ยังไม่วายให้ฮ่องเต้ตอบสนอง ซูชิงอู่เชิดคางเล็กน้อย เบ้าตาแดงก่ำหยาดน้ำตาหมุนวนด้านในหางตาโดยไม่ยอมหลั่งลง
การแสดงออกถึงความคับข้องใจขีดสุดเช่นนี้ของนางทำให้วาจาพระองค์จุกแน่นอยู่ในลำคอฉับพลัน
ฮ่องเต้อดเปลี่ยนประเด็นไม่ได้ พลางเอ่ยถามว่า “เจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”
อาจเป็นเพราะไม่ตรภาพครั้งเยาว์วัยระหว่างพระองค์กับมารดาของนาง ฮ่องเต้จึงโอบอ้อมอารีซูชิงอู่เป็นพิเศษ
แม้จะไม่อาจเข้าข้างได้ชัดเจนนัก แต่อย่างไรซูชิงอู่ก็ไม่น้อยหน้าบรรดาองค์หญิงชนชั้นเจ้า
ซูชิงอู่เป็นคนค่อนข้างมีชื่อในแวดวงบุตรีเหล่านั้นในเมืองหลวง
ไม่เพียงการหมั้นหมายที่ฮองเฮาเตรียมไว้สำหรับนางและองค์ชายสามเท่านั้น ยังมีความลำเอียงของฮ่องเต้ด้วย
เสียงซูชิงอู่เครือแผ่วค่อย ๆ ส่งออกจากกล่องเสียง “ฝ่าบาทเพคะ ได้โปรดอย่าโทษท่านอ๋องเลย เป็นเพราะหม่อมฉัน ท่านอ๋องถึงได้ลงมือ หากพระองค์จะลงโทษก็ลงโทษหม่อมฉันแต่เพียงผู้เดียวเถิดเพคะ หากองค์ชายสามไม่เอ่ยเรื่องน่ารังเกียจออกมา องค์ชายก็คงจะไม่ทรงกริ้ว หม่อม…หม่อมฉัน…”
สองตาฮ่องเต้หรี่ขึ้นฉับพลัน
เขากวาดมองร่างเย่อวิ๋นถูกับเย่เสวียนถิงเฉียบคม จากนั้นถามว่า “องค์ชายสามตรัสว่าอันใด?”
เมื่อสัมผัสได้ถึงการผันแปรทัศนคติของฮ่องเต้ กิริยาของเย่อวิ๋นถูไม่ค่อยดีอย่างเห็นชัด
แม้แต่ฮองเฮาก็ไม่พอใจถึงขีดสุด
ซูเชียนหลิงกลืนน้ำลายลงคอ ความตึงเครียดทวีขึ้น…
ซูชิงอู่เอ่ยเสียงแผ่ว “เย่อวิ๋นถูว่าหม่อมฉัน…ว่าหม่อมฉันเป็นหญิงใคร่กาม ว่าหม่อมฉันเจตนายั่วสวาทโจรภูเขาพวกนั้น ทรงตรัสอีกว่า…ว่าหม่อมฉันซึ่งพระองค์ทรงประทานการอภิเษกสมรสให้เป็นพระชายาเสวียน ไม่คู่ควรเป็นพี่สะใภ้ขององค์ชายสามเพคะ…”
ดวงหน้าฮ่องเต้มืดครึ้มดุจเดือนดับ
จาวาส่วนหน้าเป็นเพียงการเกริ่นสำหรับฮ่องเต้ ทว่าถ้อยคำส่วนหลังต่างหากที่เป็นชนวนโทสะที่แท้จริง
ไม่ว่าอย่างไร นางก็คือพระชายาอ๋องเสวียนที่ฮ่องเต้ทรงพระราชทานให้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนรักทวงแค้น