ตอนที่ 797 งานเลี้ยงไม่ต้อนรับ
ระหว่างทางเย่เชียนกดเบอร์โทรศัพท์ของเฉิงเหวินและบอกให้เขาติดต่อผู้บริหารทุกคนที่รับผิดชอบธุรกิจต่างๆเพื่อไปที่สโมสร เพื่อเข้าร่วมประชุมด่วน เมื่อเขาได้ยินเสียงของเย่เชียนเฉิงเหวินก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและหลังจากตอบตกลงเขาก็วางสายไป
เมื่อได้ยินเสียงของเฉิงเหวินแล้วเย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยดูเหมือนเขาจะรู้สึกอะไรบางอย่างแต่ไม่สามารถอธิบายได้ หรือพวกเขาจะเริ่มก่อกบฏแล้อ? นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะเย่เชียนใช้การจัดการแบบปล่อยให้บริหารกันตามสะดวกตามรูปแบบของตนเอง สถานะปัจจุบันของพวกเขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นผู้นำ ดังนั้นเมื่อเขาอยู่ในสถานะนี้เขาก็จำเป็นต้องการเป็นกังวลเกี่ยวกับความภักดีเลย
เมื่อเห็นเย่เชียนขมวดคิ้วเย่หานหลินก็งุนงงและถามว่า “บอสมีอะไรเกิดขึ้นหรอ?”
มุมปากของเย่เชียนก็ฉีกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏที่มุมปากของเขาแล้วเย่เชียนก็พูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก..แค่มีใครบางคนต้องการก่อกบฏ..ดูเหมือนฉันจหละหลวมเกินไปสำหรับพวกเขา..เพราะงั้นฉันควรจะเตือนสติพวกเขาสักหน่อย” ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะใช้การบริหารจัดการแบบฝูงแกะมาโดยตลอดแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาก่อกบฏต่อเขาหรือไม่ฟังแม้แต่คำพูดของเขาเอง เช่นคำกล่าวที่ว่าสู้เพื่อยึดครองนั้นง่ายกว่าการปกครองเสมอ ในตอนแรกหลี่เหว่ยนั้นคอยจัดการสิ่งต่างๆที่เมืองหนานจิงแทนเขาแต่ทว่าตอนนี้หลี่เหว่ยต้องไปจัดการเกี่ยวกับกองทัพเรือไอร่อนบลัดดังนั้นมันจึงมีโอกาสที่คนเหล่านี้จะทรยศ
“หืม..เลี้ยงไม่เชื่อง!” เย่เชียนถอนหายใจพร้อมกับส่ายหัวเล็กน้อยและพูด
เย่หานหลินก็ไม่พูดอะไรอีกต่อไปเพราะเมื่อมองไปที่การแสดงออกที่ดูมั่นใจบนใบหน้าของเย่เชียนแล้วก็ทำให้เขามั่นใจเช่นกันเพราะเขาเชื่อว่าไม่ว่าเขาจะเจอปัญหาแบบไหนมันก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับเย่เชียนที่เกินกว่าจะแก้ไขได้
ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมารถก็มาจอดที่ประตูสโมสรโอเรียนเต็ล จากนั้นเย่เชียนก็เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าคลับเฮาส์กำลังเปิดทำการอยู่และที่ด้านหน้าก็เต็มไปด้วยรถหรูหราหลานคัน ซึ่งดูเหมือนว่าเหล่าผู้บริหารจะมาถึงแล้วและแน่นอนว่าเย่เชียนนั้นก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เพราะบรรยากาศดูกดดันเล็กน้อย ซึ่งมันคล้ายกับงานเลี้ยงที่พวกเขารู้ว่าตนกำลังจะมาแต่พวกเขากลับไม่ได้มาต้อนรับอยู่ที่ด้านนอก เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ให้เกียรติตนเลย
ด้วยรอยยิ้มที่เย็นชาเย่เชียนก็ลงจากรถและหลังจากจ่ายค่ารถแท๊กซี่แล้วเย่เชียนก็ส่งกระเป๋าสัมภาระให้กับเย่หานหลินแล้วหันไปพูดว่า “ข้างหน้านี้มันอาจจะอันตรายนายกลัวมั้ย?”
“ฉันไม่กลัวหรอกและมันจะไม่มีใครสามารถแตะเส้นผมของบอสได้แม้แต่เส้นเดียว..เว้นแต่ว่ามันจะข้ามศพของฉันไปก่อน” เย่หานหลินพูดอย่างหนักแน่น
“ผู้คนที่นี่เคยเรียกฉันว่าบอสและหัวหน้ามาก่อนและพวกเขาก็เคยพูดแบบเดียวกันกับนาย” เย่เชียนพูด “ฉันดูใจดีเกินไปหรือเปล่า?”
เย่หานหลินนั้นสามารถเข้าใจได้โดยธรรมชาติว่าเย่เชียนหมายถึงอะไร ซึ่งเป็นคำใบ้ที่บอกว่าสักวันตนอาจจะทรยศเขาในอนาคต อย่างไรก็ตามเย่หานหลินก็ไม่ได้ตอบโดยตรงแต่พูดทางอ้อมว่า “นั่นเป็นเพราะพวกเขาสายตาสั้นเกินไป..ฉันเชื่อว่าการติดตามบอสในอนาคตมันจะเป็นสิ่งที่ดีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เลย”
เย่เชียนก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจและตบไหล่เย่หานหลินเบาๆแล้วพูดว่า “ฉันไม่เคยขอให้ใครเชื่อฟังฉันเพราะงั้นถ้าวันหนึ่งนายเกิดไม่พอใจฉันขึ้นมาฉันหวังว่านายจะสามารถมาพูดกับฉันตรงๆได้..เพราะแบบนี้มันจะไม่ทำให้มิตรภาพระหว่างพี่น้องของเราพังทลาย”
“ถึงเราจะแตกต่างกันแต่เราก็เป็นพี่น้องกันได้ใช่มั้ย?” เย่หานหลินพูดต่อ “ถึงแม้ว่าบอสอาจจะลืมไปแล้วแต่ฉันน่ะจำได้ชัดเจนมากว่าเมื่อตอนที่พวกเรายังเด็กบอสคอยปกป้องและสอนฉันเสมอ..เพราะงั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันก็จะไม่เปลี่ยนใจ”
เย่เชียนจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่เขายังเป็นเด็กแต่การแสดงออกบนใบหน้าของเย่หานหลินนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องโกหก แต่แน่นอนว่าเย่เชียนนั้นไม่ได้สนใจคนเหล่านั้นว่าจะติดตามเขาหรือไม่แต่สิ่งที่เขารับไม่ได้คือการทรยศ อย่างที่เย่เชียนพูดถ้าวันหนึ่งใครคิดว่ามิตรภาพระหว่างเขามีปัญหาและไม่ต้องการติดตามเย่เชียนอีกต่อไปเขาจะปล่อยคนๆนั้นไปโดยไม่มีปัญหาใดๆและจะให้บางอย่างกับเขาคนนั้นเพื่อตอบแทนและอย่างน้อยๆก็จะสามารถรักษาความเป็นพี่น้องและมิตรภาพที่ดีต่อกันได้ อย่างไรก็ตามหากใครเลือกที่จะทรยศอย่างเงียบๆนั่นเป็นสิ่งที่เย่เชียนไม่อนุญาตโดยเด็ดขาดเพราะท้ายที่สุดมีคนมากมายภายใต้การควบคุมของเย่เชียนที่ทำผิดพลาดแต่ก็ต้องรับโทษด้วยการลงโทษและร่วมกันแก้ไข ไม่เช่นนั้นเขาจะเป็นผู้นำได้อย่างไร
หลังจากพยักหน้าเบาๆเย่เชียนก็ไม่พูดอะไรอีกและเมื่อพวกเขาไปถึงประตูแล้วการ์ดเฝ้าประตูสองคนก็หยุดพวกเขาเอาไว้ เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็ยิ้มจางๆและพูดว่า “ผมเย่เชียน..เฉิงเหวินและคนอื่นๆอยู่ที่นี่หรือเปล่า?..พาผมไปหาพวกเขาที”
“นี่คุณกล้าอ้างชื่อคุณเฉิงอย่างงั้นเหรอ?” การ์ดหน้าประตูคนหนึ่งพูดขึ้น
เย่เชียนก็คิ้วเล็กน้อยและมีการแสยะยิ้มที่มุมปากของเขาเพราะถ้าหากนี่ไม่มีการเตรียมการจากคนเบื้องบนเย่เชียนก็เดาได้ว่าการ์ดคนนี้คงไม่กล้าพูดอย่างเช่นนี้ใช่ไหมและตามความเป็นจริงเขาต้องการให้เกียรติตนบ้าง “ผัวะ!” เย่เชียนตบหน้าอย่างไร้ความปราณีจนชายหนุ่มคนนั้นล้มลงไปกับพื้นพร้อมกับฟันที่หลุดออกมาสองสามซี่และปากของเขาก็เต็มไปด้วยเลือด ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้วแต่ถ้าหากเขายังไม่ทำอะไรมันก็คงจะไม่ใช่
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน