ตอนที่ 866 ผู้หญิงที่รู้เยอะ
ถ้าเย่เชียนเป็นนักแสดงเขาคงจะชนะรางวัลออสการ์อย่างแน่นอนเพราะคำพูดของเขามีเหตุผลและสีหน้าของเขาก็ดูไม่วิตกกังวลและแสดงความผิดปกติออกมาเลย ซึ่งเขาก็ตั้งใจแสดงออกมาจากใจจริงและเมื่อไหร่ที่เย่เชียนเห็นอีกฝ่ายผิดปกติไปเขาก็จะทำตัวให้เป็นธรรมชาติ ซึ่งเหตุผลที่เขาพูดแบบนี้ก็เพราะว่าเย่เชียนรู้ดีว่าซือจื้อนั้นอยู่บนเรือลำเดียวกับชางกวนเจ้อและเขาก็ไม่ต้องการทำให้งูตกใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่หวังว่าเขาจะใช้เรื่องนี้เพื่อโค่นบริษัททะเลสี่ทิศได้แต่เขาก็ไม่ยอมให้คนอื่นทำลายแผนการของเขาโดยเด็ดขาด
ซือจื้อไม่ใช่คนธรรมดาเพราะคนที่สามารถดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการเงินของเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาปักกิ่งได้นั้นต้องเป็นคนที่มีความสามารถอย่างมากและเธอจะสามารถมองทะลุแผนการเล็กๆน้อยๆของเย่เชียนได้อย่างง่ายดายเพราะฉะนั้นเย่เชียนจึงต้องระมัดระวังให้มาก เมื่อได้ยินเช่นนั้นซือจื้อก็พูดด้วยรอยยิ้มที่เย้ยหยันว่า “คุณเย่ไม่ต้องแสร้งทำเป็นว่าทุกคนโง่หรอก..ฉันรู้ว่าจุดประสงค์ของคุณในการมาที่บริษัทในครั้งนี้คือจัดการกับรองผู้จัดการชางใช่มั้ย”
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง..ผมไม่มีอะไรขัดแย้งกับรองผู้จัดการชางสักหน่อยแล้วทำไมคุณถึงคิดแบบนั้น?..คุณคิดมากเกินไปแล้ว”
ซือจื้อก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณจำได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่หน้าทางเข้าประตูบาร์ในคืนนั้น..ฉันจำได้ชัดเจนมากและฉันก็คิดว่าตัวตนของคุณต้องไม่ธรรมดาเลย..ด้วยอิทธิพลของคุณแล้วคุณไม่น่าจะเป็นแค่ผู้จัดการเครือน่านฟ้ากรุ๊ปสาขาปักกิ่งตำแหน่งเล็กๆแบบนี้..นอกจากนี้คุณก็จงใจเข้าหาฉันแต่อย่าบอกนะว่าคุณไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับรองผู้จัดการชางน่ะ?..เห็นได้ชัดว่ามันสามารถอธิบายได้เลยว่าคราวนี้คุณมีจุดประสงค์คือการกำจัดรองผู้จัดการชางใช่มั้ยล่ะ?”
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้หญิงที่รู้ทันเสมอแล้วเย่เชียนก็ต้องถอนหายใจเพราะผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินไปและไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอจะสามารถรู้ทุกอย่างได้อย่างง่ายดาย เมื่อได้ยินเช่นนั้นแล้วเย่เชียนก็พูดว่า “แล้วตอนนี้คุณคิดยังไง?”
ซือจื้อก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณปฏิบัติต่อฉันยังไง..อันที่จริงฉันเองก็ไม่ชอบรองผู้จัดการชางมานานแล้วและนอกจากนี้ฉันก็รู้ตำแหน่งและจุดยืนในปัจจุบันของฉันเป็นอย่างดี..ถ้าเครือน่านฟ้ากรุ๊ปพังทลายมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับฉันเพราะงั้นฉันเชื่อว่าชางกวนเจ้อจะไม่ย้ายฉันไปทำงานกับบริษัททะเลสี่ทิศอย่างแน่นอนเพราะภรรยาของเขาเป็นคนที่มนุษยสัมพันธ์แย่มากเพราะงั้นเขาจะกล้าพาฉันไปทำงานที่บริษัททะเลสี่ทิศให้ภรรยาของเขาเห็นได้ยังไง..ยิ่งไปกว่านั้นชางกวนเจ้อก็ไม่เปิดเผยต่อสาธารณะว่าฉันเป็นผู้หญิงของเขาเลย”
“ผมชอบรับมือกับคนฉลาดมากที่สุด” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม “ถามตามตรงคุณต้องการให้ผมตอบแทนคุณยังไง..ตำแหน่งไหนที่ที่คุณอยากอยู่ในบริษัทเรา..พูดมาเถอะ”
“จริงเหรอ..งั้นฉันอยากเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของคุณ” ซือจื้อพูดด้วยรอยยิ้ม
เย่เชียนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็หัวเราะแห้งๆแล้วพูดว่า “แบบนี้ไม่แปลกไปหน่อยเหรอที่คุณพูดแบบนั้น..มันทำให้ผมสงสัยในความจริงใจของคุณ”
ซือจื้อก็ยักไหล่เล็กน้อยแล้วพูดว่า “ที่ฉันพูดมันเป็นความจริงเพราะฉันแค่อยากเจอคุณทุกวัน..ไม่รู้สิสองวันที่คุณจากไปฉันรู้สึกสูญเสียว่างเปล่าเหมือนสูญเสียจิตวิญญาณและมันทำให้ฉันนึกถึงคุณอยู่ในใจคุณตลอดทั้งวัน”
เย่เชียนก็ยิ้มเบาๆและพูดว่า “นั่นคือว่าเป็นคำพูดคุกคามกันนะฮ่าๆ” ในตอนนี้เย่เชียนต้องการข้อมูลจากปากของซือจื้อจริงๆแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่สามารถทำได้เพราะผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินไปและไม่สามารถใช้ความคลุมเครือในการรับมือกับผู้หญิงคนนี้ได้เลย
“คุณเย่ทำไมคุณถึงพูดแบบนี้..ฉันแค่พูดมันออกมาจากใจมันจะเป็นการคุกคามได้ยังไง” ซือจื้อพูด “หลังจากทำงานมาหลายปีเงินที่ฉันเก็บไว้มันก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตของฉันในอนาคตและฉันก็ไม่สนใจเรืองอำนาจและอิทธิพลอะไรเลย..นอกจากนี้ฉันเป็นผู้หญิงที่อ่อนแอและต่อให้จะดูเข้มแข็งแค่ไหนมันก็ไร้ประโยชน์เพราะฉันต้องการผู้ชายสักคนมาเป็นที่พึ่งพิง..คุณเย่คิดว่าไงล่ะ?”
“แต่ผมรักภรรยาของผมมาก..ดูเหมือนว่าผมจะช่วยคุณไม่ได้” เย่เชียนพูดหลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “จริงๆแล้ว ผมติดตามความเคลื่อนไหวของบริษัทอยู่เสมอและตราบใดที่มันสามารถบรรลุผลได้ผมก็ยินดี..ผมไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายบริษัทลับหลังผมหรอก..ชางกวนเจ้อคิดว่าเขาฉลาดและจะใช้ความฉลาดของมาทำร้ายบริษัท..คุณเองก็ฉลาดเพราะงั้นผมคิดว่าคุณเย่ก็น่าจะรู้ว่าผมจะเลือกแบบไหน”
ซือจื้อก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ดูเหมือนว่าผู้จัดการเย่จะไม่เข้าใจผู้หญิงเลยสินะ..เมื่อผู้หญิงโกรธพวกเราจะน่ากลัวยิ่งกว่าผู้ชายอีก..การที่คุณเย่ทำร้ายหัวใจของฉันแบบนี้ฉันจะทนได้ยังไง!” หลังจากพูดจบซื้อจื้อก็ค่อยๆลุกขึ้นยืนและยิ้มอย่างมีเสน่ห์จากนั้นก็เดินออกจากออฟฟิศไปพร้อมกับถ้าเดินสะบัดสะโพกไปมา
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและร่องรอยของเจตนาฆ่าก็แวบวาบภายในดวงตาของเขาและมันก็หายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งผู้หญิงคนนี้ฉลาดเกินไปและถ้าเขาไม่สามารถใช้เธอได้สิ่งต่างๆจะยากลำบากอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามเมื่อดูจากสาวๆประเภทนี้แล้วดูเหมือนว่าพวกเธอกำลังพยายามแข่งขันกับตัวเอง อย่างไรก็ตามเย่เชียนไม่ได้กังวลว่าเธอจะบอกสิ่งต่างๆกับชางกวนเจ้อหรือเปล่าเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและเธอจะไม่มีวันโง่พอที่จะทำแบบนั้น นอกจากนี้ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะต้องการฆ่าซือจื้อก็ตามแต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเพราะสิ่งนี้จะไปกระตุ้นความสงสัยของชางกวนเจ้ออย่างแน่นอนและสิ่งต่างๆจะยิ่งยุ่งยากขึ้นมากเท่านั้น ซึ่งสิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือก้าวไปทีละขั้น
โชคดีที่เย่หานหลินไม่ได้ทำให้เขาต้องผิดหวังเลยและเรื่องนี้ก็ทำได้ดีมากและประสบความสำเร็จในการกำจัดหูจื้อฟานด้วยการใช้ศัตรูของศัตรู ซึ่งแม้แต่เย่เชียนก็ยังรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับเรื่องนี้เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหลอกใช้คนของตระกูลชางกวนและนำตัวหมากสำคัญอย่างหูจื้อฟานออกจากสนาม อย่างไรก็ตามเย่หานหลินสามารถจัดการมันได้ในเวลาเพียงแค่สองวันและนั่นก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นว่าเย่หานหลินมีพรสวรรค์ที่หายาก
หลังจากออกจากบริษัทแล้วเย่เชียนก็กินอาหารเย็นที่ร้านอาหารริมถนนแล้วกลับไปที่โรงแรม หลังจากอาบน้ำเขาก็โทรไปหาหูวเค่อเพราะเมื่อเธอออกจากสำนักหยุนหยานเหมินเธอก็บอกกับเขาว่าเธอจะตามไปในอีกสองสามวันแต่จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่มา ดังนั้นเย่เชียนจึงอดไม่ไดที่จะรู้สึกสงสัย

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน