ตอนที่ 561 ความขัดแย้งที่ไซต์ก่อสร้าง
เย่เชียนก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เพราะชิงเฟิงมักลังเลที่จะใช้สมองไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ก่อน ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “นายไม่ได้ยินเหรอว่าพ่อของเขาคือใคร..พ่อของเขาคือเหรินชุนไป่ผู้อำนวยการกรมตำรวจส่วนกลางของมณฑลเหอหนานเลยนะ..เพราะงั้นถ้ายิ่งเด็กคนนี้สร้างความเดือดร้อนให้เรามากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งไม่มีข้ออ้างมากเท่านั้น..ซึ่งการลงทุนของเราคือ อุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลกลางให้ความสำคัญดังนั้นเมื่อเกิดความผิดพลาดอะไรใดๆ ถึงแม้ว่าเหรินชุนไป่ต้องการปกป้องลูกชายของเขาก็ตามถึงยังไงเขาก็ไม่สามารถทำได้”
หลังจากฟังคำพูดของเย่เชียนแล้วหลี่จื้อเทียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เลือกหุ้นส่วนผิดคนเลยจริงๆ เพราะเย่เชียนไม่เพียงแค่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาต่างๆ เท่านั้นแต่ยังฉลาดและมีไหวพริบอีกด้วย แน่นอนว่าในวงการธุรกิจแล้วหากใครไม่ร้ายกาจก็จะเป็นได้แค่เหยื่อของคนอื่นๆ และจะถูกกลืนกินจนไม่มีกระดูกเหลืออยู่เลยด้วยซ้ำ
ชิงเฟิงก็เบะปากแล้วพูดว่า “ก็ได้..ตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ค่อยดี”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และมองไปที่หลี่จื้อเทียนและคูลอฟส์อังเดรแล้วพูดว่า “ไปนั่งในออฟฟิศและดื่มชากันเถอะ”
หลี่จื้อเทียนตอบกลับและบอกให้คูลอฟส์อังเดรไปพร้อมกับเขาและหลังจากคูลอฟส์อังเดรกล่าวขอบคุณเขาอย่างสุภาพแล้วเขาก็เดินไปที่ออฟฟิศสำนักงานพร้อมหลี่จื้อเทียน ถึงจะบอกว่าเป็นสำนักงานก็ตามแต่จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงออฟฟิศชั่วคราวที่ดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากโครงการดินแดนแอนิเมชั่นเพิ่งจะเริ่มก่อสร้างจึงจะไม่มีสำนักงาน อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าออฟฟิศสำนักงานที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ชั่วคราวจะดูเรียบง่ายแต่ก็ยังคงมีทุกอย่างรวมทั้งเครื่องปรับอากาศและที่ชงกาแฟและโซฟาและอื่นๆอีกมากมาย
“ต้องขอโทษมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรด้วยนะครับ..เหอปิงไปชงชามาให้หน่อย” หลี่จื้อเทียนพูด
“ไม่เป็นไรครับมิสเตอร์หลี่” คูลอฟส์อังเดรพูด “ฉันได้ยินมาจากมิสเตอร์เย่ว่ามิสเตอร์หลี่เคยลงทุนในต่างประเทศหลายครั้ง..ไม่ทราบว่ามีการลงทุนอะไรบ้าง? ”
“โดยทั่วไปแล้วจะเกี่ยวกับการลงทุนทางการเงินและแร่ธาตุ ฯลฯ หรืออัญมณีต่างๆ” หลี่จื้อเทียนพูด “ตั้งแต่ผมร่วมมือกับคุณเย่เราก็นำเงินทุนทั้งหมดโอนไปยังสาขาต่างประเทศจึงทำให้การลงทุนภาคอุตสาหกรรมในตอนนี้ทำให้เศรษฐกิจของจีนก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดและขอบเขตการลงทุนก็ขยายวงกว้างมากขึ้น”
“ใช่การพัฒนาของประเทศจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้นก้าวกระโดดอย่างมาก..ไม่ว่าจะเป็นสถานะระหว่างประเทศหรือการพัฒนาทางเศรษฐกิจก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก..อันที่จริงผมเองยังเฝ้ามองผลกำไรมหาศาลที่ซ่อนอยู่ในประเทศจีนเลยด้วยซ้ำแต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นผมไม่มีพันธมิตรที่ดี..เพราะงั้นผมจึงไม่กล้าที่จะลงทุนที่นี่” คูลอฟส์อังเดรพูด “เนื่องจากมิสเตอร์หลี่เป็นหุ้นส่วนของมิสเตอร์เย่นั่นก็หมายความว่าคุณก็เป็นสหายของผมเช่นกัน..เพราะงั้นถ้ามิสเตอร์หลี่มีคำถามเกี่ยวกับการลงทุนในต่างประเทศคุณก็สามารถถามผมได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”
เย่เชียนก็นั่งฟังอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ และจิบชาอย่างช้าๆ หลังจากได้ยินคำพูดของคูลอฟส์อังเดรแล้วเย่เชียนก็แอบมองไปที่หลี่จื้อเทียนอย่างลับๆ ซึ่งคำพูดของคูลอฟส์อังเดรนั้นชัดเจนมากเพราะเขาบอกว่าเขาต้องการช่วยหลี่จื้อเทียนและมันฟังดูใจกว้างมากแต่ถ้าตระหนักและไตร่ตรองดูดีๆ แล้วก็จะได้ยินความหมายของคำพูดของคูลอฟส์อังเดรว่าเขาต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศจีนและหวังว่าหลี่จื้อเทียนจะช่วยเขาได้
แน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่อนุญาตอย่างแน่นอนเพราะประเทศจีนคือดินแดนของเขี้ยวหมาป่าและสิ่งที่เย่เชียนต้องการคือการสร้างป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่นี่ ดังนั้นถ้าหากมาเฟียรัสเซียเข้ามาที่แผ่นดินจีนล่ะก็เย่เชียนและเขี้ยวหมาป่าจะเคลื่อนไหวอิสระอย่างไร? นอกจากนี้ประเทศจีนยังเข้มงวดกับกองกำลังมาเฟียและองค์กรใต้ดินอย่างมาก ซึ่งถ้าหากคูลอฟส์อังเดรและเหล่ามาเฟียเข้ามาล่ะก็มันจะดึงดูดความสนใจของรัฐบาลจีนอย่างแน่นอนและยังส่งผลเสียต่อเขาด้วย
หลี่จื้อเทียนนั้นถือได้ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในแวดวงธุรกิจมานานหลายปีดังนั้นแน่นอนว่าเขาสามารถรับรู้ความหมายในคำพูดของคูลอฟส์อังเดรได้ แต่เมื่อเห็นดวงตาของเย่เชียนแล้วหลี่จื้อเทียนจึงรู้ว่าเย่เชียนตั้งใจที่จะปฏิเสธ เมื่อเขาเห็นเช่นนั้นหลี่จื้อเทียนจึงยิ้มเบาๆ และตอบสั้นๆ ว่า “ต้องขอบคุณมิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรล่วงหน้าจริงๆ ..ช่วงนี้ผมยุ่งอยู่กับการถอนเงินเมื่อเร็วๆ นี้และผมก็วางแผนที่จะขยายธุรกิจในประเทศจีน..ในอนาคตการลงทุนในต่างประเทศก็จะยิ่งพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะงั้นมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร..ว่าแต่มิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรมาที่ประเทศจีนครั้งนี้ก็เพื่อมาทำธุรกิจหรือเรื่องส่วนตัวกันครับ..ถ้ามาเที่ยวเพื่อความสนุกผมสามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวดีๆ ให้คุณได้”
คูลอฟส์อังเดรก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คราวนี้ผมมาทำธุระบางอย่างและเป็นเรื่องส่วนตัวภายใต้ของธุรกิจอย่างเป็นทางการฮ่าๆ ..ผมอาจจะกลับในอีกสองวันเพราะช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลามากนัก..แต่เรายังมีเวลาอีกมากในอนาคตหลังจากที่ทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้วผมจะมาเยี่ยมมิสเตอร์หลี่อีกแน่นอน” จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เชียนที่อยู่ด้านข้างและพูดว่า “ถ้าถึงเวลานั้นมิสเตอร์เย่ต้องเป็นไกด์นำเที่ยวให้ผมนะ”
เย่เชียนก็ยักไหล่และพูดว่า “คงจะต้องเป็นชิงเฟิงเพราะเขารู้ว่าประเทศจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีขนมอร่อยๆ ที่ไหนบ้าง..เพราะงั้นถ้าคุณให้เขาทำหน้าที่เป็นไกด์นำเที่ยวคุณจะสนุกแต่ถ้าคุณให้ผมเป็นไกด์นำเที่ยวล่ะก็พวกคุณอาจจะหัวเราะทั้งน้ำตาก็ได้”
“ฮ่าๆ คุณเย่ช่างอารมณ์ขันจริงๆ ” คูลอฟส์อังเดรพูดต่อ “ถ้ามิสเตอร์เย่พูดแบบนั้นผมคงต้องรบกวนมิสเตอร์ชิงเฟิงจริงๆ ” เขาพูดพร้อมกับมองไปที่ชิงเฟิง
ชิงเฟิงก็ยิ้มอย่างมีความสุขและพูดว่า “มันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรถ้ามิสเตอร์คูลอฟส์อังเดรชอบจริงๆ ล่ะก็ผมรับปากเลยว่าผมจะทำให้คุณลืมรากเหง้าไปเลย”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน