เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 1192

ตอนที่ 1192 คำบอกใบ้

………………..

โจวเจิ้งผิงตกตะลึงไปชั่วขณะและเห็นได้ชัดว่าไม่ได้คาดหวังว่าเย่เชียนจะพูดจาหยาบคายและพูดกับตัวเองแบบนี้จนเขาขมวดคิ้วโดยไม่ตั้งใจและสีหน้าของเขาดูไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเป็นประธานขององค์กรสามมุมเมืองผู้ยิ่งใหญ่และเป็นถถึงรัฐมนตรีของสภาไต้หวัน ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาโดนคนหนุ่มสาวหยามเกียรติแบบนี้

“น้องเย่!..ช่วยระวังคำพูดด้วย!” โจวเจิ้งผิงพูดอย่างเย็นชา

เย่เชียนก็ดูประหลาดใจและเขาก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอ้าพี่ใหญ่โจวเองเหรอ..ผมขอโทษครับผมไม่รู้ว่าเป็นคุณที่โทรมา..พอดีผมกำลังนอนอยู่น่ะ”

โจวเจิ้งผิงถอนหายใจอย่างเย็นชาและไม่พูดอะไรต่อเพราะเขาไม่รู้ว่าคำพูดของเย่เชียนนั้นจริงหรือเท็จแต่มันไม่เหมาะสมจริงๆ “พี่ใหญ่โจวมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นหรือเปล่าทำไมถึงโทรมาตั้งแต่เช้าแบบนี้? ..หรือว่าเซินเจี๋ยเคลื่อนไหวแล้ว?” เย่เชียนเปลี่ยนเรื่องพูด

“ใช่!” โจวเจิ้งผิงตอบและพูดว่า “จากข้อมูลที่ลูกน้องของฉันรายงานมาดูเหมือนว่าเซินเจี๋ยจะบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับองค์กรซูเหลียนและทั้งสองก็เริ่มพบปะกันบ่อยๆ เมื่อเร็วๆ นี้”

เย่เชียนตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มและพูดว่า “ผมคิดว่าจุดประสงค์ของเซินเจี๋ยในการไปพบกับหลงซือผู้นำองค์กรซูเหลียนนั้นน่าจะเหมือนกับที่มันไปพบพี่ใหญ่โจ่ว..มันต้องการสงบศึกกับองค์กรซูเหลียนเพื่อที่มันจะได้จัดการเรื่องภายในขององค์กรเทียนเต๋า..ตามที่พี่ใหญ่โจวพูดก่อนหน้านี้เซินเจี๋ยได้บรรลุข้อตกลงบางอย่างกับรัฐบาลไต้หวันและในเวลานี้มันน่าจะวางแผนทำให้องค์กรซูเหลียนเคลื่อนไหวเพื่อทำให้รัฐบาลไต้หวันไม่พอใจเพราะชื่อเสียงขององค์กรซูเหลียนในไต้หวันตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะดีนัก..ดังนั้นเซินเจี๋ยมันจะต้องหาข้ออ้างทำให้รัฐบาลโจมตีองค์กรซูเหลียนอย่างแน่นอน หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “นอกจากนี้พี่ใหญ่โจ่วก็น่าจะรู้ว่าหลงซือไม่ใช่คนโง่..เพราะงั้นถ้าเขารู้เรื่องนี้เขาจะไม่ร่วมมือกับเซินเจี๋ยอย่างแน่นอน..ยิ่งไปกว่านั้นเท่าที่ผมรู้มาหลงซือเป็นคนที่ไม่ยอมร่วมมือกับใครง่ายๆ”

“ใช่!” เย่เชียนพยักหน้าตอบและพูดว่า “สถานการณ์ตอนนี้ก็ชัดเจนแล้วและเซินเจี๋ยมันก็ไม่สามารถทำอะไรได้..แต่เพื่อป้องกันเอาไว้พี่ใหญ่โจวสั่งให้ลูกน้องคอยสอดส่องอย่างใกล้ชิดก็แล้วกันจากนั้นก็ให้คนขอวคุณกระจายข่าวที่ว่าเซินเจี๋ยสมรู้ร่วมคิดกับเจ้าหน้าที่รัฐและตำรวจไต้หวันเพื่อกวาดล้างองค์กรใต้ดิน..พี่ใหญ่โจวก็น่าจะรู้ใช่มั้ยว่าถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูของหลงซือเมื่อไหร่รับรองได้เลยว่าหลงซือจะไม่มีวันร่วมมือกับเซินเจี๋ยอย่างแน่นอน”

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งโจวเจิ้งผิงก็ถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า “ยิ่งฉันอายุมากขึ้นเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งกล้าหาญน้อยลงเท่านั้น..ฉันมองอะไรง่ายๆ ไม่ออกเลยด้วยซ้ำ..โลกในอนาคตจะเป็นโลกของคนหนุ่มสาวอย่างพวกนายจริงๆ”

เย่เชียนยิ้มและพูดว่า “พี่ใหญ่โจวพวกเราคนหนุ่มสาวยังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้จากคุณ..คนเฒ่าคนแก่สั่งสมประสบการณ์มานานหลายปีและมันเป็นสิ่งที่คนหนุ่มสาวอย่างพวกผมไม่สามารถมีได้”

“อย่าพูดถึงเรื่องนั้นกันเลยเพราะถังยังไงถ้าน้องเย่อยู่ที่นี่ฉันก็ไม่ต้องกังวลอะไรเลย” โจวเจิ้งผิงยิ้มและพูดว่า “ฉันขอโทษจริงๆ ที่โทรมารบกวนนายตั้งแต่เช้า..เอาล่ะนายนอนต่อเถอะ..เมื่อวานนี้ลูกน้องของฉันบอกกับฉันว่านายน่ายกย่องและโหดเหี้ยมสมคำร่ำลือจริงๆ”

จากนั้นเย่เชียนก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “แล้วพี่ใหญ่โจวไม่โกรธผมเหรอที่ผมทำร้ายลูกน้องของพี่ใหญ่”

“ไม่หรอก..ไอ้พวกนั้นสมควรโดนแล้วและควรจะได้รับบทเรียนดีๆ ซะบ้าง..นายทำถูกแล้วน้องเย่ถ้าเพราะถ้านายไม่สอนบทเรียนให้กับพวกนั้นบ้างล่ะก็มันคงไม่มีวันรู้เลยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าจริงๆ” โจวเจิ้งผิงพูด

“แต่ถึงยังไงนั่นก็เป็นลูกน้องของพี่ใหญ่โจวอยู่ดี..ไม่ว่ายังไงก็ตามผมก็ต้องขอโทษด้วย..รบกวนพี่ใหญ่โจวบอกพวกนั้นด้วยว่าผมจะเชิญพวกเขาไปเลี้ยงมื้อเย็นวันหลังเพื่อแทนคำขอโทษของผม” เย่เชียนพูด

โจวเจิ้งผิงก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจและชื่นชมการกระทำของเย่เชียนเป็นอย่างมาก โดยทั่วไปแล้วเขาเองก็จะไม่ยอมใครจนทำให้เขาต้องเสียศักดิ์ศรี ซึ่งนั่นจะเป็นผลดีต่อเขาและทำให้ผู้ใต้บังคับบัญชาเคารพเขา “น้องเย่ไม่ต้องกังวลไปหรอก” โจวเจิ้งผิงพูด “เอาล่ะนายนอนต่อเถอะ..เอาไว้ค่อยคุยกันทีหลังก็แล้วกัน” ” หลังจากพูดจบโจวเจิ้งผิงก็วางสายไป

เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยและเชื่อว่าโจวเจิ้งผิงยังโกรธอยู่ในตอนนี้แต่เขาก็พึงพอใจกับคำพูดของเย่เชียน เมื่อเย่เชียนคุยกับโจวเจิ้งผิงเขาก็มักจะสุภาพมากเกินไปดังนั้นถ้าหากยังเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ โจวเจิ้งผิงอาจจะหยิ่งผยองและได้ใจมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเย่เชียนจึงทำให้โจวเจิ้งผิงรู้ว่าเขาไม่ใช่คนที่ยอมใครง่ายๆ เช่นกัน

เย่เชียนเองก็เชื่อว่าโจวเจิ้งผิงสามารถเข้าใจเจตนาของเขาได้ซึ่งเป็นวิธีแสดงทัศนคติทางอ้อมต่อโจวเจิ้งผิงในรูปแบบสวมหน้ากากนั่นเอง

เย่เชียนไม่สนใจข่าวที่โจงเจิ้งผิงพูดที่ว่าเซินเจี๋ยติดต่อกับหลงซือเพราะเย่เชียนได้ตรวจสอบข้อมูลของหลงซือแล้ว อาจกล่าวได้ว่าสามขั้วอำนาจอย่างองค์กรสามมุมเมือง,องค์กรเทียนเต๋าและองค์กรซูเหลียนนั้นในบรรดาทั้งสามองค์กรหลงซือเป็นคนที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดมากที่สุดและเป็นคนที่ถือระบบศักดินามาโดยตลอด ดังนั้นเขาจะไม่เลือกร่วมมือกับเซินเจี๋ยเพื่อช่วยรัฐบาลอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อเซินเจี๋ยไปหาหลงซือดังข่าวที่ว่านั้นในความเห็นของเย่เชียนแล้วเซินเจี๋ยพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของหลงซือเพราะกลัวว่าหลงซือจะสร้างปัญหาให้กับเขาในเวลานี้ เพราะสำหรับเซินเจี๋ยแล้วสถานการณ์ในปัจจุบันขององค์กรเทียนเต๋ากำลังวุ่นวายและในไม่ช้าเขาก็จะสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำองค์กรเทียนเต๋าได้อย่างราบรื่น ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่จำเป็นต้องบาดหมางกับหลงซือ ซึ่งเซินเจี๋ยก็เลยพยายามทำให้หลงซือเชื่อว่าการเคลื่อนไหวในเวลานี้คือการสร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเอง

ตอนที่ 1192 คำบอกใบ้ 1

ตอนที่ 1192 คำบอกใบ้ 2

ตอนที่ 1192 คำบอกใบ้ 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน