไม่ได้เป็นคนทำทุกขั้นตอนเสียเมื่อไหร่ แค่ถอนขนไก่ยังไม่ได้เลย แถมตอนปรุงน้ำแกงด้วยสมุนไพร นางก็กำลังแล่หมูอยู่ด้วยซ้ำ แล้วอย่างนี้จะตอบคำถามของเขาได้อย่างไร
แต่พอเห็นสายตาที่จ้องมองมาไม่วางตา นางก็จำต้องหาคำตอบมาให้ แม้ว่ามันอาจจะไม่ถูกต้องก็ตาม แต่คนเป็นแม่ทัพ เคยแต่จับหอกจับดาบก็ไม่น่าจะรู้เรื่องอาหารมากนัก
“ก็ใส่เครื่องยาจีนทั่วไปขอรับ”
“ลองไล่มาสิ ข้าจะดูว่ามีสิ่งใดผิดแปลกไป”
“เอ่อ หากท่านกังวลเรื่องการวางยาพิษ ทางหน่วยได้มีการทดลองชิมและใช้เครื่องเงินทดสอบแล้วนะขอรับ”
“ไม่ใช่เรื่องการวางยาอะไรหรอก ข้าแค่รู้สึกแปลกใจกับรสชาติอาหารน่ะ จึงอยากจะรู้ให้แน่ชัด”
หรือนางจะใส่อย่างอื่นแทนเกลือกันนะ ? ในเมื่อนางไม่เคยเข้าครัวมาก่อน จะรู้แน่ชัดได้อย่างไรว่าสิ่งใดเป็นสิ่งใดบ้าง
“เอ่อ...ก็มีเกลือ เห็ดหอม อบเชยขอรับ”
“อบเชย? น้ำแกงนี่ใส่อบเชยจริงหรือ” ท่าทางของเขาไม่ต่างจากตอนที่นางบอกใครสักคนว่าหมูบินได้
หยางจูอึกอัก สิ่งเดียวที่นางรู้จักดีก็คือโสมราคาแพงเท่านั้น และมันไม่มีทางไปอยู่ในน้ำแกงนี่แน่
“ข้าน้อยอาจจะจำผิดขอรับ ที่จริงพ่อครัวน่าจะใส่...”
“เอาเถอะ ๆ บางทีข้าอาจจะไม่สบายจนกินอะไรก็รสชาติเปลี่ยนไปหมดก็ได้” เมื่อเห็นท่าทางของนายทหารหนุ่มตรงหน้า เขาก็ไม่อยากจะสืบหาความใด ๆ อีก
“ท่านแม่ทัพต้องการให้ข้าน้อยตามหมอหรือไม่ขอรับ”
“ไม่ต้องหรอก ข้ากินได้”
“แต่หากมันไม่อร่อย ข้าคิดว่าทำมาใหม่จะดีกว่า”
“ต่อให้เป็นแม่ทัพก็ไม่ควรเลือกกินมากนัก ทหารอื่นได้กินอาหารเดิม ๆ บางวันก็แทบจะเหมือนอาหารหมู ข้าก็เป็นทหารคนหนึ่ง จะเลือกมากได้อย่างไร”
“ไม่หรอก คนที่ข้ารู้จักน่ะไม่มีทางเหมือนใครได้ ไม่มีทางเลย
จริง ๆ”
เขากำลังคิดถึงสตรีที่อยู่สูงกว่าตัวเองมากนัก นางมีลักษณะท่าทางบางอย่างคล้ายกับหนุ่มน้อยที่อยู่ตรงหน้า อาจจะเป็นการพูดจาฉะฉานนั่นก็ได้ หรือดวงตากลมเป็นประกายสดใสที่เปล่งประกายทุกครั้งเมื่อเอื้อนเอ่ยวาจา หากแต่เขาก็ไม่พบเจอนางนานเสียเหลือเกิน จนน่าฉงนว่าป่านนี้นางจะเป็นอย่างไร หรือถูกผู้เป็นบิดาจับให้สมรสกับใครไปเสียแล้วก็ไม่รู้
“นางในดวงใจของท่านหรือขอรับ” หยางจูนึกสงสัยใคร่รู้ เพราะท่าทางของเขาแสดงให้เห็นว่าคนที่เขาเอ่ยถึงต้องเป็นคนสำคัญมากอย่างแน่นอน ซึ่งพอนึกแล้วหัวใจนางรู้สึกคันยุบยิบกระวนกระวายอย่างบอก
ไม่ถูก
คนฟังหัวเราะออกมาอีกรอบ ก่อนจะชี้ตะเกียบมาทางคนตัวเล็ก “เจ้าอย่าปากมากนักเลย”
หยางจูใคร่รู้นักว่าหญิงสาวที่เขานึกถึงคือใคร จะใช่นางหรือไม่ แต่นางก็ต้องยอมรับว่าหากเทียบระหว่างเขาและนางแล้ว มู่หรงเซียวหนานแทบไม่ได้เจอนางเลย ในขณะที่นางแอบมองเขาเวลามาเข้าเฝ้าพี่ชายเป็นประจำ การจะให้เขามีจิตพิศวาสนางเห็นดูจะเป็นเรื่องยากอยู่สักหน่อย
“แล้วเจ้าล่ะ แต่งงานหรือยัง” เขาเว้นวรรคไปเล็กน้อย “แต่ดูท่าน่าจะยัง”
“ทำไมถึงคิดว่าน่าจะยังล่ะขอรับ”
“เพราะเจ้าดูราวกับหนุ่มน้อยที่อายุเพิ่งจะพ้นวัยเด็กก็ไม่ปาน ตัวรึก็เท่านี้ ยิ่งผิวพรรณยิ่งแล้วใหญ่ ดูท่าเจ้าจะไม่เคยทำงานหนักมาก่อนเลย เสียงเจ้าก็เช่นกัน ข้ามองอย่างไรก็ไม่น่าจะพร้อมสำหรับการแต่งงานไปได้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุบายรักแม่ทัพหน้านิ่ง / รักเร้นใจใต้เงาองครักษ์