ตอนที่ 594 สิ้นสุดพิธีงานศพ
ไม่ว่าจะตอนเด็กๆ หรือตอนนี้นั้นเย่เชียนก็อยู่ในตำแหน่งที่โดดเด่นในครอบครัวนี้มาโดยตลอดและนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมชายชราถึงบอกว่าเย่เชียนเป็นเหมือนเขามากที่สุดเพราะเย่เชียนค่อนข้างแข็งแกร่งและเขาก็เป็นคนตัดสินใจเรื่องต่างๆ ทั้งหมดภายในบ้าน
น้ำเสียงของเย่เชียนนั้นทำให้จ้าวกังไม่อยากที่จะตั้งคำถามในตอนนี้เลยดังนั้นจ้าวกังจึงต้องปิดปากของเขาอย่างเชื่อฟังเพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่มีทางเปลี่ยนการตัดสินใจของเย่เชียนได้และยิ่งไปกว่านั้นเขายังต้องการจัดการพิธีศพของพ่อให้เสร็จอีกด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ เขาคิดว่าเย่เชียนน่าจะรู้และไม่ทำอะไรกับเจียงหมิงมากจนเกินไป
เย่เชียนนั้นไม่รู้จักเจียงหมิงแต่จ้าวกังนั้นญาติของเขาและเขาก็ไม่สนว่าจ้าวกังจะถูกหรือผิดแต่ตราบใดที่ใครมาคุกคามจ้าวกังเย่เชียนก็จะไม่ยอมเพราะเย่เชียนสัญญากับชายชราเอาไว้แล้วว่าเขาจะดูแลจ้าวกัง,หลี่ฮ่าว,และฮันเซว่อย่างดี ดังนั้นเย่เชียนจึงต้องทำและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่มีอำนาจในฐานะจอมพลก็ตามแต่ถึงยังไงเย่เชียนก็จะทำอยู่ดีและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะฆ่าเจียงหมิงไปก็ตามแต่ถึงยังไงรัฐบาลจีนก็จะไม่ทำอะไรเขาเลยเพราะท้ายที่สุดแล้วรัฐบาลจีนก็ยังมีเรื่องมากมายที่ต้องให้เย่เชียนช่วยจัดการ
จากงานศพครั้งนี้เย่เชียนก็ได้แสดงความแข็งแกร่งของเขาต่อรัฐบาลจีนทางอ้อมเพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ประเมินตัวเขาต่ำจนเกินไป ซึ่งถึงแม้ว่าประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเย่เชียนจะไม่ใช่ประเทศใหญ่ๆ ชั้นนำของโลกแต่ก็ไม่ควรมองข้ามอำนาจแบบของพวกเขาเพราะท้ายที่สุดแล้วจุดยืนของประเทศจีนในโลกนี้นั้นก็ไม่ค่อยมั่นคงมากนัก เพราะหลายๆ ประเทศในทวีปตะวันตกและยุโรปต่างก็ต้องการจัดการกับประเทศจีนดังนั้นหากประเทศจีนไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศอื่นๆ ล่ะก็สถานะของประเทศจีนในโลกคงจะตกต่ำและเริ่มมีความเสี่ยงในไม่ช้า
เมื่อมองดูโกศอัฐิของชายชราที่ฝังอยู่ในสุสานแล้วเย่เชียนก็ใช่พลั่วขุดดินก้อนแรกแล้วเทลงไป ซึ่งเย่เชียนที่แข็งแกร่งแต่เมื่อเผชิญหน้ากับความตายของผู้ที่เป็นเหมือนพ่อแล้วนั้นเขากลับเปราะบางและโศกเศร้าอย่างมาก แต่เขาก็รู้ว่าเขาต้องเข้มแข็ง เพราะเขาคือเสาหลักของครอบครัวและไม่ใช่แค่เสาหลักขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงซ่งหลันและผู้หญิงคนอื่นๆ อีกด้วยและนอกจากนี้ก็ยังมีเย่หลินและลูกชายที่ยังไม่ได้ตั้งชื่ออีกด้วย ดังนั้นถ้าหากเย่เชียนล้มลงไปสักคนแล้วพวกเขาเหล่านั้นจะทำอย่างไร?
งานศพของชายชรานั้นดูยิ่งใหญ่อย่างมากและมันก็ครึกครื้นด้วยเพราะเหล่าผู้มีอิทธิพลและทรงอำนาจต่างก็เดินไว้ทุกข์ให้ชายชราซึ่งมันเป็นภาพที่หาดูได้ยากอย่างยิ่ง ชายชราผู้นี้มีทั้งลูกชาย,ลูกสาว,หลานสาวและหลานชายที่เขาต้องดูแลแต่หลังจากเขาทำมาหลายปีชายชราก็เหนื่อยอย่างมากแต่ไม่เพียงแค่ทางร่างกายเท่านั้นแต่เป็นทางจิตใจด้วย ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะเย่เชียนและลูกๆ หลานๆ คนอื่นๆ ล่ะก็ชายชราคงจะย่อท้อและยอมแพ้ไปแล้วและเขาคงจะไปหาภรรยาของเขาบนสวรรค์ตั้งนานแล้ว
เหลียนเหลียนคุณกับผมตกลงกันเอาไว้เป็นเวลาหนึ่งร้อยปีและถ้าใครตายตอนอายุเก้าสิบเจ็ดก็ต้องไปรอบนสวรรค์อีกสามปี… นี่เป็นข้อตกลงระหว่างชายชรากับผู้หญิงคนนั้น แต่ชายชรานั้นทำให้เธอต้องรอนานหลายสิบปีอยู่บนสะพานแห่งสวรรค์
แขกที่มาเข้าร่วมงานศพต่างก็เข้ามาทักทายและแสดงความเสียใจกับเย่เชียนทีละคน จากนั้นก็จากไปทีละคนจนเย่เชียนเดินไปข้างหน้าของสาวๆ และเหลือบมองพวกเธอแล้วพูดว่า “พวกคุณกลับกันไปก่อน..เดี๋ยวผมขอจัดการบางอย่างที่นี่แล้วจะกลับไป..ฉินหยูผมตัดสินใจเรื่องชื่อเด็กได้แล้ว..ให้เรียกเขาว่าเย่ฮ่าวหราน”
“เย่ฮ่าวหราน! ..เย่ฮ่าวหราน” ฉินหยูพึมพำเบาๆ แล้วพูดว่า “ชื่อเย่ฮ่าวหรานดีมาก”
เย่หลินตัวเล็กๆ ที่เงียบและยืนอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ราวกับว่าเธอรู้สึกสับสนและไม่รู้อะไรเลย เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็มองเธอด้วยความเอ็นดูและลูบหัวของเธอเบาๆ แล้วพูดว่า “หลินหลิน..คุณปู่จากไปสบายแล้วนะอย่าเศร้าไปเลย..เพราะคุณปู่อยากให้หลินหลินมีความสุขน่ะ”
หลังจากกะพริบตาสองสามครั้งเย่หลินก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นเธอก็มองขึ้นไปยังใบหน้าของเย่เชียนแล้วพูดว่า “คุณปู่จากไปแล้วใครจะเลี้ยงหลินหลินล่ะ..หลินหลินไม่อยากเป็นเด็กที่น่าสงสารแบบนั้น”
เย่เชียนก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “ทำไมล่ะ..ถึงแม้ว่าคุณปู่จะจากไปแล้วก็ตามแต่ก็ยังมีพ่ออยู่ไม่ใช่หรอ..และยังมีพี่สาวหลันและพี่สาวโรวโร่วอีก..พวกพี่ๆ เขาจะดูแลนู๋อย่างดี”
หลินโรวโร่วเองก็ดูเหมือนจะรู้ความคิดของเย่เหลินเธอจึงลูบหัวเย่หลินแล้วพูดว่า “เด็กน้อย..ถึงแม้ว่าพ่อของนู๋จะมีน้องอีกคนก็ตามแต่ถึงยังไงนู๋ก็ยังเป็นลูกของพ่ออยู่ดีและพ่อของนู๋ก็รักนู๋เหมือนเดิม..พวกพี่สาวก็จะรักนู๋และพี่สาวหยูเองก็เหมือนกันพี่เขาจะรักนู๋เหมือนกับลูกสาวของเธอเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินโรวโร่วแล้วเย่เชียนก็ตระหนักได้ว่าเย่หลินนั้นกลัวว่าเย่ฮ่าวหรานจะมาขโมยความรักที่คนอื่นๆ มีให้ต่อเธอไป ดังนั้นเย่เชียนจึงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า “นู๋ดูพ่อกับคุณอาและคุณลุงสิ..คุณปู่น่ะเลี้ยงลูกทุกคนมาอย่างไม่ลำเอียง..ลูกน่ะโตกว่าเพราะงั้นลูกต้องดูแลน้องชายและห้ามรังแกน้องนะ..แต่ถ้าน้องเขาไม่เชื่อฟังนู๋ล่ะก็พ่อจะให้นู๋ตีก้นเขา”
“ไม่! ..หลินหลินจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายน้องชายของนู๋! ” เย่หลินพูดอย่างหนักแน่น
เย่เชียนก็ถึงกับผงะและหลังจากนั้นเขาก็หัวเราะและสิ่งต่างๆ ที่เขากังวลในหัวใจก็จางหายไปในทันที ต้องบอกเลยว่าเด็กๆ มักจะมีพลังบางอย่างที่ทำให้ผู้คนลืมปัญหามากมายไปได้ เย่เชียนนั้นไม่รู้ว่าเย่ฮ่าวหรานนั้นจะเป็นยังไงในอนาคตแต่ตอนนี้เย่เชียนคิดว่าตัวตนของเย่หลินนั้นคล้ายกับเขามากเพราะเธอทั้งดื้อรั้นและแข็งแกร่งและแน่วแน่แต่เย่เชียนก็ยังต้องปกป้องข้อบกพร่องของเธออีกด้วย
หูวเค่อเหลือบมองเย่เชียนแล้วพูดว่า “อย่าคิดอะไรตื้นๆ สิ..พวกเขาเป็นถึงกองร้อยพิเศษของกองทัพเลยนะ..การทำอะไรเขานั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเพราะเดี๋ยวมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตเอา”
“กลัวอะไรไปเค่อเอ๋อเธอน่ะใจดีเกินไป..ก็อย่างที่เย่เชียนพูดออกไปนั่นแหละว่าคนแบบนี้สมควรได้รับบทเรียน..เขาจะได้ไม่ไปหยิ่งผยองกับใครอีก” จ้าวหยาพูด



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน