เย่เชียนนั้นใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารมานานกว่าหนึ่งเดือนแล้วโดยไม่รู้ตัว ซึ่งนอกจากการฝึกฝนและฝึกอบรมณ์ทักษะในทุกๆ วันนั้นถึงแม้ว่าชีวิตแบบทหารจะน่าเบื่อหน่ายก็ตามแต่เย่เชียนก็ค่อยๆ คุ้นเคยกับมันไปเรื่อยๆ โดยที่เย่เชียนนั้นจะเป็นผู้รับผิดชอบในการฝึกภาคสนามและการรบจริงในแต่ละวันเพียงเท่านั้น ส่วนหลักสูตรต่างๆ นอกจากนี้เช่นรูปแบบการรบทางยุทธวิธีนั้นโดยปกติแล้วก็จะมีคนอื่นที่รับผิดชอบในด้านนี้
เป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือนแล้วที่เย่เชียนใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารกับเหล่าทหารของกองหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าซึ่งพวกเขาก็สนิทสนมและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีและส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะว่าเย่เชียนเป็นคนที่ง่ายๆ สบายๆ และไม่ตึงเครียดนักและถึงแม้ว่าตารางและแผนการฝึกซ้อมของเย่เชียนจะหนักหนาสาหัสก็ตามแต่โดยรวมแล้วมันก็ค่อนข้างที่ผ่อนคลายและไม่ตึงเครียดใดๆ เลย และยิ่งไปกว่านั้นมันเหมือนกับการเล่นสนุกกันของเหล่าอันธพาลและนักเลงบนท้องถนนเสียมากกว่า
และแล้วในที่สุดเย่เชียนก็ได้สมความปรารถนาของเขาเพราะในที่สุดเขาก็ได้เห็นทหารหญิงแล้วและถึงแม้ว่าพวกเธอจะดูจริงจังในหน้าที่ก็ตามแต่พวกเธอก็ทั้งกล้าหาญและดูมีความอ่อนโยนของผู้หญิงไปพร้อมๆ กัน
กองกำลังทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องในเรื่องฐานทัพเรือนั้นโดยหลี่เหว่ยถูกส่งไปหากลุ่มโจรสลัดซาตานในมหาสมุทรแปซิฟิกพร้อมกับสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าบางคนก็ถูกย้ายจากสำนักงานใหญ่เขี้ยวหมาป่าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับฐานทัพเรือของเขี้ยวหมาป่านั่นเอง โดยมีกลุ่มโจรสลัดซาตานที่ทำหน้าที่ช่วยฝึกอบรมเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ทางทะเล และด้วยการสนับสนุนของหวังปิงจึงทำให้บริษัทรักษาความปลอดภัยไอร่อนบลัดพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและเกือบจะผูกขาดตลาดกลางของเมืองเซี่ยงไฮ้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งบุคลากรและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัทไอร่อนบลัดนั้นก็สามารถพบเห็นได้เกือบตลอดเวลาทั้งในห้างสรรพสินค้าและชุมชนและที่บริษัทต่างๆ ส่วนเรื่องของหงเหมินกรุ๊ปนั้นม่อหลงก็ค่อยๆ มอบหมายสิ่งต่างๆ ให้หวังหูไปทีละนิด แน่นอนว่าหงเหมินกรุ๊ปกับแก๊งชิงก็ถูกรวมเข้าด้วยกันแล้วและยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ม่อหลงต้องทำและเขาก็ต้องแสวงหาสาวกม่อจื๊ออีกดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาดูแลสิ่งต่างๆ ของหงเหมินกรุ๊ปมากนักเพราะฉะนั้นเขาจึงต้องให้หวังหูจัดการเรื่องต่างๆ และรับช่วงต่อ
ถึงแม้ว่าหวังหูจะพยายามและทำทุกสิ่งทุกอย่างดีที่สุดแล้วก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ยังรู้สึกกังวลอย่างมาก เพราะถึงแม้ว่าเขาจะเคยควบคุมเหล่านักเลงและอันธพาลหลายสิบหลายคนคนมาก่อนก็ตามแต่ทว่าในตอนนี้เขาต้องควบคุมผู้คนนับพันนับหมื่นทั่วประเทศภายใต้ชื่อของหงเหมินและแก๊งชิงนั่นเอง
ส่วนโครงการแผนฟื้นฟูและบูรณะเมืองเก่าของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปนั้นก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วและเงินทุนก็ดำเนินไปตามปกติเพราะหากปราศจากการแทรกแซงของตงเซียงกรุ๊ปและแก๊งชิงเช่นนี้แล้วทุกอย่างก็ราบรื่นไปโดยปริยาย อย่างไรก็ตามในขณะที่สถานการณ์ต่างๆ นั้นกำลังสงบและมั่นคงอยู่เช่นนี้เย่เชียนเองนั้นก็ไม่ได้ผ่อนคลายและชะล่าใจแต่อย่างใด ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนกับหูวหนานเจียงมาขอร้องให้เขาไปปักปิ่งด้วยตัวเองแล้วล่ะก็เย่เชียนก็คงจะยังไม่เคลื่อนไหวอะไรใดๆ เพราะท้ายที่สุดแล้วบทสนทนาครั้งนั้นกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่ทำให้เย่เชียนสงสัยว่ายังมีฝ่ายที่ทรงพลังอีกมากในเมืองหลวงอย่างปักกิ่ง ดังนั้นเย่เชียนเองก็ไม่ได้มีความมั่นใจ 100% ในการก้าวเท้าเข้าไปในโลกแห่งเมืองหลวงปักกิ่งอย่างใจร้อนใดๆ
เย่เชียนเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าการเป็นครูฝึกนั้นมันก็เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเพียงเท่านั้นและเขาก็ยังเฝ้ารอว่าหูวหนานเจียนจะมอบภารกิจอะไรให้เขาทำในครั้งต่อไป แต่ถึงยังไงผลตอบแทนของสิ่งเหล่านี้ก็คงจะไม่น้อยเช่นกันเพราะคนอย่างหูวหนานเจียนก็คงจะไม่เพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆ อย่างแน่นอน
ในวันนี้เย่เชียนก็ยังคงให้การฝึกภาคสนามตามปกติและกู๋เจ้อหมิงก็รีบวิ่งมาหาแล้วพูดว่า “พวกเราพร้อมแล้วครับครูฝึกเย่!” กู้เจ้อหมิงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง
เย่เชียนก็พยักหน้าและตะโกนว่า “ทั้งหมดเข้าแถว!”
ไม่นานนักเหล่าทหารทั้งหมดก็มาเข้าแถวกันและเย่เชียนก็พูดว่า “หัวหน้ากู๋คุณเริ่มอธิบายภารกิจปฏิบัติจริงของวันนี้ได้เลย!”
กู๋เจ้อหมิงก็ก้าวออกมาหน้าสองสามก้าวและพูดว่า “มีกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวญี่ปุ่นกองโจรแดงได้บุกจับตัวประกันในโรงเรียมอนุบาล..และเบื้องบนก็สั่งให้เราไปสนับสนุนตำรวจท้องถิ่นและตำรวจติดอาวุธชุดปฏิบัติการS.W.A.T. พวกเราต้องไปประสานงานกับพวกเขาเพื่อปราบปรามผู้ก่อการร้ายและช่วยตัวประกันออกมาให้ปลอดภัย..พวกคุณเข้าใจมั้ย?”
