เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 397

ตอนที่ 397 ผู้นำองค์กรเซเว่นคิล

ลงทัณฑ์ทั้งเจ็ด! หนึ่งคือฆ่าคนทรยศ,สองคือฆ่าเจ้าหน้าที่ทุจริต,สามคือฆ่าพวกขายชาติ,สี่คือฆ่าพวกเดนมนุษย์ฆาตกร,ห้าคือฆ่าพวกคนรวยที่มีอิทธิพลและเลวทราม,หกคือฆ่าพวกปลิ้นปล้อนหลอกลวง,เจ็ดคือฆ่าพวกเดนมนุษย์คดีข่มขืน ซึ่งกฎนี้เป็นกฎเหล็กที่เข้มงวดมากที่สมาชิกขององค์กรเซเว่นคิลทุกคนต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดและถ้าหากฝ่าฝืนล่ะก็สมาชิกทั้งหมดขององค์กรเซเว่นคิลจะลงทัณฑ์และไล่ล่าอย่างสุดกำลัง!

ในโลกของนักฆ่าแล้วองค์กรเซเว่นคิลก็โด่งดังและยิ่งใหญ่พอๆ กับเขี้ยวหมาป่าในโลกของทหารรับจ้างนั่นเอง และเมื่อพูดถึงองค์กรเซเว่นคิลแล้วก็แทบจะไม่มีนักฆ่าคนไหนไม่รู้จักความแตกต่างเพราะในโลกของทหารรับจ้างนั้นเขี้ยวหมาป่าก็เป็นที่รู้จักกันในนามราชาแห่งทหารรับจ้างและในโลกของนักฆ่าแล้วก็ไม่มีนักฆ่าจากองค์กรไหนๆ ที่กล้าท้าทายองค์กรเซเว่นคิลเลย

ในองค์กรเซเว่นคิลนั้นแทบจะไม่มีใครเคยเห็นหน้าหลินเฟิงเลยเพราะมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคยได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขารวมถึงรัฐบาลของประเทศต่างๆ ด้วย ซึ่งเย่เชียนเองก็เคยได้ทำการตรวจสอบองค์กรเซเว่นคิลโดยละเอียดแต่น่าเสียดายที่ข้อมูลที่เขาได้รับนั้นมีน้อยมากและจากการสืบข้อมูลของเย่เชียนนั้นองค์กรเซเว่นคิลได้ลอบสังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลหลายสิบคนในประเทศสหรัฐอเมริกาและสร้างความตื่นตระหนกอย่างมากในรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาโดยเสนอรางวัล 80 ล้านดอลลาร์เพื่อจับกุมหลินเฟิงแต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขาไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าหลินเฟิงหน้าตาเป็นอย่างไรแล้วนับประสาอะไรกับข้อมูลที่เกี่ยวกับหลินเฟิงเพราะพวกเขาได้ยินเพียงชื่อของเขาและไม่รู้จักตัวตนของเขาเลยและถึงแม้ว่ารางวัลจะใหญ่โตมากมายก็ตามแต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีองค์กรหรือบุคคลใดที่รับงานนี้เลย เพราะพวกเขาทุกคนรู้ดีว่าเงินจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ได้มันมาใช้เพราะถึงแม้ว่าพวกเขาจะฆ่าหลินเฟิงและได้รับค่าหัวมาแล้วแต่พวกเขาก็ไม่สามารถมีชีวิตที่ยืนยาวได้แล้วนับประสาอะไรกับการที่จะไปฆ่าคนที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้า

ทั้งเย่เชียนและหลินเฟิงต่างก็ถูกระบุว่าพวกเขาเป็นบุคคลที่อันตรายและเป็นที่ต้องการตัวที่สุดในโลกและพวกเขาก็ยังเป็นบุคคลที่รัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาต้องการปราบอีกด้วย ซึ่งความแตกต่างก็คือในสำนักงานของ CIA และ FBI ของประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีเอกสารของเย่เชียนกองอยู่จำนวนมากแต่ทว่าเอกสารของหลินเฟิงนั้นไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว

ความยิ่งใหญ่ขององค์กรเซเว่นคิลนั้นก็เหมือนกับเขี้ยวหมาป่าที่เป็นดั่งตำนานเพราะเพียงไม่กี่ปีเท่านั้นองค์กรเซเว่นคิลก็ได้กลายเป็นเหมือนเจ้าแห่งนักฆ่าแล้ว และพวกเขาก็ไม่เคยทำภารกิจล้มเหลวเลยสักครั้งซึ่งมีเพียงครั้งเดียวที่เย่เชียนเข้าไปแทรกแซงนั่นเอง อย่างไรก็ตามกล่าวอีกนัยหนึ่งมันก็ไม่ใช่ความล้มเหลวแต่อย่างใดเพราะข้อมูลที่นายจ้างให้มานั้นมันไม่ถูกต้องและยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็ไม่ได้อยู่ในกฎลงทัณฑ์ทั้งเจ็ดและแน่นอนว่าพวกเขาไม่จำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับเย่เชียนเลย

จากการสืบค้นข้อมูลมากมายเย่เชียนก็ได้รู้แค่ว่าหลินเฟิงนั้นเป็นชาวจีนแต่นอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่รู้อะไรเลย ดังนั้นเมื่อเย่เชียนเห็นหลินเฟิงเย่เชียนจึงมีแต่ความว่างเปล่า

ทั้งเย่เชียนทั้งหมาป่าผีไป๋ฮวยและหลินเฟิงนั้นล้วนเป็นดั่งดวงดาวและเทพเจ้าที่กลับมาเกิดใหม่ ซึ่งเย่เชียนนั้นเป็นดั่งเทพแห่งสงครามและกองทัพทวยเทพ ส่วนหมาป่าผีไป๋ฮวยก็เป็นดั่งเทพแห่งความละโมบ ส่วนหลินเฟิงก็เป็นเทพแห่งการสังหารและลงทัฑณ์ ซึ่งถ้าหากทั้งสามนั้นสามารถรวมพลังกันได้ล่ะก็โลกก็จะเกิดโลกาวินาศ

พวกเขาทั้งสามคนนั้นตระหนักได้ถึงคำพูดนี้โดยธรรมชาติแต่พวกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจกับมันอย่างจริงจังเพราะถึงแม้ว่าทั้งสามจะเคารพและชื่นชมซึ่งกันและกันแต่ก็ดูเหมือนว่าทั้งสามนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรวมพลังกัน เพราะหมาป่าผีไป๋ฮวยนั้นต้องการต่อสู้กับเย่เชียนอย่างเอาเป็นเอาตายและทำลายล้างเขี้ยวหมาป่า ส่วนหลินเฟิงเองก็ต้องการกวาดล้างพวกเขาซึ่งมันไม่ใช่เรื่องของชื่อเสียงหรือเกียรติยศแต่อย่างใดแต่มันเป็นเพราะความปรารถนาที่จะเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้น

เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงเมื่อได้ยินหมาป่าผีไป๋ฮวยเรียกชื่อหลินเฟิงเพราะเขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าผู้นำในตำนานขององค์กรเซเว่นคิลอย่างหลินเฟิงจะเป็นชายหนุ่มที่ดูเหมือนผู้หญิงเช่นนี้ และในทันใดนั้นหัวใจของเย่เชียนก็ปั่นป่วนและร่างกายของเขาสั่นเล็กน้อยแต่ทว่านี่ก็ไม่ใช่ความกลัวแต่เป็นความตื่นเต้นเพราะเย่เชียนนั้นใฝ่ฝันที่จะต่อสู้กับหลินเฟิงมาโดยตลอดและนี่ก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงปล่อยคนขององค์กรเซเว่นคิลไปถึงสองครั้งเพราะเขาต้องการให้พวกเขานำคำพูดมาให้หลินเฟิงและหวังว่าสักวันตัวเองจะได้พบกับเขา

ถ้าไม่ใช่เพราะหลินเฟิงมาหาเขาเย่เชียนก็คงจะหาที่อยู่ของหลินเฟิงไม่ได้ อย่างไรก็ตามเย่เชียนก็ไม่ได้คาดหวังเลยว่ากกริชดาวตกจะดึงดูดหลินเฟิงมา ซึ่งในตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ครอบครองกริชดาวตกก็ตามถึงยังไงเขาก็ไม่เสียใจเลย

“ผมเคยได้ยินชื่อของหลินเฟิงผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลมานาน..ช่างเป็นตำนานจริงๆ ..รู้สึกเป็นเกียรติมาก!” เย่เชียนพยายามระงับความตื่นเต้นเอาไว้และยื่นมือออกไป

ใบหน้าที่หวานเหมือนผู้หญิงของหลินเฟิงแสดงให้เห็นถึงรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรมาก ซึ่งถ้าหากเป็นคนที่ไม่รู้จักก็ไม่มีใครคาดคิดได้เลยว่าหลินเฟิงคนนี้จะเป็นนักฆ่าเลือดเย็นได้ “คุณเย่ก็ชื่นชมผมเกินไป..ผมอยากจะขอบคุณสำหรับการไว้ชีวิตคนขององค์กรเซเว่นคิลถึงสองครั้ง” หลินเฟิงยื่นมือออกมาและจับมือกับเย่เชียนแล้วพูดช้าๆ

เหตุการณ์ทั้งสองนั้นล้วนเป็นความผิดพลาดขององค์กรเซเว่นคิลเพราะพวกเขารีบออกปฏิบัติการเกินไปโดยไม่ตรวจสอบเป้าหมายให้ถี่ถ้วนจนเกือบจะทำให้เกิดหายนะครั้งใหญ่เสียแล้ว เพราะถ้าหากองค์กรเซเว่นคิลนั้นฆ่าคนโดยนอกเหนือจากกฎลงทัณฑ์ทั้งเจ็ดล่ะก็พวกเขาก็จะไม่ใช่องค์กรเซเว่นคิลอีกต่อไป ดังนั้นการที่หลินเฟิงพูดกับเย่เชียนในตอนนี้นั้นจึงออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจและไม่ใช่ท้าทายหรือความแค้นหรือเย้ยหยันเลยแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นเย่เชียนก็หันไปมองหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วก็ยิ้มและพูดว่า “พี่ไป๋ฮวยแผลหายดีแล้วเหรอ?”

“หึ!” หมาป่าผีไป๋ฮวยไม่แยแสเย่เชียนและหลังจากนั้นเขาก็หันมองไปที่หลินเฟิงและพูดว่า “น้องหลินก็อยากได้กริชดาวตกเหรอ?”

หลินเฟิงก็ยิ้มและส่ายหัวแล้วพูดว่า “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก..ผมแค่เห็นคนจำนวนมากมารวมตัวกันที่นี่น่ะ..ผมก็เลยอยากรู้และมาที่นี้..ผมแค่อยากเห็นกริชดาวตกชัดๆ กับตาของตัวเองน่ะ” เขาพูดและมองไปที่เย่เชียนซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้เย่เชียนเปิดกล่องให้เขาดู

ตอนนี้เย่เชียนก็รู้สึกสูญเสียเล็กน้อยเพราะกริชดาวตกไม่ได้อยู่ที่นี่เลยและถ้าหากเขาเปิดกล่องออกมาหรือปฏิเสธล่ะก็ถึงยังไงมันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเลย

“ฮ่าๆ ..เกรงว่ามันจะทำให้น้องหลินต้องผิดหวังล่ะนะ” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดด้วยรอยยิ้ม

“คุณหมายความว่าไง?” หลินเฟิงถามด้วยความประหลาดใจ เพราะเหตุผลที่เขาเลือกที่จะไม่บุกเข้าไปนั้นไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าเย่เชียนย้ายหรือซ่อนกริชดาวตกเอาไว้แต่มันเพราะว่าเขารู้ว่ามันเป็นกับดักและเขาไม่ต้องการที่จะพาตัวเองเข้าไปซวย เพราะมันไม่จำเป็นที่จะต้องไปต่อสู้กับคนเหล่านั้นเลย

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็กริชดาวตกไม่ได้อยู่ที่นี่..ฉันคิดว่าในกล่องนั้นมันคืออย่างอื่น” หมาป่าผีไป๋ฮวยพูดขณะที่มองไปที่เย่เชียนแล้วพูดว่า “ไงเย่เชียน! ..ฉันเดาถูกมั้ย?”

เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเชื่องช้าแต่เขาก็รู้สึกขอบคุณหมาป่าผีไป๋ฮวยเล็กน้อยเพราะคำพูดของเขานั้นถือได้ว่าเป็นความโล่งใจของเย่เชียนที่พูดแทนทุกอย่าง หลังจากนั้นเย่เชียนก็พยักหน้าเบาๆ และพูดว่า “ก็เคยบอกไปแล้วหนิว่ามันสามารถหลบซ่อนจากทุกคนในโลกได้แต่มันไม่สามารถหลบซ่อนจากพี่ได้..พี่ไป๋ฮวย..ผมน่ะรู้จักพี่ดี!”

ตอนที่ 397 ผู้นำองค์กรเซเว่นคิล 1

ตอนที่ 397 ผู้นำองค์กรเซเว่นคิล 2

ตอนที่ 397 ผู้นำองค์กรเซเว่นคิล 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน