ตอนที่ 463 สยบราชาสังเวียน
ราชาสังเวียนอาริคซ์ซึ่งในการแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินของมอสโกนั้นเขาเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งครั้งหนึ่งอาริคซ์เคยเป็นหัวหน้ากองกำลังพิเศษของประเทศรัสเซียที่ปลดประจำการแล้ว ซึ่งนับตั้งแต่ที่เขาเข้าร่วมการแข่งขันการต่อสู้ใต้ดินนั้นเขาก็ไม่เคยแพ้การต่อสู้เลยสักครั้งและไม่มีคู่ต่อสู้ของเขาคนใดรอดชีวิตออกไปจากสังเวียนเลย ดังนั้นเขาจึงมีชื่อเรื่องว่าราชาสังเวียน
ไม่รู้ว่าชายสวมแว่นสายตาที่จัดการตารางการแข่งขันนั้นต้องการจะฆ่าเย่เชียนหรือไม่เพราะเขาจัดตารางให้เย่เชียนสู้กับอาริคซ์ ซึ่งเมื่ออาริคซ์มาถึงเวทีการประลองเขาก็โบกมือและตะโกนราวกับว่าเขาอยู่ยงคงกระพันในโลกใบนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาอยู่ในวงการการต่อสู้ใต้ดินมาห้าปีแล้วและเขาก็สู้มาไม่น้อยกว่า 200 ครั้งแล้วแต่เขาก็ไม่เคยพ่ายแพ้เลยสักครั้งซึ่งทำให้บุคลิกที่น่าเกรงขามและดุดันของเขาพัฒนาขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผู้ชมรอบๆ เวทีก็ยิ่งบ้าคลั่งมากขึ้นและตะโกนกันอย่างต่อเนื่องเพราะพวกเขาแค่อยากเห็นฉากนองเลือดของราชาสังเวียนที่ปลิดชีพศัตรูในสังเวียน
“ต่อไป! ..ยินดีต้อนรับนักสู้แดนมังกรจากประเทศจีน!” พิธีกรตะโกนเสียงดังและไฟสปอตไลท์ก็ส่องมาตรงเย่เชียนและหลังจากนั้นทุกสายตาก็จับจ้องไปที่เย่เชียนอย่างรวดเร็ว
“หืม…” ในความคิดของเหล่าผู้ชมต่างก็คิดกันว่าร่างบางๆ ที่ผอมแห้งของเย่เชียนจะสามารถทนต่อกำปั้นของอาริคซ์ได้หรือไม่? บรรดาเหล่าผู้ชมที่ลงเดิมพันฝั่งเย่เชียนก็ยิ่งเสียใจเพราะเห็นได้ชัดเลยว่านี่หมายถึงการเสียเงินอย่างแน่นอน แต่ทว่าบรรดาผู้ชมที่ลงพนันฝั่งอาริคซ์ไปครองก็ยิ่งส่งเสียงโห่ร้องและตะโกนกันอย่างบ้าคลั่ง “ฆ่ามัน..ฆ่ามัน!”
เย่เชียนก็เดินขึ้นไปบนเวทีอย่างใจเย็นและเหลือบมองไปที่ผู้ชมแล้วพูดว่า “ไอ้พวกบ้า..เก่งจริงก็ขึ้นมาสู้เองเลยสิวะ!”
หลินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มเล็กยิ้มน้อยแต่บรรดาเหล่าผู้ชมนั้นไม่เข้าใจว่าเย่เชียนพูดอะไรและพวกเขาก็ยังคงส่งเสียงตะโกนกันอย่างบ้าคลั่ง เย่เชียนก็ไม่เข้าใจภาษารัสเซียเช่นกันดังนั้นเย่เชียนจึงไม่รู้ว่าพวกเขากำลังพูดอะไรกันอยู่แต่เขาก็เดาว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ
ซึ่งมีผู้หญิงบางคนในบรรดาผู้ชมที่ใช้ภาษาจีนที่ไม่ค่อยมีความเชี่ยวชาญโดยตะโกนว่า “โอ้พ่อหนุ่มแดนมังกรเดี๋ยวฉันเลี้ยงดูนายเอง..ไม่ต้องขึ้นไปสู้หรอก”
เย่เชียนก็ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรและกลุ่มหญิงสาวรอบๆ เวทีก็อดใจไม่ไหวที่จะกดเย่เชียนลงกับพื้นและทำทุกอย่างที่เธอต้องการ
“ไอ้หนู..เข้ามาเลย!” อาริคซ์ทุบหน้าอกของเขาด้วยกำปั้นของเขาเพื่อแสดงความแข็งแกร่งและพูดอย่างยั่วยุ
คิ้วของเย่เชียนก็ขมวดเล็กน้อยและทันใดนั้นเย่เชียนก็พุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับหมัดที่เข้าปะทะร่างของอาริคซ์ ซึ่งความเร็วนั้นรวดเร็วและรุนแรงมากจนทำให้เหล่าผู้ชมต่างก็ตกตะลึงและตะโกนกันอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ตามอาริคซ์ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้กังวลอะไรโดยเขาก็ยิ้มแล้วสวนเย่เชียนด้วยหมัดของเขา
เย่เชียนก็รีบปัดหมัดของอาริคซ์ด้วยมือของเขาแต่ผลกระทบนั้นก็มหาศาลมากและยังคงทำให้เย่เชียนถอยหลังไปหลายก้าว ซึ่งเย่เชียนก็รู้สึกเพียงว่าแขนของเขาชาเล็กน้อยและเขาก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเพราะดูเหมือนว่าอาริคซ์จะมีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก
อาริคซ์ก็ตะโกนว่า “มาสิไอ้หนู..มาให้ฉันฆ่าซะฮ่าๆ!” ท่าทางที่หยิ่งผยองของเขาทำให้ผู้ชมต่างก็ตะโกนกันอย่างบ้าคลั่ง
เย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และทำให้อารมณ์ของเขาคงที่ แต่ทว่าอาริคซ์ก็ไม่ต้องการรออีกต่อไปเพราะในความคิดของเขาคนอย่างเย่เชียนนั้นสามารถจัดการได้อย่างสบายๆ ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปหาเย่เชียนทีละก้าวและเขาก็โจมตีเย่เชียนด้วยหมัดทันที
อย่างไรก็ตามความคล่องแคล่วของอาริคซ์นั้นไม่ดีเท่าเย่เชียนและเขาไม่สามารถโจมตีเย่เชียนได้เลยจนทำให้เขาร้อนใจอย่างมาก ซึ่งผู้ชมเหล่านั้นก็ยังตะโกนและดุด่าเพราะพวกเขาต้องการดูการต่อสู้ระหว่างคนสองคนอย่างดุเดือดไม่ใช่ดูแมวไล่จับหนู
หลินเฟิงก็ยืนอยู่ข้างเวทีอย่างสงบและดูฉากบนเวทีอย่างเงียบๆ ซึ่งเขาเองก็ไม่ปฏิเสธว่าอาริคซ์นั้นมีทักษะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ แต่หลินเฟิงก็รู้ว่าถึงยังไงอาริคซ์ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เชียนอยู่ดี เพราะถ้าหากเย่เชียนไม่สามารถส็อาริคซ์ได้ล่ะก็เย่เชียนก็ควรจะเปลี่ยนฉายานามราชาหมาป่าไปนานแล้ว
มุมปากของเย่เชียนก็ค่อยๆ ฉีกโค้งขึ้นและเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มที่ชั่วร้ายขึ้นมาเมื่อเห็นจังหวะที่เหมาะสมจากนั้นเขาก็กำหมัดขวาของเขาแน่นและพุ่งเข้าไปอย่างรวดเร็ว เมื่ออาริคซ์ถูกหมัดขวาของเย่เชียนเข้าที่หน้าอกอย่างรุนแรง ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ใช่ผู้ฝึกฉีแท้ๆ ภายใต้การสอนของปรมาจารย์หลินจินไท่นั้นแต่เขาก็มีความเข้าใจเล็กน้อยเกี่ยวกับการควบคุมพลังฉีและนอกจากนี้ก็ยังมีร่องรอยของฉีที่ได้รับการฝึกฝนอย่างหนักในร่างกายของเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เรียกว่าพลังแฝงด้านมืด
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตอนที่เขาอยู่ในวัดหลิงหลงในดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนพระภิกษุรูปนั้นก็ทำให้เย่เชียนมีพลังบางอย่างมากขึ้น ซึ่งภายใต้การโจมตีที่ทรงพลังเช่นนี้นั้นอาริคซ์ก็เหมือนกับตายไปแล้ว
บรรดาเหล่าผู้ชมทุกคนต่างก็หยุดตะโกนไปกับฉากที่น่าประหลาดใจบนเวที เพราะปรากฏว่าพวกเขาเห็นราชาสังเวียนอาริคซ์ยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าแปลกๆ และตัวกระตุกตลอดเวลา ซึ่งเย่เชียนก็ส่ายหัวเล็กน้อยเพราะถ้าเขาเดาไม่ผิดล่ะก็หัวใจของราชาสังเวียนอาริคซ์นั้นคงจะแหลกไปเสียแล้ว
การคาดเดาของเย่เชียนนั้นเป็นจริงเพราะทันใดนั้นหัวใจของอาริคซ์เต้นแรงและมีเลือดไหลออกมาจากหู,ปากและจมูกและหลังจากนั้นร่างที่กำยำของเขาก็ล้มลงในทันที ยกเว้นหลินเฟิงแล้วทุกคนต่างก็ตกตะลึงเพราะปรากฏว่าราชาสังเวียนอาริคซ์ถูกโค่นล้มด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวและนี่ก็เป็นเรื่องที่เหลือเชื่ออย่างมาก
บรรดาผู้ชมก็ถึงกับตกตะลึงเพราะพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการโจมตีของเย่เชียนเมื่อครู่นี้จะทรงพลังถึงขนาดนี้ ซึ่งครั้งหนึ่งเย่เชียนเคยแสดงพลังต่อหน้าแม่ม่ายดำจือเหวินโดยการทำลายกระเบื้องหินอ่อนด้วยเท้าเพียงข้างเดียวและนั่นก็คือผลของพลังแฝง ดังนั้นหัวใจและร่างกายของอาริคซ์จะเปรียบเทียบกับหินอ่อนได้อย่างไรและยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีของเย่เชียนก็ได้เน้นพลังฉี่ทั้งหมดไปที่หัวใจส่วนหน้าอกของราชาสังเวียนอาริคซ์อย่างรวดเร็ว



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน