เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดนักรบจอมราชัน นิยาย บท 620

ตอนที่ 620 อดีตของหลินเฟิง

ทุกคนเกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณและพรสวรรค์ที่สามารถพิชิตโลกได้แต่เฉพาะผู้ที่มีประสบการณ์ผ่านความยากลำบากอย่างแท้จริงและปีนขึ้นไปทีละขั้นเท่านั้นที่สามารถกลายเป็นวีรบุรุษได้อย่างแท้จริง ความยากลำบากและความทุกข์ทนเหล่านั้นสามารถช่วยให้เรากลายเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้และหลินเฟิงเองก็เช่นกัน

เมื่อ 10 ปีที่แล้วหลินเฟิงนั้นเป็นเพียงนักเรียนที่พึ่งพาตนเองที่ข้ามน้ำข้ามประเทศมาเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นแห่งนี้และเขานั้นก็เป็นนักเรียนที่ยากจนที่ไม่มีภูมิหลังทางครอบครัว ซึ่งในเวลานั้นหลินเฟิงและเซี่ยจือยี่ก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันและบุคลิกของหลินเฟิงค่อนข้างเป็นคนเงียบๆไม่ยิ้มแย้มและเขาก็เป็นคนที่ไม่สามารถรอดพ้นจากการถูกกลั่นแกล้งจากชาวญี่ปุ่นได้ ในขณะที่เซี่ยจือยี่เป็นคนที่มีชีวิตชีวาและร่าเริงจนเธอได้รับมอบหมายหลากหลายในโรงเรียนและเป็นผู้ก่อตั้งชมรมคนจีนในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ชมรมคนจีนนั้นเป็นเพียงสังคมในมหาวิทยาลัยธรรมดาๆและเป็นสังคมที่ก่อตั้งโดยเซี่ยจือยี่ สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติที่มาเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นแล้วจุดประสงค์ของพวกเขาเหล่านี้ก็คือเพื่อการรวมตัวของนักเรียนชาวจีนในต่างแดนให้ไม่ถูกรังแกจากคนท้องถิ่นนั่นเอง อันที่จริงสำหรับนักเรียนที่มาศึกษาในประเทศญี่ปุ่นต่างก็ทราบดีว่าสถานะของชาวจีนในประเทศญี่ปุ่นนั้นเลวร้ายอย่างมากและชาวญี่ปุ่นก็มักจะมีการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติที่ชัดเจนต่อชาวจีน ซึ่งการที่เซี่ยจือยี่มีแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงคอยสนับสนุนอยู่นั้นเธอจึงไม่กลัวชาวญี่ปุ่นเหล่านั้น ดังนั้นเธอจึงคิดว่าการจัดตั้งสังคมดังกล่าวสามารถช่วยและปกป้องนักเรียนชาวจีนได้

แต่ในเวลานั้นชีวิตของหลินเฟิงน่าหดหู่อย่างมากเพราะเพื่อจะจ่ายค่าเล่าเรียนเขาก็มักจะทานอาหารน้อยและหิวอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นการทำงานในประเทศญี่ปุ่นที่เลือกปฏิบัติและมักจะโดดดูถูกนั้นหลินเฟิงจึงได้รับเงินเพียงแค่เล็กน้อยและในเวลานั้นหลินเฟิงยังไม่มีจิตสังหารที่รุนแรงเหมือนกับตอนนี้และเนื่องจากเขาต้องทำงานตลอดทั้งปีมือของเขาจึงไม่ขาวและอ่อนโยนไม่เหมือนกับลูกหลานผู้มีอิทธิพลหรือนักเรียนชาวญี่ปุ่นคนอื่นๆ

ในเวลานั้นเซี่ยจือยี่คือคนที่ช่วยหลินเฟิงหางานทำในร้านอาหารจีนในเครือของแก๊งเจ้าพ่อฝูชิงซึ่งเป็นงานผู้ช่วยเชฟ ซึ่งเซี่ยจือยี่เองก็ไม่ได้คาดหวังว่าหลินเฟิงจะมีทักษะในการทำอาหารที่ดีเช่นนี้และคนที่ได้ลิ้มลองอาหารของหลินเฟิงนั้นต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าอาหารเหล่านี้เป็นอาหารเสฉวนต้นตำรับซึ่งมีรสชาติที่อร่อยแบบดั้งเดิมอย่างมาก ดังนั้นจึงเป็นเพราะความช่วยเหลือของเซี่ยจือยี่ที่ทำให้หลินเฟิงสามารถศึกษาต่อในประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องอดอย่างหิวโหยและยังมีเงินออมบางส่วนอีกด้วย ดังนั้นสำหรับหลินเฟิงแล้วเขาจึงเป็นหนี้เซี่ยจือยี่อย่างมากนั่นเอง

อย่างไรก็ตามหลินเฟิงในสมัยก่อนนั้นค่อนข้างอ่อนแอและเขาก็รู้สึกว่าเมื่อเทียบกับเซี่ยจือยี่แล้วเธอเป็นเสมือนสโนวไวท์ในนวนิยายแต่เขาเป็นแค่หนอนผีเสื้อที่น่าสงสารและเขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะยอมรับความรักของเซี่ยจือยี่เลย อย่างไรก็ตามเซี่ยจือยี่ก็มีนิสัยของเด็กๆที่กล้าจะรักเพราะเธอยังคงไล่ตามหลินเฟิงอย่างไม่สนใจสิ่งใด

ครั้งหนึ่งเซี่ยจือยี่ถูกล้อมรอบด้วยสมาชิกแก๊งยามากุจิและเกือบตายอยู่ข้างถนนแต่ทว่าเพราะความช่วยเหลือของหลินเฟิงที่ยังไม่มีทักษะอะไรในขณะนั้นเขามีเพียงมีดทำครัวสองเล่มแต่เขาก็รีบไปหาศัตรูอย่างหมดหนทางและสิ้นหวังอย่างมากและเปิดฉากต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง บางทีอาจเป็นเพราะหลินเฟิงเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์นักฆ่าเพราะเมื่อเขาพุ่งเข้าไปหาคู่ต่อสู้ด้วยมีดทำครัวนั้นดวงตาสีแดงของเขาก็ทำให้อีกฝ่ายหวาดกลัวจริงๆ หลังจากได้รับบาดเจ็บมากมายในที่สุดหลินเฟิงก็ฆ่าคนเหล่านั้นและไม่มีใครคิดว่าแม้แต่เซี่ยจือยี่ก็ยังตกตะลึงไปกับการปรากฏตัวของหลินเฟิงในเวลานั้น ซึ่งคนที่ไม่เคยต่อสู้มาก่อนถึงแม้จะด้อยกว่าแต่กลับมีความกล้าหาญอย่างมากในขณะนั้นและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเลือด ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ยังคงพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ด้วยมีดอย่างมั่นใจและในขณะนั้นเซี่ยจือยี่ก็รู้สึกว่าหลินเฟิงมีเสน่ห์ที่อธิบายไม่ได้ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดเธออย่างมาก

หลังจากเหตุการณ์นั้นเซี่ยจือยี่ก็พาหลินเฟิงไปโรงพยาบาลและดูแลเขาเป็นอย่างดี ในช่วงเวลานั้นหลินเฟิงเริ่มยอมรับเซี่ยจือยี่อย่างช้าๆและเขาก็ตระหนักได้ว่าอะไรดึงดูดเขาจากผู้หญิงคนนี้เพราะปรากฏว่าหญิงสาวคนนี้ไม่เพียงแต่มีรูปลักษณ์ที่สวยงามเท่านั้นแต่เธอยังไม่ใช้อิทธิพลของครอบครัวเธอมาข่มเหงคนอื่นอีกด้วย ดังนั้นความพากเพียรและความดื้อรั้นของหญิงสาวคนนี้จึงดึงดูดเขาอย่างสุดซึ้งทำให้เขาไม่สามารถยับยั้งตัวเองออกไปจากขุมนรกแห่งความรักนี้ได้

อย่างไรก็ตามหลินเฟิงก็ยังคงตระหนักดีถึงช่องว่างระหว่างเขากับเซี่ยจือยี่เพราะเซี่ยจือยี่นั้นโดดเด่นมากและไม่ว่าจะเป็นภูมิหลังของครอบครัวหรือเสน่ห์ส่วนตัวแล้วตัวเองล่ะมีอะไรบ้าง?หลินเฟิงเป็นเพียงนักเรียนยากจนที่ไม่มีอะไรและไม่ว่าจะมองในแง่ไหนเขาก็ไม่มีข้อดีเลยและบางครั้งเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเซี่ยจือยี่ถึงได้ตกหลุมรักเขา อย่างไรก็ตามเนื่องจากหลินเฟิงยอมรับความรักของเซี่ยจือยี่เขาจึงดูแลความสัมพันธ์นี้อย่างระมัดระวัง ดังนั้นเขาจึงต่อสู้อย่างหนักหน่วงโดยหวังว่าเขาจะสามารถให้การสนับสนุนเซี่ยจือยี่ได้ในสักวันหนึ่งและถึงแม้ว่าเซี่ยจือยี่อาจจะไม่ต้องการมันแต่หลินเฟิงก็ยังคงยืนยัน

ถึงแม้ว่าช่องว่างระหว่างคนสองคนจะมีขนาดใหญ่มากแต่ทั้งสองฝ่ายก็ระมัดระวังในการรักษาความสัมพันธ์นี้เอาไว้ เซี่ยจือยี่นั้นเป็นคนมีเหตุผลและเข้าใจได้มากและไม่เคยขอให้หลินเฟิงทำสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นเลย ดังนั้นความสัมพันธ์ของพวกเขาจึงพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น

หลังจากคบกันได้หนึ่งปีเซี่ยจือยี่ก็พาหลินเฟิงไปพบเซี่ยตงไป่พ่อของเธอ ซึ่งอย่างแรกเธอต้องการบอกเซี่ยตงไป่ว่าเธอมีแฟนแล้วและจะไปแนะนำหลินเฟิงให้รู้จักกับพ่อของเธอ อย่างที่สองเซี่ยจือยี่ก็หวังว่าเซี่ยตงไป่จะให้โอกาสหลินเฟิงและปลูกฝังเขาอย่างเคร่งครัด เพราะเธอเห็นว่าหลินเฟิงนั้นเป็นชายหนุ่มที่เก่งแต่ไม่มีโอกาส ดังนั้นเมื่อหลินเฟิงได้รับโอกาสเขาก็จะบินทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าได้อย่างง่ายดาย

ร้านอาหารจีนนั้นเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้แก๊งเจ้าพ่อฝูชิงดังนั้นเมื่อเซี่ยตงไป่พาหลินเฟิงเข้าไปในห้องส่วนตัวเซี่ยตงไป่ก็นั่งอยู่ที่นั่นพร้อมกับโย่วซวน ซึ่งหลินเฟิงนั้นแต่งตัวน่าสมเพชมากและถึงแม้ว่าเขาจะให้ความสำคัญมากกับการพบปะครั้งนี้แต่เขาก็ไม่ได้แต่งตัวอย่างระมัดระวังเพราะเดิมทีเซี่ยจือยี่ต้องการพาหลินเฟิงไปซื้อเสื้อผ้าแต่หลินเฟิงกลับปฏิเสธเพราะเขาไม่ต้องการใช้เงินของเซี่ยจือยี่และเขาก็รู้สึกว่าการได้พบพ่อของเซี่ยจือยี่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญกว่า ดังนั้นมันจึงไม่จำเป็นต้องโดดเด่นในเรื่องเสื้อผ้า

เซี่ยตงไป่นั้นเคยได้ยินเซี่ยจือยี่พูดทางโทรศัพท์แล้ว ดังนั้นเขาจึงเข้าใจสถานการณ์ของหลินเฟิงคร่าวๆและเมื่อเห็นหลินเฟิงเข้ามาเซี่ยตงไป่ก็เหลือบมองเขาขึ้นและลงจากหัวจรดเท้าและขมวดคิ้วแน่นเพราะเขาไม่เห็นว่ามีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนนี้เลย

“พ่อคะ..นี่คือแฟนของหนู..หลินเฟิง” เซี่ยจือยี่ไม่ได้สังเกตสีหน้าของพ่อเธอดังนั้นเธอจึงจับมือของหลินเฟิงอย่างมีความสุขและแนะนำเขา จากนั้นเขาก็พูดกับหลินเฟิงว่า “หลินเฟิงเขาคือพ่อของฉัน..ส่วนนี่คือลุงโย่วเขาเป็นผู้ช่วยของพ่อ”

“ลุงเซี่ยลุงโย่วสวัสดีครับ” หลินเฟิงพยักหน้าเบาๆและกล่าวทักทายอย่างสุภาพ

เซี่ยตงไป่ก็ถอนหายใจเบาๆแล้วพูดว่า “อืม” เมื่อเห็นสิ่งนี้โย่วซวนก็รีบพูดว่า “นั่งลงเถอะ..นั่งลงก่อน” หลังจากเห็นเซี่ยจือยี่ดึงหลินเฟิงให้นั่งลงแล้วโย่วซวนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณหลิน…”

ตอนที่ 620 อดีตของหลินเฟิง 1

ตอนที่ 620 อดีตของหลินเฟิง 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน