ตอนที่ 950 ความจริง
เย่เชียนนั้นไม่เคยพบฮาเซงาวะเซตะมาก่อนแต่เคยเห็นเขาทางทีวีที่สวมชุดสูทสุขุมและเคร่งขรึมและดูเหมือนสุภาพบุรุษ แต่เมื่อเห็นเขาตอนนี้ด้วยรอยสักบนหลังของเขาทำให้เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยและดูเหมือนว่าเราจะมองใครแค่ผิวเผินไม่ได้จริงๆ ซึ่งเย่เชียนคิดว่าฮาเซงาวะเซตะคนนี้จะต้องมีตัวตนที่ไม่ธรรมดาเหมือนนักการเมืองทั่วๆไปอย่างแน่นอน
อู๋หวนเฟิงพูดว่า “ผมเคยทานอาหารเย็นกับฮาเซงาวะเซตะตอนที่มากับพี่หลันสองครั้งและผมก็ลองตรวจสอบภูมิหลังของเขาดูแล้วพบว่าตั้งแต่เขายังเด็กฮาเซงาวะเซตะอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและทำงานเป็นทหารรับจ้าง..ซึ่งรอยสักบนตัวเขานั้นผมคิดว่ามันมาจากตอนที่เขาเป็นทหารรับจ้าง”
“เขาเคยเป็นทหารรับจ้างด้วยเหรอ?” เย่เชียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความประหลาดใจ เห็นได้ชัดว่ามันค่อนข้างน่าเหลือเชื่อเพราะหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านที่สง่าผ่าเผยกลับมีอดีตเคยเป็นถึงทหารรับจ้าง อาจพูดได้ว่าความสามารถในการเป็นหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านของฮาเซงาวะเซตะในปัจจุบันจะไม่ใช่ความบังเอิญอย่างแน่นอน
ขณะพูดอยู่ฮาเซงาวะเซตะก็ผลักประตูและเดินเข้ามาโดยเปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้ว เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนกับอู๋หวนเฟิงก็รีบลุกขึ้นยืน “เสี่ยวอู๋..ทำไมเอ็งไม่แนะนำให้ฉันรู้จักเขาล่ะ” ฮาเซงาวะเซตะพูดด้วยรอยยิ้ม
อู๋หวนเฟิงก็พูดอย่างเร่งรีบว่า “คุณฮาเซงาวะครับนี่คือคุณเย่..CEOของเครือน่านฟ้ากรุ๊ป..ส่วนท่านนี้คือผู้สมัครที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันในการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่นคุณฮาเซงาวะเซตะหรือหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน”
“สวัสดีครับคุณฮาเซงาวะ..ผมได้ยินชื่อเสียงของคุณมานานแล้ว” เย่เชียนยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “คุณฮาเซงาวะสละเวลาจากตารางงานที่วุ่นวายเพื่อมาพบกับผมเพราะงั้นผมรู้สึกเป็นเกียรติมาก..ยินดีที่ได้พบครับ!”
ฮาเซงาวะเซตะก็จับมือเย่เชียนอย่างสุภาพและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เราก็คนกันเองเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันหรอก..ชื่อของคุณเย่นั้นค้ำฟ้ามากในทุกวันนี้..สิ่งที่คุณทำมันวิเศษมาก”
“ผมไม่คิดเลยว่าคุณฮาเซงาวะเซตะจะพูดภาษาจีนได้เก่งขนาดนี้..ก่อนมาที่นี่ผมกังวลมากเลยว่าจะคุยกับคุณยังไงให้เราเข้าใจกันแต่ตอนนี้ผมไม่กังวลแล้ว” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
“ตอนที่ฉันเป็นด็กฉันอาศัยอยู่ที่ย่านไชน่าทาวน์ในประเทศสหรัฐอเมริกาและได้รู้จักเพื่อนชาวจีนมากมายและได้เรียนรู้ภาษาจีนจากพวกเขาน่ะ” ฮาเซงาวะเซตะพูด “นั่งลงเถอะๆ..ยินดีต้อนรับเพราะทุกคนเป็นเหมือนครอบครัวเพราะงั้นอย่าทำเหมือนเป็นคนนอกกันเลย”
เย่เชียนก็ไม่ปฏิเสธอีกต่อไปและนั่งลงตามที่ฮาเซงาวะเซตะบอกจากนั้นฮาเซงาวะเซตะก็สั่งบริกรให้เสิร์ฟชาอีกครั้งแล้วบอกให้เธอออกไปและปิดประตู จากนั้นเขาก็หัวเราะและพูดว่า “เหอะๆ..ฉันชอบวัฒนธรรมจีนตอนที่ฉันยังเด็กและฉันก็เรียนรู้มานิดหน่อยเกี่ยวกับการชงชา..ฉันชอบวัฒนธรรมของจีนมากและครั้งล่าสุดที่ฉันได้พบกับคุณซ่งหลันฉันก็ได้ความรู้เพิ่มมากมาย..ฉันคิดว่าฉันรู้เกี่ยวกับวัฒธรรมจีนดีแล้วแต่ฉันไม่คิดว่าคุณซ่งหลันจะมีความรู้มากกว่าฉันอีก”
“ซ่งหลันศึกษาวัฒนธรรมจีนมาเป็นเวลานานและถือได้ว่าเธอเป็นชาวญี่ปุ่นที่รู้เรื่องประเทศจีนมากมาย” เย่เชียนพูด
ฮาเซงาวะเซตะก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันได้ยินมาว่าคุณซ่งหลันกลับไปที่ประเทศจีนแล้วใช่ไหม..น่าเสียดายจริงๆฉันอยากจะคุยกับเธอให้มากกว่านี้เพราะเธอมีพรสวรรค์ที่หายากมาก..ว่าแต่ทำไมคุณเย่ถึงรีบให้คุณซ่งกลับไปประเทศจีนล่ะ..มีอะไรเกิดขึ้นที่ประเทศจีนหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรผิดปกติในประเทศจีนแต่สถานการณ์ในประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ตึงเครียดมากเพราะงั้นผมกลัวว่าซ่งหลันจะตกอยู่ในอันตรายถ้าเธออยู่ที่นี่..เพราะงั้นผมจึงขอให้เธอกลับไปดูแลงานที่นั่นแทน” เย่เชียนพูดว่า “หวังว่าคุณฮาเซงาวะเซตะจะไม่ขุ่นเคืองนะครับ”
“โอ้ไม่ๆ ฮาเซงาวะเซตะพูด “สิ่งที่คุณพูดคือความจริงเพราะตอนนี้สถานการณ์ในประเทศญีปุ่นค่อนข้างตึงเครียดและนาโอกิอิชิอิจะทุกอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเลือกตั้งของเขา..เขามีแนวคิดและนโยบายแบบทหารเพราะงั้นถ้าประเทศไหนต้องการพัฒนาจริงๆล่ะก็ผู้นำจะต้องเปิดใจรับความผิดพลาดและความคิดเห็นจากประชาชนด้วย..ดูอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาสิว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นประเทศมหาอำนาจ..นั่นเป็นเพราะเขาสามารถยอมรับทัศนคติของทุกฝ่ายได้..ตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นได้มาถึงช่วงเวลาที่ใกล้จะต้องเปลี่ยนสถานะและวิสัยทัศน์ได้แล้วไม่งั้นประเทศญี่ปุ่นจะค่อยๆหายไปจากเวทีโลกอย่างแน่นอน”
คำพูดของฮาเซงาวะเซตะนั้นสมเหตุสมผลมากเพราะไม่เพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นแม้แต่ประเทศจีนเองก็ควรเปิดรับทัศนคติของประชาชนและทุกฝ่ายเพื่อทำให้ประเทศแข็งแกร่งขึ้น ทำไมคนรวยในจีนมักเลือกที่จะไปต่างประเทศและเปลี่ยนสัญชาติล่ะ? ความหมายนี้ค่อนข้างกว้างขวางและอธิบายไม่ได้ในประโยคสั้นๆเลย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน