ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 162

ขนจิ้งจอกของจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ถูกดึงแล้วดึงเล่าจนจะโล้นอยู่แล้ว ในที่สุดภายใต้ความช่วยเหลือของเซินเป่า ก็สามารถทำน้ำผึ้งปั่นออกมาได้หนึ่งชาม

ฉู่เชียนหลีหยิบช้อน กินอย่างสมใจปรารถนา: “ไม่เลว ไม่เลว”

ดวงตาของจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามรู้สึกว่าในช่วงเวลานี้ยังมีภาคภูมิใจมากกว่าการเลื่อนขั้นเป็นอสูรเสวียนระดับสี่ตอนก่อนหน้านี้

“จี๊ดจี๊ด!”

ท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่พอใจก็พอ

ฉู่เชียนหลีอิ่มหมีพีมันแล้ว ตรวจสอบกำลังของจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ดูแล้วเล็กน้อย หลังจากจัดวางค่ายทิพย์แปรเรียบร้อย ก็นำมันโยนเข้าไปข้างใน

หากว่าอยากสร้างดินแดนแห่งความเพ้อฝันให้ออกมาสมบูรณ์แบบ เจ้าจิ้งจอกใหญ่นี้จะต้องฟื้นคืนสู่สภาพเดิมก่อนถึงจะทำได้

จิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์รับรู้ถึงพลังเสวียนที่ถ่ายทอดเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย รู้สึกตื่นเต้นจนเท้าทั้งสี่ข้างอ่อนยวบ ลุกขึ้นยืนไม่ไหวเลยสักนิด

ฮือฮือ หลังจากนี้มันจะเกิดเป็นจิ้งจอกของท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่ ตายไปก็จะเป็นผ้าพันคอ ถุงมือ เสื้อหนังของท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่

มันจะอาศัยอยู่กับนางไปตลอดชีวิต!

ฉู่เชียนหลียังคงนอนไม่หลับอยู่บ้าง มีเหล้าทิพย์อำพันแล้ว เติมเต็มความไม่พึงพอใจของนาง ไม่ทำให้นางถึงกับวุ่นวายใจขนาดนั้น

สามวันต่อมา อาการบาดเจ็บของเจ้าจิ้งจอกใหญ่หายจนเกือบเป็นปกติด้วยการเติมเต็มของค่ายทิพย์และยาเซียนต่างๆ เพื่อที่จะสามารถรีบไปกอดต้นขาของท่านประมุขผู้ยิ่งใหญ่ได้เร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม มันเรียนภาษาตงเสวียนอย่างอดทนพยายาม โหลเชิ่งและคนอื่นๆถูกมันรบกวนจนทนไม่ไหว ภาพลักษณ์ที่เกี่ยวกับอสูรเสวียนลึกลับภายในจิตใจแตกจนกลายเป็นเสี่ยงๆอย่างสมบูรณ์

ฉู่เชียนหลีจัดวางค่ายทิพย์ใหม่ หลังจากมั่นใจว่าจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์เข้าใจความหมายของตนเอง ก็จัดการให้โหลเชิ่งกับพวกหกคนและเทียนชูเข้าไปด้านในค่ายทิพย์พร้อมกัน

ครู่ต่อมา รูปร่างของจิ้งจอกน้ำแข็งเจ้าเสน่ห์ขยายใหญ่ขึ้นทันที จนมีขนาดสูงเท่ากับหนึ่งคนครึ่งถึงหยุดลง ลูกตาสีทองอ่อนๆเปลี่ยนเป็นมืดและนิ่งอย่างยิ่งทันที ประกายแสงสีทองที่ทำให้คนรู้สึกหลงใหลแพร่กระจายลงมา

ภายในค่ายทิพย์ โหลเชิ่งและคนอื่นๆจมดิ่งเข้าสู่ดินแดนแห่งความเพ้อฝันทันที ใช้กำลังทั้งหมดต่อสู้กับเทียนชูอย่างสุดกำลัง

ผู้อาวุโสใหญ่นั่งยองๆอยู่ด้านข้างค่ายทิพย์ มองซ้ายมองขวา ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

แม่นางฉู่ผู้นี้ได้รับการสืบทอดความรู้มาจากผู้ใดกันแน่? ค่ายกลที่ละเอียดรอบคอบเช่นนี้เกรงว่าแม้แต่ตระกูลกงซุนผู้ที่ชำนาญค่ายกลแห่งซ่างอวี้ก็จัดวางออกมาไม่ได้

ฉู่เชียนหลีเห็นว่าคืบหน้าไปอย่างราบรื่น จึงเดินไปยังเก้าอี้นุ่มด้านข้างอย่างช้าๆแล้วเอนตัวพิง

ถึงแม่ว่าตอนนี้นางจะนอนไม่หลับ แต่ว่าชีวิตในวัยเกษียณความรู้สึกเป็นพิธีการไม่ควรจะน้อยลง อย่างเช่นถ้าสามารถเอนหลังได้ก็จะไม่นั่ง ถ้านั่งได้ก็จะไม่ยืน

หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อ นางเพิ่งจะต้มเหล้าก็ออกอาการง่วงนอนนิดหน่อย ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องดังลอยมา

“อ๊ะ!”

ความง่วงของฉู่เชียนหลีก็อันตรธานหายไปทันที

นางลืมตาขึ้น ดวงตาปรากฏแสงแห่งความหนาวเย็นแวบหนึ่ง หยิบแส้ยาวออกมา ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปตามทางที่เสียงดังลอยมา

เฟิ่งเสวียนตู้รีบติดตามไป เหตุใดจึงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของคนน่ารำคาญที่มีฟันขาวริมฝีปากแดงผู้นั้น?

ในป่าเขา มู่ซิวหานถูกบีบบังคับจนไปถึงริมหน้าผา ใบหน้าที่ขาวสะอาดหมดจดก่อนหน้านี้ในเวลานี้ขาวซีดไปทั้งหน้า ด้านข้างแก้มถูกกรีดจนเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่ เลือดแดงสดไหลออกมา ทำให้ดวงตาที่โหดร้ายคู่นั้นของเขาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังยิ่งเพิ่มความดุร้ายมากยิ่งขึ้น

“ข้ายอมตาย ก็จะไม่ยอมมอบสิ่งของให้แก่พวกเจ้า!”

“องค์ชายห้า เหตุใดท่านจึงต้องทำเช่นนี้? นำมันออกมาด้วยตนเองอย่างว่าง่าย จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว ถ้าไม่เช่นนั้นละก็ พวกข้าจะลงมืออย่างไม่เกรงใจ”

มู่ซิวหานสะบัดมืออย่างรวดเร็วและรุนแรง มีดบินอาบยาพิษเล่มหนึ่งปักเข้าไปที่นักฆ่าที่อยู่ด้านหน้าสุดพอดี นักฆ่าคนนั้นล้มลงกับพื้นทันที ส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาออกมา

“อ๊ะ!”

“มู่ซิวหาน ท่านนี่ช่างรนหาที่ตาย!”

เมื่อพวกนักฆ่าพูดจบ ก็เริ่มต้นจู่โจมทันที

มู่ซิวหานหันหน้ากลับมองไปทางหน้าผา เขาไม่มีทางให้หนีอีกแล้ว วันนี้ต้องตายอย่างแน่นอน แต่ว่าเขายังไม่ได้แก้แค้นให้กับความแค้นนองเลือด เขาจะไม่ละอายใจต่อเสด็จพ่อและเสด็จแม่ได้อย่างไร?

ขณะที่เขากำลังกัดฟันเตรียมตัวจะกระโดดลงไป มีร่างสวมใส่ชุดสีขาวลอยขึ้นมาจากด้านล่างหน้าผา แส้ยาวในมือฟาดไปที่นักฆ่าพวกนั้นอย่างโหดเหี้ยม

“รบกวนคนกำลังนอนหลับ จะต้องไม่ตายดี!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี