ตอนที่ 469 สามกลุ่มภายในหนึ่งองค์กร
ถึงแม้ว่าจะบอกว่าผลลัพธ์เช่นนี้เป็นสิ่งที่เซอร์เก้วิชพุชกินคาดหวังเอาไว้ก็ตามแต่ทว่าความตั้งใจเดิมของเขาคือถามเย่เชียนว่าโปดันโนว่าพูดอะไรกับเขา ซึ่งใครจะล่ะรู้ว่าเย่เชียนจะแกล้งทำตามและแสร้งสับสน ซึ่งหลังจากหยุดไปชั่วขณะเซอร์เก้วิชพุชกินก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “มิสเตอร์เย่..ผู้หญิงคนนั้นพูดอะไรกับคุณตอนดื่มชาบ้างหรือเปล่า? ”
“ใช่! ..เธอต้องการร่วมมือกับผม” เย่เชียนพูด “ผมงงมาก..ถ้าผมได้ร่วมมือกับหัวหน้าของคุณแล้วทุกอย่างมันก็จบแล้วไม่ใช่หรอ..และแค่ร่วมมือกับเธอยังไม่พอทำไมเธอถึงต้องชวนผมไปที่บ้านของเธอเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย..มันเป็นเรื่องที่อธิบายไม่ได้จริงๆ”
เย่เชียนก็ไม่ได้สัญญากับโปดันโนว่าและเขาจะไม่บอกเซอร์เก้วิชกุชกินว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนี้อย่างแน่นอนเพราะเย่เชียนเกรงว่าโปดันโนว่าจะสู้กับเซอร์เก้วิชพุชกินในตอนนี้ แม้ว่าเย่เชียนมักจะพูดว่าชิงเฟงเป็นคนที่แสวงหาความวุ่นวายในโลก แต่ทว่าเย่เชียนก็แสวงหาสถานที่ที่เขาจะอาศัยอยู่ได้อย่างสงบ แต่เขาก็หวังว่าสถานที่ของคนอื่นๆ จะวุ่นวายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพราะยิ่งที่แห่งนั้นเดือดดาลมากเท่าไหร่เย่เชียนก็จะระบายความกระหายเลือดได้
หลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็แอบรู้สึกว่าการคาดเดาของเขาไม่ผิดเลยและในที่สุดโปดันโนว่าก็ทนไม่ไหวที่จะเริ่มแสดงสิ่งที่เธอคิดอยู่ออกมา ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์ที่สุดของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินก็จะเป็นคนแรกที่ต้องแบกรับความรุนแรงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่น่าเสียดายที่อเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟยังคงเพิกเฉยต่อเรื่องนี้และยังคงเข้าข้างผู้หญิงคนนี้อยู่ดี ซึ่งในฐานะสุนัขรับใช้แล้วเซอร์เก้วิชพุชกินต้องต่อสู้กับการต่อสู้ครั้งนี้อย่างโดดเดี่ยวเพื่อรักษาผลประโยชน์ของผู้เป็นนายเอาไว้ให้ดีที่สุด
เซอร์เก้วิชพุชกินก็พูดว่า “ดูเหมือนว่าในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็ไม่สามารถทนกับเหงาได้..มิสเตอร์เย่ผมขอถามหน่อยว่าคุณตกลงที่จะร่วมมือกับเธอแล้วหรือเปล่า?”
“ผมยังไม่เข้าใจเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่..แล้วผมจะไปตกลงได้ยังไง?” เย่เชียนพูดด้วยสีหน้างุนงง “ฟังที่คุณพูดแล้วดูเหมือนว่ามิสโปดันโนว่าต้องการก่อกบฏใช่ไหม?”
เซอร์เก้วิชพุชกินก็พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “เป็นไปได้เพราะเธอดูแลธุรกิจร่วมกับเหล่ามาเฟียในช่วงหลายปีที่ผ่านมาดังนั้นความทะเยอทะยานของเธอก็จะขยายตัวมากขึ้นทุกวันและยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนี้ก็เป็นคนเจ้าเล่ห์มากเพราะแม้แต่หัวหน้าของพวกเราก็ยังถูกเธอหลอกเช่นกัน”
“ดูเหมือนว่าองค์กรของคุณจะยุ่งเหยิงมากเหมือนในประเทศจีนที่มักจะมีเขม่าดินปืนตลอดทั้งวัน..อย่าบอกนะว่ามันมีหลายฝั่งหลานฝ่ายในองค์กรของคุณ?” เย่เชียนนั้นรู้อยู่แล้วแต่เขาก็ยังคงถามโดยแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไร
เซอร์เก้วิชพุชกินก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “เป็นเรื่องจริงที่องค์กรของเราแบ่งออกเป็นสามฝ่าย..ซึ่งหนึ่งก็คือโปดันโนว่าและธุรกิจที่เธอดูแลก็คือการร่วมมือกับมาเฟียรัสเซียดังนั้นอิทธิพลของเธอจึงเติบโตเร็วที่สุด..อีกฝ่ายคือเครือญาติของหัวหน้าหรือตระกูลอเล็กซานเดอร์พวกเขามีหน้าที่หลักในธุรกิจอุตสาหกรรมน้ำมันของหัวหน้าและถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความทะเยอทะยานแต่ถึงยังไงพวกเขาก็เป็นญาติกับเจ้านายอยู่ดีเพราะงั้นพวกเขาจะไม่พยายามทำอะไรที่มากเกินไป..ส่วนสุดท้ายก็คือผมที่เป็นผู้ดูแลธุรกิจทุกประเภทนอกเหนือจากมาเฟียและอุตสาหกรรมน้ำมัน..แม้ว่าคนนอกจะเห็นว่าผมเป็นแค่นายหน้าและนักเจรจาก็ตามแต่ในขณะเดียวกันผมก็สร้างอำนาจของตัวเองขึ้นมาอีกด้วย”
เย่เชียนและหลินเฟิงก็มองหน้ากันและทั้งคู่อดก็ไม่ได้ที่จะยิ้มและพวกเขาเข้าใจความหมายของดวงตาของอีกฝ่าย ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เซอร์เก้วิชพุชกินเป็นสุนัขรับใช้มือหนึ่งของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟและเขายังปฏิบัติต่อครอบครัวอเล็กซานเดอร์เหมือนเป็นครอบครัวของตัวเอง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าคนในครอบครัวของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะเกลียดเขาหรือเปล่า
สำหรับเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นเย่เชียนก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาเป็นคนดีหรือคนเลว อย่างไรก็ตามนี่คือสิ่งต่างๆ ในโลกไม่มีผิดหรือถูกและในทำนองเดียวกันไม่มีความดีหรือความเลวแน่นอน ซึ่งเซอร์เก้วิชพุชกินคิดที่จะขโมยน้ำมันของประเทศจีนเขาก็เป็นหัวขโมยรายใหญ่ แต่สำหรับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแล้วเซอร์เก้วิชพุชกินคือคนดีและเป็นลูกน้องที่น่าเชื่อถือและซื่อสัตย์ที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหรือองค์กรใดๆ รวมไปถึงเขี้ยวหมาป่าและองค์กรเซเว่นคิลนั้นใครไม่อยากมีคนที่ซื่อสัตย์อย่างเซอร์เก้วิชพุชกินบ้าง? อย่างไรก็ตามสำหรับเย่เชียนแล้วยิ่งใครภักดีต่ออเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟมากเท่าไหร่เขาคนนั้นก็จะยิ่งเป็นศัตรูที่ไม่น่าให้อภัยมากที่สุด ถ้าเปรียบเทียบเซอร์เก้วิชพุชกินกับโปดันโนว่าจากมุมมองของเย่เชียนแล้วเขาชอบความทะเยอทะยานของโปดันโนว่ามากกว่าเพราะเธอจะสามารถช่วยเขาได้
แต่ทุกอย่างก็ต้องรอจนกว่าเย่เชียนจะได้พบกับอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟก่อนที่จะตัดสินใจ ยิ่งไปกว่านั้นเป้าหมายแรกของเย่เชียนที่ประเทศรัสเซียคราวนี้ไม่ใช่อาณาจักรธุรกิจขนาดใหญ่ของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟแต่เป็นองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ บางทีหลังจากที่เขากำจัดจิ้งจอกหิมะแล้วอาณาจักรธุรกิจของอเล็กซานเดอร์โซโรวิยอฟจะเป็นเรื่องราวที่แตกต่างออกไปหรือไม่?
เย่เชียนก็ส่ายหัวเบาๆ และพูดพร้อมกับถอนหายใจว่า “ผมไม่ได้คาดหวังว่าองค์กรของคุณจะซับซ้อนขนาดนี้ดูเหมือนว่าผมจะไม่เหมาะกับธุรกิจแบบนี้จริงๆ ”
หลินเฟิงก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ทั้งฉันและนายต่างก็เป็นคนประเภทที่ท้าทาย..แบบนี้แหละดีที่สุดสำหรับเราแล้ว”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน