ตอนพิเศษ
ย้อนกลับไปในวันนั้น...
วันที่โดมพิมพ์แชตมาอ้อนวอนคนเขียน
ขณะที่กำลังเดินตามหาผู้เป็นนายตามห้องต่างๆ อยู่ๆ โดมก็ได้ยินน้ำเสียง อู้อี้ ดังแว่วมาจากห้องเก็บอัฐิบิดาของช่อเอื้อง
คนที่เมามายจนแทบจะจำบ้านเลขที่ของตัวเองไม่ได้ แต่ก็พยายามปีนป่ายลูบๆ คลำๆ ผนังห้องมาเรื่อยๆ จนถึงสถานที่ที่มักมาระบายความในใจบ่อยๆ
“คุณพ่อครับ ทำไมลูกสาวคุณพ่อถึงใจร้ายกับผม”
“เอ่อ...บอสครับ ผมว่า...” โดมชะโงกหน้าเข้าไปดู ก็เห็นผู้เป็นนายที่หยิบกรอบรูปของคุณศรชัยมาจ้องและเอ่ยถามคำถามด้วยสีหน้าจริงจัง ก็ถึงกับขนลุกซู่ ไปทั้งเนื้อทั้งตัว ‘ฉิบหายแล้ว! นี่บอสเมาแล้วเพี้ยนขนาดนี้เลยหรือวะ?’
“ไม่ต้องมาเสือก กูจะคุยกับพ่อเมีย” คนเมาหันมาตวาดคนสนิทอย่างไม่พอใจ ที่อีกฝ่ายเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาของตน
“แต่ทำแบบนี้มันจะดีเหรอครับ” โดมถามกลับด้วยสีหน้าตื่นๆ ไม่นึกไม่ฝันว่าผู้เป็นนายจะใจกล้ามาหาเรื่องคนที่ตายไปแล้ว
“ดีสิ! คืนนี้คุณพ่อต้องไปเข้าฝันบอกน้องเอื้องให้รีบตามง้อผมเร็วๆ นะครับ ไม่อย่างงั้นผมจะเอาเมียใหม่ให้ดู” คนที่รอแล้วรอเล่าแต่สาวเจ้าก็ยังไม่รีบมาง้อสักที บอกอย่างทนไม่ไหว
“บะ...บอสครับ...” โดมเอ่ยเรียกผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงสั่นๆ หลังเห็นไฟในห้องกระพริบติดๆ กัน 3-4 ครั้ง
“จะไปไหนก็ไป ไม่ต้องมายุ่ง”
“เอ่อ...”
“ก็บอกให้ออกไปไง” คนที่เมาอยู่บอกอย่างอารมณ์เสีย
“ครับๆ” โดมรีบเดินออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล ก่อนจะถอนหายใจอย่างอย่างรู้สึกเครียดนิดๆ “เฮ้อ...บอสนะบอสคิดยังไงถึงไปจุดธูปเรียกคุณศรชัยมาคุยนะ เกิดคืนนี้มาจริง! ได้วิ่งกันป่าราบแน่”
โดมส่ายหน้าอย่างเพลียๆ ก่อนจะกดต่อสายหาลูกน้อง เพื่อให้อีกฝ่ายมาอยู่เป็นเพื่อน เพราะตนไม่กล้าทิ้งผู้เป็นนายเอาไว้คนเดียว แต่ก็ไม่กล้าจะอยู่กับผู้เป็นนายตามลำพังสองคน กลัวว่า...หากวิญญาณของคุณศรชัยโผล่มา ตนไม่อยากจะเผชิญชะตากรรมนั้นเพียงคนเดียว
[ว่าไงครับลูกพี่] ปลายสายเอ่ยเสียงสดใส
[ไอ้การ! บอสสั่งให้มึงมาหาด่วน]
[มีอะไรเหรอครับ]
[หมูกระทะกับเนื้อย่าง สนใจไหม?]
[สนสิครับ ว่าแต่ผมชวนไอ้สันไปด้วยได้ไหมพี่]
[เออ! พาขึ้นมาเลย แค่นี้นะ] โดมบอกก่อนจะกดวางสายอย่างรู้สึกโล่งใจ ที่จะมีคนมาอยู่เป็นเพื่อนเพิ่ม
เช้าวันต่อมา...ขณะที่โดมกำลังจะเดินไปเข้าครัว ทำอาหารเช้าให้ผู้เป็นนาย ก็ได้ยินเสียงพูดดังขึ้นแว่วๆ ที่ห้องเก็บโกศของคุณศรชัยอีกครั้ง จึงรีบเดินไปแอบสังเกตการณ์เงียบๆ ก็เห็นผู้เป็นนายนำดอกไม้มาเปลี่ยนพร้อมกับจุดธูป
“คุณพ่อครับ เมื่อคืนผมพูดจาไม่ดีออกไป กราบขอโทษด้วยนะครับ ผมแค่น้อยใจที่น้องเอื้องยังไม่มาง้อ” คนที่รู้ตัวว่าเมาและทำเกินกว่าเหตุไปเมื่อคืน รีบมาขอขมาลาโทษด้วยสีหน้าเศร้าๆ โดมที่แอบฟังอยู่ก็ถึงกับกลั้นยิ้ม แล้วรีบเดินตรงไปยังห้องครัวอย่างรวดเร็ว
ชั่วโมงต่อมา...ด้านคนที่พอนั่งเครื่องบินกลับมาที่กรุงเทพฯ. ก็จ้างคนถ่ายภาพของตัวเองกับนางแบบแซนดี้ออกสื่อทุกวัน ทั้งดินเนอร์หรูที่โรงแรม ทั้งไปเที่ยวไนต์คลับตอนกลางคืน โดยหวังจะให้ช่อเอื้องหึงหวงและรีบๆ ตามมาง้อ แต่ อีกฝ่ายกลับเงียบ ไม่โทร. มาเคลียร์ใดๆ แถมมารดาของตนก็เงียบหายไปอย่างผิดปกติเช่นกัน
“ทำไมเอื้องถึงไม่โทรมาสักทีวะ แกว่าเธอจะเห็นข่าวของฉันไหมโดม”
“ยังไงก็ต้องเห็นครับ ผมสั่งให้คนงานเอาหนังสือพิมพ์ไปส่งทุกวันเลย”
“แล้วเธอมัวทำอะไรอยู่วะ”
“ผมก็ไม่ทราบครับ รู้แค่ว่าคุณเอื้องย้ายไปนอนที่บ้านคุณมาลีนแล้ว”
“แกลองโทรไปเช็คอีกทีสิว่าตอนนี้แม่ฉันทำอะไรอยู่?” แม่ทัพเริ่มสังหรณ์ใจแปลกๆ กลัวว่ามารดาจะวางแผนเอาคืนตน
“ได้ครับบอส” โดมรีบล้วงมือถือขึ้นมาต่อสายทันที
ตู๊ด...ตู๊ด...
[ลุงการครับ ตอนนี้คุณเอื้องทำอะไรอยู่เหรอครับ]
[อ๋อ! คุณเอื้องเหรอครับ เธอบินไปกรุงเทพเมื่อเช้ากับคุณมาลีนครับ]
[จริงเหรอครับลุง]
[ครับ เห็นว่าจะไปสะสางอะไรบางอย่างครับ]
[โอเคครับลุง ขอบคุณมากๆ นะครับ]
[ยินดีครับคุณโดม]
“ว่าไงบ้าง?” แม่ทัพถามอย่างร้อนใจ
“คุณเอื้องกำลังบินมากรุงเทพครับ
“หึ! กว่าจะมาง้อได้ ความรู้สึกช้าจริงๆ” แม่ทัพยกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันใด เพราะช่วงหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาจ้างอดีตคู่ขาเก่ามาสร้างสถานการณ์ว่าตนกำลังออกเดต เพื่อยั่วให้ช่อเอื้องหึง และเห็นค่าในตัวของเขา ซึ่งกว่าเธอจะยอมมาง้อได้ ก็ปล่อยให้เวลาล่วงเลยผ่านมาหลายวัน
“บอสจะให้ผมทำยังไงต่อครับ”
“ไปเอาเหล้ามา”
“อะ...เอามาทำไมครับ”
“เอ่อน่า เอามาเถอะแล้วแกจะไปไหนก็ไป” คนที่วางแผนเอาไว้ในใจบอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น เพราะคิดว่าการมาครั้งนี้ ช่อเอื้องคงจะรู้แล้วว่า...ตนเองนั้นสำคัญกว่าการไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ต่างประเทศเพียงใด
“ครับๆ” โดมรีบเตรียมโซดาน้ำแข็งและบรั่นดีให้ผู้เป็นนาย จากนั้นก็ออกไปดูงานที่บริษัทต่อ เพื่อเปิดทางให้ผู้เป็นนายกับคนรักง้องอนกันได้สะดวกๆ
วันต่อมา...เวลา 11:42 น.
โดมเดินขึ้นลิฟต์มาอย่างยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แอบคิดไปว่า...เมื่อวานผู้เป็นนายกับช่อเอื้องคงจะง้อกันดุเดือดมาก เพราะป่านนี้ยังไม่ยอมออกจากห้องพักเลย แต่ตนก็ต้องใช้เอกสารสำคัญ จึงคิดว่าจะย่องเข้าไปเอาที่ห้องทำงาน แล้วรีบออกมา
แต่พอเดินออกจากลิฟต์ เตรียมจะกดรหัสผ่านที่หน้าเพนต์เฮาส์ของผู้เป็นนาย อยู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าของมือถือดังขึ้น พอล้วงออกมาดูแล้วเห็นว่าเป็นลูกน้องที่ให้ไปดักเฝ้าที่สนามบินเมื่อวาน จึงรีบกดรับสายอย่างตกใจ เพราะตนลืมบอกยกเลิกการทำงาน
[พี่โดมครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว]
[เรื่องอะไร?]
[คือว่า...] ปลายสายที่แอบไปงีบมา เอ่ยรายงานเสียงสั่น ไม่นึกว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นเร็วมากจนตนทันได้เห็นแค่ช็อตสุดท้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: อุ้มรักซาตานลวง (ซีรีส์ หลอกเด็ก)