ตอนที่ 954 แผนใช้เสนห์แห่งความงาม
ด้วยสัญญาดังกล่าวเย่เชียนสามารถลดความระมัดระวังไปได้เยอะมาก ซึ่งในอนาคตถึงแม้ว่าฮาเซงาวะเซตะคิดที่จะหักหลังเขาล่ะก็เย่เชียนจะสามารถเอาสัญญานี้ออกมาเพื่อข่มขู่เขาได้ ในสัญญามีรายละเอียดบันทึกเอาไว้ว่าเย่เชียนจะช่วยฮาเซงาวะเซตะให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นและยังบันทึกความรับผิดชอบที่ฮาเซงาวะเซตะควรทำหลังจากเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกด้วย ดังนั้นเมื่อสัญญานี้ถูกเปิดเผยแล้วฮาเซงาวะเซตะจะถูกต่อต้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้จากประชาชนในประเทศและสาธารณชนระหว่างประเทศและสังคมของประเทศอีกด้วย
นี่เป็นการป้องกันสำหรับเย่เชียนเพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นแค่ความร่วมมือและไม่มีใครสามารถทำนายว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต ซึ่งที่สำคัญกว่านั้นเย่เชียนสามารถใช้สัญญานี้เพื่อผูกมัดฮาเซงาวะเซตะเอาไว้ในกำมือของเขา ถึงแม้ว่าฮาเซงาวะเซตะจะสนับสนุนจีนแต่ถ้าหากวันหนึ่งฮาเซงาวะเซตะกับประเทศจีนมีความขัดแย้งกันล่ะก็ฮาเซงาวะเซตะจะต้องทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาพูดตอนนี้อย่างแน่นอน
แน่นอนว่าฮาเซงาวะเซตะตระหนักดีถึงภัยคุกคามต่อสัญญาฉบับนี้แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจเช่นกันแต่ตอนนี้เขาถูกกดดันโดยนาโอกิอิชิอิอย่างมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีการกล่าวกันว่าองค์กรชาโด้ซากุระสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้มากมายแต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอและเขาก็ยังคงมีช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างเขากับนาโอกิอิชิอิในแง่ของความแข็งแกร่งและอิทธิพล อย่างไรก็ตามฮาเซงาวะเซตะก็สามารถสบายใจมากขึ้นเพราะเย่เชียนไม่สนใจการเมืองไม่เช่นนั้นด้วยความสามารถของเย่เชียนที่ได้รับการยอมรับและการสนับสนุนจากทวีปตะวันออกกลางเช่นนั้นเย่เชียนจะต้องกลายเป็นศัตรูการเมืองของเขาอย่างแน่นอน แต่ตราบใดที่เย่เชียนไม่ใช่ศัตรูทางการเมืองเช่นนั้นฮาเซงาวะเซตะเชื่อว่าตราบใดที่เขาสามารถให้ผลประโยชน์ที่เย่เชียนต้องการได้ล่ะก็ในอนาคตความสัมพันธ์ของเขากับเย่เชียนก็จะต้องเป็นไปอย่างแน่นแฟ้นแน่นอน
ทั้งสองก็คุยกันอยู่พักหนึ่งและทั้งสองก็คุยกันอย่างราบรื่น แต่เมื่อมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือแล้วเย่เชียนก็ยืนขึ้นแล้วพูดว่า “คุณฮาเซงาวะนี่ก็ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้วเพราะงั้นผมไม่อยากรบกวนคุณแล้วครับ..ผมต้องกลับไปเตรียมการเพื่อให้แน่ใจว่าแผนของเราจะปลอดภัย” จากนั้นเขาก็หันไปมองที่นากาซาวะเคโกะแล้วพูดว่า “คุณนากาซาวะช่วยส่งมอบแบบแปลนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ด้วยนะครับ..เราต้องเริ่มกันโดยเร็วที่สุดเพื่อที่เราจะสามารถต่อสู้กับนาโอกิอิชิอิได้”
“คุณเย่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้นหรอก..ทำไมเราไม่ทานอาหารด้วยกันก่อนล่ะ..เดี๋ยวฉันจะให้นากาซาวะเคโกะไปส่งคุณเอง” ฮาเซงาวะเซตะพูด แน่นอนว่าเย่เชียนสามารถมองเห็นการแสดงออกที่คลุมเครือของฮาเซงาวะเซตะได้และรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ซึ่งดูเหมือนว่าฮาเซงาวะเซตะต้องการใช้ความงามสยบเขานั่นเอง
“ใช่ค่ะ..ฉันเองก็ชื่นชมคุณเย่มาตั้งนานแล้ว..ฉันหวังว่าจะได้พูดคุยกับคุณมากกว่านี้” นากาซาวะเคโกะพูด ไม่ต้องสงสัยเลยเพราะเย่เชียนค่อนข้างน่าดึงดูดใจสำหรับนากาซาวะเคโกะ เดิมทีบรรพบุรุษขององค์กรชาโด้ซากุระเป็นหน่วยข่าวกรองที่อาศัยร่างกายของตัวเองเพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับศัตรู ถึงแม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปแต่การทำงานขององค์กรชาโด้ซากุระก็เหมือนเดิมทุกประการและไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย แต่ในฐานะผู้นำองค์กรแล้วนากาซาวะเคโกะก็ไม่ค่อยมีส่วนร่วมในภารกิจต่างๆ แต่เธอก็ได้ติดต่อกับผู้ชายหลายๆ คนแต่เมื่อเปรียบเทียบกับเย่เชียนแล้วทุกคนดูน่าเบื่ออย่างสิ้นเชิ้ง
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเขาเข้าใจความหมายในคำพูดของฮาเซงาวะเซตะดีเพราะฮาเซงาวะเซตะต้องการใช้ความงามจากนากาซาวะเคโกะเพื่อผูดมัดเย่เชียน อีกอย่างเขาแค่ต้องการดูความจริงใจของเย่เชียนในทางอ้อม จากนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ในเมื่อคุณนากาซาวะพูดแบบนี้แล้วถ้าผมปฏิเสธก็คงจะเสียมารยาทแย่เลยสิครับ”
เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วก็ไม่มีความจำเป็นสำหรับฮาเซงาวะเซตะที่จะให้เย่เชียนอยู่ทานอาหารเย็นกับเขาอีกต่อไป จากนั้นเขาก็พูดว่า “ในเมื่อคุณเย่ตัดสินใจแบบนั้นก็ตามที่คุณต้องการเลย..นากาซาวะเคโกะช่วยดูแลคุณเย่ด้วย”
“คุณฮาเซงาวะไม่ต้องห่วงค่ะ..ฉันจะดูแลคุณเย่เป็นอย่างดี” นากาซาวะเคโกะพูดด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
ในตอนนี้การแสดงออกของอู๋หวนเฟิงเปลี่ยนไปและเขาก็หันไปมองเย่เชียน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขากำลังเเตือนเย่เชียนและเย่เชียนก็ยิ้มแล้วพยักหน้าให้เขาเพื่อส่งสัญญาณให้เขาสบายใจ เนื่องจากนี่เป็นความร่วมมือครั้งแรกดังนั้นเย่เชียนจึงไม่ต้องการให้ฮาเซงาวะเซตะระแวงเขาตอนนี้เพราะฮาเซงาวะเซตะแค่ต้องการเห็นความจริงใจของเขาเท่านั้น
จากนั้นนากาซาวะเคโกะก็ควงแขนของเย่เชียนแล้วลุกขึ้นยืนและพูดว่า “คุณเย่เดี๋ยวฉันจะไปส่งคุณเองค่ะ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นเย่เชียนก็หันไปมองอู๋หวนเฟิงแล้วพูดว่า “หวนเฟิงนายกลับไปก่อนแล้วบอกม่อหลงเกี่ยวกับแผนการที่ฉันเพิ่งจะคุยกับคุณฮาเซงาวะและบอกให้เขาเตรียมสิ่งต่างๆ ให้พร้อม”
“รับทราบครับบอส!” อู๋หวนเฟิงตอบและเดินออกไป
จากนั้นเย่เชียนกับฮาเซงาวะเซตะก็กล่าวคำอำลากันแล้วเย่เชียนก็เดินออกไปพร้อมกับนากาซาวะเคโกะ แน่นอนว่าฮาเซงาวะเซตะฉีกยิ้มอย่างพึงพอใจราวกับว่าเย่เชียนอยู่ในกำมือของเขาแล้ว ซึ่งฮาเซงาวะเซตะเองก็ได้สัมผัสกับเสน่ห์ของนากาซาวะเคโกะมาแล้วและในความเห็นของเขาผู้หญิงคนนี้สามารถโน้มน้าวใจผู้ชายคนไหนก็ได้และในท้ายที่สุดผู้ชายเหล่านั้นก็ยอมเธอทุกอย่าง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดนักรบจอมราชัน