ตอนที่ 1044 ผู้ชายเจ้าชู้
……….
ตระกูลบูนร์มีทายาทสองคนและนิสัยก็แตกต่างกัน แรนดี้บูนร์กับเรกบูนร์มีความแตกต่างกันมาก ซึ่งในโลกของแรนดี้บูนร์พลังคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะด้วยพลังและอำนาจเขาจะมีทุกอย่างส่วนผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็แค่ปลายนิ้วมือของเขา ในตระกูลมาเฟียบูนร์นั้นแรนดี้บูนถูกเรกบูนร์กดขี่ข่มเหงและแย่งผลงานจนทำให้เขารู้สึกหดหู่ใจมาโดยตลอด ในแง่ของความสามารถแล้วเขาไม่เคยแพ้พี่ชายเพราะฉะนั้นเขาก็ได้แต่โทษพี่ชายที่เกิดมาเร็วกว่าเขาเพียงไม่กี่ปีและทำให้พี่ชายกลายเป็นผู้นำ
อย่างไรก็ตามแรนดี้บูนร์ก็ไม่เคยยอมแพ้การต่อสู้เพราะการต่อสู้ของตระกูลมาเฟียนั้นโหดร้ายและนองเลือดอย่างมากและฝ่ายที่แพ้ก็จะไม่มีอะไรแม้แต่ชีวิตของตัวเอง ดังนั้นแรนดี้บูรณ์จึงมักจะระวังการกระทำทั้งหมดของเขา ไม่เช่นนั้นก็มีแนวโน้มที่เขาจะนำภัยพิบัติมาสู่ตัวเอง
การปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเย่เชียนทำให้แรนดี้บูนร์ประหลาดใจอย่างมากอย่างไม่ต้องสงสัยและการที่ทำให้พี่ชายของเขาต้องเสียหน้าและเสียศักดิ์ศรีแบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมาก เมื่อเห็นเรกบูนร์เดินออกจากบ้านไปพร้อมกับบอดี้การ์ดที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสของเขาแล้วมุมปากของแรนดี้บูนร์ก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มขึ้นมา ซึ่งเขาก็รู้ดีว่ามันเป็นเพียงเพราะพี่ชายของเขาชอบแสร้งเป็นสุภาพบุรุษและใช้อารมณ์และคารมเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจ้าวหยาจะหนีไปจากกำมือของเขาได้อย่างไร สำหรับแรนดี้บูนร์แล้วมันเป็นแค่เรื่องตลกเพราะการแสร้งทำเป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิงคนหนึ่งนั้นเป็นเรื่องที่น่าสมเพช
“หัวหน้าครับแล้วเราจะทำยังไงกันต่อดี” คนขับถาม
เรกบูนร์ก็ฉีกยิ้มและพูดว่า “จ้าวหยาคนนี้เป็นประธานบริหารของเดอะมัวร์กรุ๊ปประจำภาคเอเชียและการได้รับตำแหน่งดังกล่าวในเดอะมัวร์กร๊ปก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา..เดอะมัวร์กรุ๊ปเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศเยอรมนี ว่ากันว่าผู้สนับสนุนเบื้องหลังคือตระกูลมัวร์ซึ่งเป็นตระกูลมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเยอรมนี..นอกจากนี้ประวัติของตระกูลมัวร์นี้ยังยาวนานกว่าตระกูลบูนร์ของเรามาก..เพราะงั้นถ้าเราไม่ฉวยโอกาสดีๆ แบบนี้มันก็คงจะน่าเสียดายเกินไปแล้ว..ส่วนคนจีนที่เข้าไปกับจ้าวหยานั้นเขาดูสงบและเยือกเย็นมากขนาดเขาเห็นรถของเราจอดสอดส่องพวกเขาอยู่แท้ๆ ..ชายหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาๆ อย่างแน่นอน..การรับมือกับคนจีนนั้นเราจะประมาทไม่ได้เพราะดินแดงแห่งนั้นมันเต็มไปด้วยสิ่งลี้ลับมากมาย..บางทีเขาอาจจะเป็นทายาทของตระกูลใหญ่ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในประเทศจีนก็ได้”
คนขับก็ถึงกับผงะไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “หัวหน้าครับผมเคยไปประเทศจีนมาสองครั้งและผมก็พอจะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่นั่นมาบ้าง..ผมอยากจะบอกว่าวงการใต้ดินของพวกเขาเทียบไม่ได้เลยกับตระกูลบูนร์ของเรา..หัวหน้าจะให้ค่ากับพวกนั้นมากเกินไปแล้ว..ผมไม่เข้าใจเลย”
แรนดี้บูนร์ก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “นี่เป็นเพียงความโง่เขลาของนาย..ฉันเคยได้ยินจากคนเก่าคนแก่ของตระกูลบูนร์ของเราว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองนั้นตระกูลบูรณ์ของเราเคยคิดที่จะพัฒนาและขยายอำนาจอิทธิพลไปที่ประเทศจีนด้วยแต่พวกเขากลับพ่ายแพ้ทำไมอย่างหมดท่า..ซึ่งทั้งหมดถูกจัดการโดยตระกูลใหญ่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในประเทศจีน..ซึ่งคนจีนให้ความสำคัญกับความแข็งแกร่งพอประมาณซึ่งแตกต่างไปจากวิธีการขยายอำนาจของพวกเรา..พวกเขาจะไม่เปิดเผยแต่เมื่อพวกเขาปรากฏตัวออกมาแล้วพลังของพวกเขาก็จะยิ่งใหญ่มาก..ดังนั้นเราไม่ควรเพิกเฉยต่อพลังของพวกเขาได้เลย”
“เฮ้อ…” คนขับสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพราะแท้ที่จริงแล้วเขานั้นรู้เรื่องประเทศจีนน้อยเกินไปจริงๆ แต่จากการฟังคำพูดของแรนดี้บูนร์แล้วก็ทำให้เขารู้สึกสยดสยองไปกับประเทศจีนเพราะเมื่อนึกถึงกองกำลังใหญ่ๆ ของประเทศญี่ปุ่นในสมัยก่อนที่ทรงพลังและแทบจะอยู่ยงคงกระพันในทุกประเทศที่กองทัพญี่ปุ่นย่างก้าวเข้าไปแต่พอไปเยือนประเทศจีนแล้วกองทัพญี่ปุ่นกลับตกอยู่ในภาวะชะงักงันและเสียหายอย่างมากซึ่งเพียงพอที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่าน้ำในประเทศจีนนั้นลึกและนิ่งมากจริงๆ
แรนดี้บูนร์ตบไหล่คนขับและพูดว่า “นายรู้ไหมว่าทำไมนายถึงไม่สามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งแบบเดียวกับฉันได้? ..นั่นเป็นเพราะนายไม่มีวิสัยทัศน์ที่ฉันมีเพราะงั้นติดตามฉันให้ดีล่ะเพราะฉันจะสร้างอนาคตและจะพานายไปสู่จุดสูงสุดด้วย..ถึงแม้ว่านายจะไม่สามารถปิดท้องฟ้าได้ด้วยมือข้างเดียวได้ในอนาคตเหมือนกับฉันได้แต่อย่างน้อยๆ นายก็ยังสามารถมีอำนาจและใช้ชีวิตอย่างโออ่าได้..เอาล่ะออกรถได้”
คนขับก็ขอบคุณสองสามครั้งและสตาร์ทรถแล้วขับออกไป
เย่เชียนไม่รู้โดยธรรมชาติว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอกและเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะตกเป็นเป้าหมายของผู้อื่นทันทีที่เขาก้าวเข้ามาในประเทศสหรัฐอเมริกาและจะกลายเป็นตัวเบี้ยที่คนอื่นใช้
จากนั้นเย่เชียนก็มองไปที่จ้าวหยาแล้วพูดว่า “เธอเป็นถึงประธานบริหารของเดอะมัวร์กรุ๊ปประจำภาคเอเชียแล้วพวกเขาไม่คิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยงั้นเหรอ?” นี่คือสิ่งที่ทำให้เย่เชียนไม่มีความสุขมากเพราะในฐานะผู้นำแล้วก็ควรจะใส่ใจเกี่ยวกับชีวิตและความปลอดภัยของผู้ใต้บังคับบัญชาเสมอและแก้ปัญหาเพื่อให้ทุกคนสามารถทำงานเพื่อบริษัทได้อย่างราบรื่น อย่างไรก็ตามจ้าวหยาก็ถูกคุกคามโดยเรกบูนร์เพราะงั้นทางเดอะมัวร์กรุ๊ปไม่มีการออกมาแสดงความรับผิดชอบเลยงั้นเหรอ?
“ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะก็เรกบูนร์ไม่ได้ทำอะไรมากเกินไปและนอกจากนี้ที่นี่คือประเทศสหรัฐอเมริกาและพวกเขาก็ต้องกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของตระกูลบูนร์ด้วย” จ้าวหยาพูด “แต่เมื่อนายอยู่ที่นี่แล้วฉันก็ไม่กังวลอะไรอีกแล้ว”
เย่เชียนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าใครกล้าแตะต้องเธอฉันจะฆ่ามันเอง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ยังไงก็เถอะสถานการณ์ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่เพราะงั้นเธอรีบออกไปให้เร็วที่สุดจะดีกว่า..กลัวว่าเรกบูนร์จะเล่นสกปรก..เพราะงั้นพรุ่งนี้เธอก็เดินทางออกนอกประเทศซะ..ฉันจะให้คนมารับเธอไปที่สนามบินและปกป้องเธอให้ขึ้นเครื่องอย่างปลอดภัย..ฉันจะอยู่ต่ออีกสองวันและดูสถานการณ์ก่อน”
“ได้..นายว่ายังไงก็ตามนั้น” จ้าวหยาพยักหน้าและพูดแต่ดวงตาของเธอสั่นเล็กน้อยและดูเหมือนว่าเธอมีแผนอื่นเพราะเย่เชียนมาที่นี่เพื่อช่วยเธอดังนั้นเธอจะสามารถจากไปแบบนี้ได้งั้นเหรอ?



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน