เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 350

ตอนที่ 350 มองการณ์ไกล

โรงแรมที่นัดหมายเอาไว้นั้นเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างจะหรูหราระดับไฮเอนด์อย่างมาก โดยเย่เชียนนั้นได้จองห้องส่วนตัวเอาไว้ ซึ่งจ้าวอี้ข่ายกับหยานเทียนเป่าก็ประหม่าและวิตกกังวลอย่างมากและการแสดงออกของพวกเขานั้นก็ดูอึดอัดเมื่อนั่งอยู่ที่นั่น เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นประธานบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ก็ตามแต่ทว่าเมื่อพวกเขาอยู่ต่อหน้าของเย่เชียนแล้วพวกเขาก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเย่เชียนได้เลย และพวกเขาก็คิดว่าพวกเขานั้นไม่คู่ควรต่อการถูกเย่เชียนเชิญพวกเขามาทานอาหารค่ำซึ่งสิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกประหลาดใจอย่างมากและรู้สึกไม่สบายใจด้วยเช่นกัน

เมื่อเย่เชียนเห็นท่าทางของพวกเขาเย่เชียนก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและพูดว่า “อย่าประหม่าสิครับ..เราก็คนกันเอง..ถ้าพวกคุณอยากกินอะไรก็สั่งกันได้เลยครับ!”

“ไม่เป็นไรครับ..คุณเย่สั่งเลยครับ” หยานเทียนเป่าพูด

“ใช่ครับ..คุณเย่เชิญสั่งก่อนเลยครับ” จ้าวอี้ข่ายก็เห็นด้วยเช่นกัน

เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆ เพราะเขาสามารถเข้าใจสิ่งที่อยู่ในใจของพวกเขาได้เป็นอย่างดี “ถ้างั้นก็ได้ครับ” หลังจากที่เย่เชียนพูดจบเขาก็เริ่มสั่งอาหารสองสามอย่างกับบริกรข้างๆ เขาพร้อมกับสั่งไวน์หนึ่งขวด

“กรุณารอสักครู่นะครับ!” บริกรพูดด้วยความเคารพแล้วหันหลังเดินออกไป

เย่เชียนรินชาลงในถ้วยชาให้กับจ้าวอี้ข่ายและหยานเทียนเป่าและพูดว่า “ทั้งสองคนเป็นคนไต้หวันหรอครับ?”

“ไม่ครับ..ผมมาจากมณฑลฝูเจี้ยน!” หยานเทียนเป่าพูด “ผมย้ายมาอยู่ที่ไต้หวันกับพ่อตอนที่ผมอายุสิบขวบ..พ่อของผมเคยเป็นมาเฟียเพราะงั้นผมจึงมีเครือข่ายเยอะ..หลังจากนั้นผมก็เลยทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในที่ต่างๆ น่ะครับ..แล้วก็น้องสาวของผมเธอไปแต่งงานกับหัวหน้าทีมชุดสืบสวนพิเศษของเมืองนี้ด้วยเพราะงั้นด้วยเครือข่ายต่างๆ จึงทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นน่ะครับ”

เย่เชียนก็พยักหน้าและหันไปมองจ้าวอี้ข่ายและถามว่า “แล้วคุณล่ะ”

“ตระกูลของผมเป็นคนกวางตุ้งน่ะ..แต่ผมมาเติบโตที่ไต้หวัน..ซึ่งสมัยตอนที่ผมยังเด็กน่ะตอนนั้นครอบครัวของผมยากจนมากและผมเองก็อ่านหนังสือและเรียนไม่ได้..เพราะงั้นผมจึงเตร็ดเตร่ไปตามไซต์ก่อสร้างและหาเงินเล็กๆ น้อยๆ จากการช่วยพวกลุงๆ แถวนั้นน่ะครับ”

“พวกคุณอยู่ในแวดวงธุรกิจนี้มานานแล้วใช่มั้ย?” เย่เชียนหยิบถ้วยชาของเขาขึ้นมาแล้วจิบเบาๆ จากนั้นก็ถามพวกเขา

“ประมาณเจ็ดถึงแปดปีได้” จ้าวอี้ข่ายตอบ

“ส่วนผมประมาณหกปี!” หยานเทียนเป่าตอบ

“อืม!” เย่เชียนพยักหน้าและพูดว่า “ทุกคนก็ผ่านอะไรกันมาเยอะเลยเนอะ..มันไม่ง่ายเลยกว่าจะหาเงินมาได้เหมือนทุกวันนี้..เอ่อ..แล้วทำไมพวกคุณถึงได้ทะเลาะกันแบบนั้นล่ะ? ..พวกคุณจะเอาเปรียบผู้อื่นอย่างงั้นเหรอ..ทั้งๆ ที่บริษัทของพวกคุณก็ยังไม่เป็นทางการแบบนี้เนี่ยนะ..มันจะส่งผลเสียต่อธุรกิจของพวกคุณได้นะ..คือในความคิดของผมน่ะพวกคุณน่าจะรวมบริษัทกันและถือหุ้นด้วยกันและร่วมลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการ..เพราะงั้นการแข่งขันทางธุรกิจนั้นจะไม่เป็นปัญหากับพวกคุณและยิ่งไปกว่านั้นพวกคุณก็สามารถขยายธุรกิจของคุณไปยังที่อื่นๆ หรือต่างประเทศได้อีกด้วยในอนาคต..พวกคุณคิดว่าไงกันบ้าง”

“เอ่อคือ..ผมเองก็เคยคิดแบบนั้นอยู่เหมือนกันนะ..แต่ผมเป็นคนไร้การศึกษาและหัวอ่อนอย่างมาก..เพราะงั้นผมจะไปรู้เรื่องการบริหารจัดการได้ยังไง?” จ้าวอี้ข่ายพูดอย่างหดหู่ “นอกจากการตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการแบบนั้นน่ะ..เรามีเงินทุนไม่พอหรอก”

“ใช่ๆ ..ต่อให้เราจะมีเงินไปจดทะเบียนบริษัทก็ตาม..แต่ถ้าเราเปิดบริษัทจริงๆ ล่ะก็ค่าใช้จ่ายในการจัดแจงสิ่งต่างๆ ก็คงจะเยอะมากเลยทีเดียว..และที่สำคัญก็เหมือนอย่างที่จ้าวอี้ข่ายพูดนั่นแหละครับ..พวกเราไม่มีการศึกษาเลยแล้วพวกเราจะไปเข้าใจอะไรได้ล่ะ” หยานเทียนเป่าพูด

“แบบนั้นน่ะพวกคุณคิดผิด..ในฐานะผู้นำแล้วคุณไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ทุกเรื่องเสมอไปหรอกนะ..พูดตามตรงเลยนะผมเองก็แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการจัดการหรือการบริหารบริษัทเลย..แต่มันแล้วไงล่ะ? ..สิ่งนี้มั้ยไม่ได้มาขัดขวางการพัฒนาบริษัท ของเราไม่ใช่เหรอ? ..เราสามารถมีลูกน้องเก่งๆ มากมายมาช่วยเราได้ไม่ใช่เหรอ? ..ผมเองยังไม่อยากบริหารเลยเพราะมันน่ารำคาญ..และนอกจากนี้อุตสาหกรรมการก่อสร้างน่ะมันไม่ได้มีเทคนิคหรือข้อจำกัดอะไรขนาดนั้น..มันไม่เหมือนบริษัทธุรกิจของแบรนด์เนมหรือบริษัทการเงินทั่วๆ ไปหรอกนะ..เพราะบริษัทก็สร้างก็ยังคงเป็นบริษัทก่อสร้างเพราะงั้นพวกคุณก็สามารถบริหารจัดการได้เหมือนเดิมอีกด้วย” เย่เชียนพูดต่อ “แล้วก็นะ..ถ้าพวกคุณต้องการจริงๆ ล่ะก็ผมสามารถจัดหาเงินทุนให้ได้และที่สำคัญผมเองก็ยังมีโครงการอื่นๆ อีกมากมายของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปที่จะเริ่มดำเนินการ..เพราะงั้นเมื่อมีการดำเนินการโครงการเมื่อไหร่ผมก็จะบอกให้ผู้ดูแลโครงการใช้บริการบริษัทก่อสร้างของคุณและแม้กระทั่งอิฐและแท่งเหล็กหรือปูนก็จะซื้อมาจากบริษัทของพวกคุณทั้งหมด..พวกคุณลองคิดดูสิว่ามันจะยิ่งใหญ่ขนาดไหนกัน”

จ้าวอี้ข่ายและหยานเทียนเป่าก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปและพวกเขาก็รู้สึกได้ถึงทองคำที่ตกลงมาจากท้องฟ้าราวกับเม็ดฝน “สิ่งที่คุณเย่พูดเป็นความจริงหรอ?” เห็นได้ชัดเลยว่าจ้าวอี้ข่ายนั้นรู้สึกสนใจอย่างมากและถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ฉลาดอะไรก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็อยู่ในแวดวงธุรกิจเช่นนี้มานานหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงรับรู้ได้ถึงผลประโยชน์และกำไรที่เย่เชียนพูดออกมาด้วยซึ่งมันยอดเยี่ยมอย่างมากในสายตาของเขา

“แน่นอนว่ามันเป็นความจริง!” เย่เชียนพูด

ในเวลานี้บริกรก็เดินเข้ามาและเย่เชียนก็หยุดพูด ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานอาหารทั้งหมดก็ถูกเสิร์ฟและบริกรก็ขอตัวออกไป ในขณะที่เย่เชียนกำลังจะหยิบขวดไวน์นั้นจู่ๆ หยานเทียนเป่าก็ลุกขึ้นมาหยิบมันก่อนและก็เปิดฝาขวดไวน์แล้วรินให้เย่เชียนอย่างสุภาพและเคารพ

เย่เชียนก็หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและพูดว่า “เรามาลุยกันเถอะ!”

หยานเทียนเป่าและจ้าวอี้ข่ายก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วหยิบแก้วไวน์ของพวกเขาและพูดว่า “แด่คุณเย่!”

ตอนที่ 350 มองการณ์ไกล 1

ตอนที่ 350 มองการณ์ไกล 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน