ตอนที่ 522 คุยกับพ่อ
เย่เหวินก็อยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ชิงเฟิงก็ขยิบตาให้เธอจากนั้นชิงเฟิงก็หันกลับและเดินลงจากภูเขาไปพร้อมกับเธอ ซึ่งชิงเฟิงก็รู้ดีว่าตอนนี้อารมณ์ของเย่เชียนในตอนนี้ต้องยุ่งเหยิงและปั่นป่วนมาก ดังนั้นนี่จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว
เย่เชียนก็ยืนเงียบๆ อยู่หน้าหลุมศพของเย่เจิ้งหรานเช่นนี้และเขาก็ไม่ได้พูดหรือเคลื่อนไหวใดๆ เขาเอาแต่มองดูรูปภาพบนหลุมฝังศพราวกับว่าเขากำลังสื่อสารกับเย่เจิ้งหรานในอีกโลก รูปลักษณ์ของบุคคลในรูปภาพนั้นไม่ได้ทำให้เย่เชียนผิดหวังเลยเพราะเขาคนนั้นเกือบจะเหมือนกับรูปลักษณ์ของพ่อที่เขาจินตนาการเอาไว้
นี่คือพ่อของฉันหรอ? เย่เชียนคิดอย่างลับๆ ดูเหมือนว่าตนจะเห็นเย่เจิ้งหรานยิ้มให้ตนพร้อมกับรอยยิ้มที่ใจดีบนใบหน้าและดูเหมือนว่าเขาอยากจะบอกเย่เชียนเกี่ยวกับความยากลำบากของเขา
เป็นเวลานานเย่เชียนก็ค่อยๆ ยื่นมือออกไปลูบบนหลุมฝังศพและลูบบนรูปภาพและมุมปากของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่น “เป็นเรื่องน่าเสียดายเสมอที่ผมไม่ได้เห็นพ่อด้วยตาของผมเอง..ก่อนหน้านี้ผมมักจะจินตนาการว่าถ้าวันหนึ่งผมได้พบพ่อผมก็อยากจะถามพ่อว่าทำไมพ่อถึงได้ทิ้งผมเอาไว้ข้างหลังและไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรผมก็จะไม่ยกโทษให้อยู่ดี..ถ้าพ่ออยู่เคียงข้างผมมาตลอดผมก็คงจะไม่ต้องทนทุกข์มากขนาดนี้..ผมจะได้สามารถทำตัวเหมือนเด็กคนอื่นๆ ที่เล่นกับพ่อได้..ผมเคยคิดว่าอยากจะให้คุณตายไปแล้วเพื่อที่ผมจะได้เก็บจินตนาการนั้นเอาไว้ในใจและหลอกตัวเองได้..แต่ตอนนี้ผมเห็นพ่อนอนอยู่ที่นี่และผมกลับต้องการให้พ่อมีชีวิตอยู่และผมก็ต้องการเรียกคุณว่าพ่อและต่อว่าคุณในเรื่องที่ผ่านมา” เย่เชียนพูดอย่างช้าๆ
“แม่บอกว่าพ่อเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่แต่ถึงยังไงคุณก็ไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องครอบครัวของคุณได้..และในที่สุดคุณก็ถูกฝังอยู่ในอัฐิและไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นหน้าลูกชายอีก..วีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตกับครอบครัวได้..คุณไม่จำเป็นต้องตอบผมเพราะผมรู้ว่าคุณจะเลือกแบบเดิมอย่างแน่นอนใช่ไหมล่ะ..ลูกผู้ชายมักจะมีความทะเยอทะยานอันสูงส่งมากมายอยู่เสมอ..ผมเข้าใจดี”
“วันนี้กะทันหันไปหน่อยก็เลยไม่มีการเตรียมความพร้อมทางจิตใจเอาไว้และผมก็ไม่ได้ซื้อดอกไม้หรืออะไรมาเลย..เอาไว้วันอื่นผมจะมาหาคุณอีกและเมื่อถึงวันนั้นเราในฐานะพ่อกับลูกจะดื่มกันและพูดคุยกัน..ผมอยากยกโทษให้คุณในสิ่งที่คุณทำกับแม่ของผมแต่ทว่าในตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าจะยอมรับมันได้ยังไง..แต่ไม่ต้องกังวลไปเลือดย่อมข้นกว่าน้ำอยู่แล้ว..ผมจะดูแลแม่และน้องสาวของผมในอนาคตเอง..ผมเป็นผู้ชายคนเดียวในครอบครัวผมจะแบกรับภาระของครอบครัวนี้เอาไว้เอง”
“ไม่ต้องห่วงไม่ต้องกังวลเพราะตอนนี้ผมสามารถทำทุกอย่างได้ดี..และถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นวรีบุรุษหรือบุคคลที่ยิ่งใหญ่แต่ผมก็ยังสามารถถูกมองว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้..เพราะงั้นผมคงไม่แย่ไปกว่าคุณใช่มั้ย? ..นอกจากนี้ผมก็จะทำให้ดีกว่าคุณ..ผมน่ะมีแฟนตั้งหลายคนถ้ามีโอกาสผมจะพาพวกเธอมาเยี่ยมคุณพร้อมๆ กัน”
“คุณเป็นวีรบุรุษและบุคคลที่ยิ่งใหญ่ก่อนตาย..เพราะงั้นคุณก็ไม่ควรอยู่ที่นี่หลังความตายและปล่อยให้คนที่ไร้ความหมายอยู่ปะปนกับคุณ..เพราะงั้นผมจะย้ายพ่อออกไปจากที่นี่และย้ายไปยังจุดสูงสุดเพื่อที่คุณจะได้ก้าวข้ามทุกสรรพสิ่งไป”
เย่เชียนก็ยืนอยู่ที่นั่นและพูดอย่างเงียบๆ ราวกับว่าเขากำลังคุยกับเย่เจิ้งหรานแต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถสนทนากับพ่อได้ดีนักแต่ก็โชคดีที่ในที่สุดเย่เชียนก็มีโอกาสแล้วและการสนทนาแบบนี้ก็พิเศษมากเช่นกัน ซึ่งเย่เชียนก็รู้ว่าพ่อของเขาอาจจะสามารถได้ยินสิ่งที่เขาพูด
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แต่ขอบตาของเย่เชียนนั้นเปียกโชกไปด้วยน้ำตาแล้วและถึงแม้ว่าจะไม่มีน้ำตาหยดออกมาก็ตามแต่ดวงตาของเขาก็เป็นประกายเพราะไม่มีใครแข็งแกร่งเสมอไปและทุกคนต่างก็มีด้านที่เปราะบางของตัวเองและเย่เชียนเองก็เช่นกัน ผู้ชายอย่างเขาที่เข้มแข็งและแข็งแกร่งแต่ในเวลานี้เขาก็ไม่สามารถอดกลั้นมันเอาไว้ได้อยู่ดี
ตอนนี้เขายอมรับแล้วว่าเย่เจิ้งหรานเป็นพ่อของเขาและอันซือก็เป็นแม่ของเขาและสิ่งที่เย่เชียนต้องการรู้มากที่สุดในตอนนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนั้นว่าพ่อของเขาเสียชีวิตได้อย่างไรและแม่ของเขาป่วยได้อย่างไรและภูมิหลังของครอบครัวเป็นอย่างไร ตอนนี้คำถามต่างๆ ก็เกิดขึ้นและต้องกระจ่างไปทีละอย่าง ดังนั้นทั้งหมดนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เย่เชียนต้องถามอันซือผู้เป็นแม่ของเขานั่นเอง
ด้านล่างของภูเขาชิงเฟิงก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาและคาบเอาไว้ในปากของเขาแต่เขาก็ไม่ได้จุดไฟเพราะเขากำลังมีความสุขไปกับเย่เชียนเพราะเย่เชียนได้พบพ่อแม่และน้องสาวของเขาแล้วและเขาก็กำลังเสียใจไปกับเย่เชียนเพราะพ่อของเย่เชียนกลับล่วงลับไปเสียแล้ว
เวลาผ่านไปทุกนาทีและทุกวินาทีดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆ ตกไปจนพ้นภูเขาและเมฆสีแดงก็สะท้อนให้เห็นครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า และเมฆเหล่านั้นก็เป็นเหมือนสัตว์ประหลาดที่เคลื่อนไปและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
“เกิดขึ้นหรอ? ..ตั้งนานแล้วพี่เขายังไม่ลงมาเลย” เย่เหวินมองไปที่ชิงเฟิงด้วยความกังวลและพูด
ชิงเฟิงก็ยิ้มเบาๆ และพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไปหรอก..บอสจะไม่ทิ้งแม่กับเธอไปอย่างแน่นอน..เธอไม่รู้หรอกว่าเด็กกำพร้ารู้สึกน่ะรู้สึกยังไง..บอสจะติ้งมีเรื่องมากมายที่จะพูดกับพ่อของเขาเพราะงั้นตอนนี้ปล่อยให้เขาอยู่ที่นั่นไปสักพักเถอะ..อย่าโกรธเขาในสิ่งที่เขาทำในบ้านของเธอเลย..เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่เขาจะรับไม่ได้และเขาน่ะก็เป็นคนปากแข็งและใจอ่อน..และอย่ามองว่าตอนนี้เขาจะปิดกั้นเพราะเขาแค่อึดอัดใจเท่านั้น”
“คุณรู้จักพี่ชายของฉันมานานหรือยังคะ?” เย่เหวินถาม
“ก็เกือบจะแปดปีแล้ว..เราอยู่และตายด้วยกัน..หัวเราะและเล่นด้วยกัน..เราเป็นพี่น้องที่สามารถตายแทนกันได้..หลายปีที่ผ่านมาฉันติดตามพี่ชายของเธอและต่อสู้กันมาและเสียเลือดเสียเนื้อเสียน้ำตาด้วยกันมาโดยตลอด” ชิงเฟิงพูด
“แล้วคุณรู้เรื่องพี่ชายของฉันมากแค่ไหน..ช่วยเล่าอะไรให้ฉันฟังหน่อยจะได้ไหม?” เย่เหวินถามอย่างอ่อนแรง
ชิงเฟิงก็ชำเลืองมองเธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ขอสูบได้ไหม..มันต้องสูบไปด้วยเล่าไปด้วยน่ะ”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน