จากนั้นดวงหน้างามละเอียดดวงนั้นเงยขึ้นถามว่า “ท่านว่าหม่อมฉันเป็นหญิงใคร่กามไม่ใช่หรือ?”
สีหน้าเย่อวิ๋นถูชะงัก เปิดปากอธิบายโดยไม่รอช้า “นั่นคือคำพูดยามโกรธชั่วขณะ ต้องโทษข่าวโคมลอยพวกนั้น…”
ซูชิงอู่เไม่นเขา “แต่หม่อมฉันคอยซักถามตลอด มีคนรู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหม่อมฉันไม่มาก บิดาของหม่อมฉันปิดข่าวตั้งแต่แรก ๆ แต่อยู่ ๆ ข่าวแพร่ไปทั่วเมืองได้อย่างไรกัน?”
อากัปกิริยาของหลายคนในเหตุการณ์แข็งทื่อเล็กน้อย
นางกวาดตามองซูชิงอู่กับเย่อวิ๋นถู ทันใดนั้นก็เม้มมุมริมฝีปาก สายตาเฉียบคมส่อประกายมีชัย
“ท่านอ๋องเป็นพยานได้ว่าหม่อมฉันไม่เคยเสียความบริสุทธิ์ให้ใคร อีกอย่างไม่นานมานี้ก็ยืนยันได้แล้วว่าแต้มพรหมจรรย์ไม่ใช่ตัวพิสูจน์พรหมจารีของสตรี เมื่อสักครู่ซูเชียนหลิงคงเคยเห็นการทดลองที่หม่อมฉันทำบนตัวท่านหญิงเสวี่ยอิ๋งกับตาแล้ว…”
บางเรื่องไม่พูดดีกว่าพูด พอคิดแล้วก็รู้สึกน่ากลัว
วาจาซูชิงอู่ทำทั้งพระที่นั่งหย่างซินเตี้ยนเงียบสนิท สีหน้าฮองเฮากับซูเชียนหลิงตึงเครียดเล็กน้อย
ฮ่องเต้เลิกคิ้ว โชคดีที่เขาไม่ได้สืบสวนหัวข้อก่อนหน้านั้น แต่ถามใคร่รู้ว่า “การทดลองอันใด?”
อย่างไรเสียในพระราชวังก็หูตาสับปะรด ยากที่จะปิดข่าวใดได้ เลยบอกยากว่าคนในวังคนไหนฆ้องปากแตกปล่อยข่าวไป
ต่อให้มีคนบงการอยู่เบื้องหลัง การปั่นข่าวลือออกมาทีละชั้นก็เปลืองแรงมากเกินไป
สำหรับฮ่องเต้ เรื่องประเภทนี้ได้ไม่คุ้มเสีย
ซูเชียนหลิงตะลึง รู้ตัวว่าเรื่องนี้ไม่อาจปิดบังได้อีก บัดนี้เรื่องถึงหูถึงฮ่องเต้แล้ว เกรงว่าจะมีแต่วุ่นวาย
หลินเสวี่ยอิ๋งก็ถูกกระทบพังพินาศเช่นกัน นางจะมีหน้าออกไปเจอผู้คนได้อย่างไร?
ซูเชียนหลิงขบฟันพลางกล่าว “ซูชิงอู่ เจ้าเอาเรื่องของน้องเสวี่ยอิ๋งมาพูดภายนอกได้เช่นไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนรักทวงแค้น