“รับทราบ!” เหล่าทหารก็ตอบกลับอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยความมุ่งมั่น
สำหรับกองโจรแดงนั้นเย่เชียนก็รู้เรื่องต่างๆ ดีกว่าพวกเขาเพราะทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเคยรับมือกับพวกนี้หลายครั้งแล้วก่อนหน้านี้ “ถึงเวลาทดสอบสิ่งที่พวกคุณเรียนรู้มาแล้ว..กองโจรแดงเหล่านี้เป็นคนที่โหดร้ายมาก..และเมื่อต้องเผชิญหน้ากับพวกมันแล้วเราจะต้องไม่มีความลังเลหรือความหวาดกลัวใดๆ ที่จะฆ่าพวกมัน..พวกมันจะต้องตายสถานเดียว..พวกคุณคงไม่มีความเมตตาต่อพวกคนชั่วคนเลวหรอกใช่มั้ย?” เย่เชียนพูด
“รับทราบ!” ทุกคนตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน
เย่เชียนก็พยักหน้าและพูดว่า “เอาล่ะ..พวกคุณทุกคนเตรียมตัวและจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม..พวกคุณจะออกปฏิบัติการในอีกห้านาที! ..โชคดี!” เย่เชียนก็มองไปที่กู๋เจ้อหมิงเพื่อมอบหมายสิ่งต่างๆ ให้เขาดำเนินการต่อและหลังจากนั้นเย่เชียนก็กลับไปที่ห้องพักของเขาเพื่อพักผ่อน
หลังจากผ่านมาหนึ่งเดือนหูวหนานเจียนก็ไมได้ติดต่อมาเลยซึ่งเย่เชียนควรจะไปพบเขาไหม? เพราะถึงยังไงเย่เชียนก็อยากที่จะออกไปจากค่ายทหารแห่งนี้แล้วเพราะเขาต้องไปตรวจดูแผนการสร้างโรงแรมและคาสิโนที่มณฑลเหอหนานที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วโดยหลี่จื้อเทียน แต่ทว่าตอนนี้ก็ยังไม่มีปัญหาใดๆ เกิดขึ้น แต่ถึงยังไงถ้าหากว่าเย่เชียนไม่ไปดูสิ่งต่างๆ ในเร็วๆ ล่ะก็การดำเนินการต่างๆ ในอนาคตก็คงจะเป็นเรื่องที่ลำบากอย่างมาก
อย่างไรก็ตามแม้ว่าผู้คนในมณฑลเหอหนานจะไม่ได้ต่อต้านอะไรโครงการเหล่านี้ก็ตามแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็เคยได้ยินเกี่ยวกับองค์กรใต้ดินที่มีอำนาจอย่างมากในพื้นที่เหล่านี้ ซึ่งหลังจากที่ตระหนักถึงเรื่องนี้แล้วเย่เชียนก็โทรไปหาหลี่จื้อเทียนและบอกให้เขาติดต่อไปหาแจ็คถ้าเขามีปัญหาอะไร ซึ่งหลี่จื้อเทียนก็ไม่ได้ถามอะไรมากนักเขาเพียงพยักหน้าเห็นด้วยเท่านั้น
ทันทีที่วางสายโทรศัพท์ไปเย่เชียนจู่ๆ ประตูห้องพักก็ถูกเปิดออกและปรากฏว่าเป็นหูวหนานเจียนกับหวงฟู่ชิงเตี๋ยนที่เดินเข้ามาและตามมาด้วยหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอก็คือหูวเค่อนั่นเอง เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ตกตะลึงไปชั่วขณะและคิดว่าในที่สุดเวลานี้ก็มาถึงแล้ว เย่เชียนก็ลุกขึ้นเพื่อทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
“ชีวิตในค่ายทหารเป็นยังไงบ้าง?” หลังจากที่ทุกคนนั่งลงแล้วหูวหนานเจียนก็ยิ้มและถาม
“ดีมากๆ เลยครับ..เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพื่อซื้อข้าวกินเลย..และก็ไม่ต้องเปลืองเงินไปกับเสื้อผ้าแพงๆ” เย่เชียนตอบอย่างง่ายๆ สบายๆ
เมื่อเห็นหูวเค่อที่กำลังจ้องมองไปที่เย่เชียนเช่นนี้หูวหนานเจียนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “เสี่ยวเย่ยังไงเราก็คนกันเองล่ะนะ..เพราะงั้นฉันก็จะพูดตรงๆ เลยก็แล้วกัน..ประเทศชาติมีงานที่อยากมอบหมายให้เสี่ยวเย่และฉันก็หวังว่าเสี่ยวเย่น่ะสามารถทำมันได้”
เย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “งานอะไรครับ..อย่ายากเกินไปล่ะ..ผมกลัวว่ามันจะเกิดปัญหาน่ะสิ” เย่เชียนพูด
หูวหนานเจียนก็เหลือบมองไปที่หูวเค่อหลังจากนั้นเธอก็ยื่นแฟ้มเอกสารให้เย่เชียนและเย่เชียนก็หยิบมันมาและเปิดออกมาดูด้วยความประหลาดใจและเขาก็จ้องมองมันอย่างขมขื่นและพูดว่า “ท่านรองนายกหูว! ..นี่คุณล้อผมเล่นหรือเปล่าเนี่ย?”
“คิดว่าฉันจะล้อเล่นหรือ? ” หูวหนานเจียนพูด
“ไม่ๆ เหมือนครับ!” เย่เชียนก็หัวเราะแห้งๆ และพูดว่า “แต่ผมไม่สามารถทำมันให้สำเร็จได้ในชั่วข้ามคืนและผมก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าผมจะทำมันได้สำเร็จ”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน