ตอนที่ 1270 ออกแบบแผนการ
………………..
ต่อหน้าฮั่นหนิงซือแล้วอู๋เป้งเต๋าก็สูญเสียตัวตนตามปกติของเขาไปอย่างสิ้นเชิงและกลายเป็นผู้ชายที่ขี้ขลาดไปในทันที เมื่อเผชิญหน้ากับการดุของฮั่นหนิงซือแล้วอู๋เป้งเต๋าก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “หนิงซือเธอไม่ต้องกังวลไปหรอกฉันจะฆ่าจินเหว่ยห่าวอย่างแน่นอนแต่ครั้งนี้ฉันไม่ได้คิดให้รอบคอบแต่คราวหน้าเขาจะไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้อย่างแน่นอน”
“หืม..ฉันก็หวังว่ามันจะอย่างนั้น” ฮั่นหนิงซือพูด “แกรู้มั้ยว่าการตายของจินเหว่ยห่าวเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเรา..แกคงไม่ต้องการให้เสี่ยวเซียงถูกพรากอะไรไปหรอกใช่มั้ย?”
“แน่นอน!” อู๋เป้งเต๋าพูด “อย่ากังวลไปเลยถ้าฉันล้มเหลวอีกครั้งฉันจะมาคุกเข่าต่อหน้าเธอเอง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเขาก็พูดต่อ “เธอต้องดูแลเสี่ยวเซียงให้ดีๆ เพราะเขากำลังถูกจินเหว่ยห่าวหลอกอยู่และไม่ช้าก็เร็วเขาจะทำร้ายตัวเองรวมไปถึงพวกเราด้วย”
“แกไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก” ฮั่นหนิงซือพูด “ทำหน้าที่ของแกให้ดีซะและหลังจากนี้แกต้องหาวิธีที่จะโน้มน้าวให้เย่เชียนมอบสิทธิ์การขุดเจาะภูเขาหินให้ได้..สำหรับตระกูลจินแล้วแกก็น่าจะรู้ดีว่าเราต้องได้ศิลาโบราณเท่านั้นและนี่ก็สำหรับอนาคตของเสี่ยวเซียงเอง”
“ฉันจะทำให้ดีที่สุด” อู๋เป้งเต๋าพูด “ยังไงก็เถอะเธอยังรู้จักเย่เชียนน้อยเกินไปเพราะงั้นเธอต้องระวังให้ดีล่ะ”
ฮั่นหนิงซือพยักหน้าเล็กน้อยและไม่พูดอะไรอีกแล้วหันกลับไปเดินขึ้นชั้นบน ส่วนอู๋เป้งเต๋าก็มองไปที่บั้นท้ายของฮั่นหนิงซืออาจารย์และอดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากของเขาเพราะเขาไม่ได้ลิ้มรสสิ่งนี้มาเป็นเวลานานแล้วและเมื่อคิดถึงสมัยก่อนนั่นก็ทำให้เขาลืมไม่ลง ซึ่งอู๋เป้งเต๋าก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึงความเกลียดชังลึกๆ ในใจเพราะถ้าหากครอบครัวของฮั่นหนิงซือไม่ได้เข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้ล่ะก็ฮั่นหนิงซือคงจะเป็นของเขาไปแล้ว อย่างไรก็ตามตอนนี้ก็ไม่เลวเพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลาไม่ได้แต่ก็เป็นรสชาติและอารมณ์ที่แตกต่างออกไป
จนกระทั่งร่างของฮั่นหนิงซือหายไปที่ทางขึ้นบันไดอู๋เป้งเต๋าก็ฟื้นคืนสติกลับมาอย่างช้าๆ และสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วหันหลังเดินไปยังห้องอาหารทันที ถึงแม้ว่าอู๋เป้งเต๋าจะไม่ใช่สมาชิกของตระกูลจินแต่เนื่องจากเขาได้ทำหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อตระกูลจินมามากมายแล้วสถานะของเขาในตระกูลจินก็สูงมากและเรียกได้ว่าเขาสามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเลย
ในห้องอาหารจินเจิ้งผิงกับเย่เชียนก็นั่งอยู่ที่โต๊ะแล้วดังนั้นอู๋เป้งเต๋าจึงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วนั่งลง ซึ่งอาหารบนโต๊ะมีมากมายและส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์และอาหารทะเล จากนั้นเย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อยและชำเลืองมองไปที่อู๋เป้งเต๋าและพูดว่า “อาจารย์อู๋ถือศีลอยู่เพราะงั้นคุณคงกินมังสวิรัติสินะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกเพราะฉันสามารถกินเหล้าองุ่นและเนื้อได้..ถึงยังไงพระพุทธเจ้าก็ยังคงปกปักรักษาฉัน..เพราะความจริงแล้วกุญแจสำคัญที่จะเชื่อในพระพุทธเจ้าก็คือหัวใจและตราบใดที่หัวใจของเราซื่อสัตย์มันก็ไม่สำคัญว่าเราจะกินอะไรหรอก” อู๋เป้งเต๋าพูด
“อาจารย์อู๋พูดถูกต้องแล้วเพราะตราบใดที่เรามีความจริงใจซื่อสัตย์เราก็ไม่จำเป็นต้องสนใจสิ่งเหล่านั้นเลย..สมัยนี้ชาวพุทธจำนวนมากก็ทำการฉ้อโกงซึ่งไม่สมควรได้รับว่าเป็นชาวพุทธศาสนา..เหมือนข่าวใหญ่ที่เคยออกหน้าหนึ่งว่ามีพระแอบพาหญิงสาวไปเปิดห้องครั้งนั้น” เย่เชียนพูด
อู๋เป้งเต๋าพูด “ดูเหมือนว่าการตรัสรู้ของรองนายกเทศมนตรีเย่จะดีมากและดูเหมือนว่าคุณจะเข้าถึงพระพุทธศาสนาได้เป็นอย่างดีเลย..ถ้ารองนายกเทศมนตรีเย่เต็มใจสละตำแหน่งสูงในปัจจุบันและอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาล่ะก็คุณจะต้องประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน”
“ไม่มีทางเป็นไปได้หรอกเพราะผมหยาบคายเกินไป..ผมไม่สามารถปล่อยวางอะไรหลายๆ อย่างได้หรอก” เย่เชียนถอนหายใจเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นอกจากนี้ผมก็นั่งในตำแหน่งนี้แล้วและไม่สามารถละทิ้งความรับผิดชอบได้..อย่างน้อยๆ ก็ต้องคู่ควรแก่ความไว้วางใจของผู้นำและประชาชนที่สนับสนุนสิใช่มั้ย?” หลังจากนั้นไม่นานเย่เชียนก็พูดต่อ “แต่อาจารย์อู๋กับอาจารย์จินนั้นแตกต่างไปจากผม..ผมเป็นข้าราชการก็เลยไม่สามรถทำอะไรที่โจ่งแจ้งได้หรอกเพราะงั้นผมไม่สามารถละทิ้งหน้าที่การงานไปได้หรอกครับ”
“อันที่จริงก็มีเจ้าหน้าที่รัฐหลายคนที่เข้ามาหาฉันและขอให้ฉันจัดรูปแบบฮวงจุ้ยให้พวกเขาเพื่อที่พวกเขาจะได้ก้าวหน้าในอาชีพการงาน” อู๋เป้งเต๋าพูด “ยังไงก็เถอะทุกสิ่งทุกอย่างมีชะตากรรมเป็นของตัวเองเพราะงั้นถ้าเราฝืนโชคชะตามากเกินไปมันก็จะมีแต่ผลเสีย”
“อาจารย์อู๋เป็นปรมาจารย์ด้านฮวงจุ้นที่สามารถค้นหาความลับของสวรรค์ได้..แต่เราฆราวาสนั้นหาที่เปรียบมิได้..อันที่จริงสำหรับเราสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเราคือสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะงั้นหลังจากที่ได้ยินว่าอาจารย์จินกับอาจารย์อู๋มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันผมก็เลยขอให้อาจารย์จินแนะนำอาจารย์อู๋ให้ผมรู้จักโดยหวังว่าจะอาจารย์อู๋จะช่วยชี้แนะให้ผมได้” เย่เชียนพูด “พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมมีเพื่อนที่เป็นโรคแปลกๆ อยู่และหมอทุกคนก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยเพราะงั้นผมจึงอยากจะถามอาจารย์อู๋ว่าคุณพอจะมีวิธีแก้ไขหรือเปล่า?”
“ตามทฤษฎีฮวงจุ้ยแล้วมันสามารถปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บได้เพราะโรคของคนเราล้วนแล้วแต่เป็นความโชคร้ายผ่านการก่อตัวของฮวงจุ้ยและเราสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาและช่วยกำจัดพิษภัยเหล่านั้นได้..แต่สิ่งนี้ก็ยังเป็นปริศนาฟ้าและปัญหาก็คือถ้าเป็นโรคทั่วๆ ไปก็ไปโรงพยาบาลจะดีกว่าแต่ถ้ามันรักษายากจริงๆ ก็ต้องลองไปให้หมอยาจีนช่วยเพราะฮวงจุ้ยส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่มีความสามารถแบบนั้น..แต่ถึงแม้ว่าจะมีวิธีช่วยแต่สุดท้ายแล้วทุกคนก็จะถูกลงโทษอยู่ดีเนื่องจากฝืนโชคชะตามากเกินไป..ในสมัยก่อนอาจารย์หมอฮวงจุ้ยท่านหนึ่งได้ช่วยชีวิตผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายแต่ผลลัพธ์ก็คือดวงตาของอาจารย์ท่านั้นก็ค่อยๆ สูญเสียการมองเห็นไป..ว่าแต่ฉันไม่รู้ว่าเพื่อนของรองนายกเทศมนตรีเย่ป่วยเป็นโรคอะไรงั้นเหรอ?”
“คาถามนต์ดำสัมภเวสีจองจำจากเผ่าเมียว” เย่เชียนพูดอย่างโผงผาง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน