สีหน้าเย่อวิ๋นถูผกผันเร็วพลัน
นัยน์ตาเขาประกายวับ แต่เสียงกลับนุ่มนวลเล็กน้อย
“ชิงอู่ เจ้ายังโกรธข้าอยู่หรือ?”
ซูชิงอู่เลิกคิ้ว “ข้าโกรธอันใดท่าน?”
เย่หวิ๋นถูถอนหายใจ “เรื่องถอนหมั้นเป็นเสด็จแม่ข้าดำเนินการ เจ้าก็รู้นิสัยเสด็จแม่ข้า นางไม่ให้ข้าแต่งกับสตรีที่เสียแต้มพรหมจรรย์เป็นพระชายา”
“แต่ใจข้าไม่เคยรังเกียจเจ้าแม้ครึ่งส่วน ภายหลังถอนหมั้นจึงไปคุกเข่าวอนเสด็จแม่ ในที่สุดพระองค์ก็อนุญาตให้ข้ารับเจ้าเป็นอนุภรรยา...”
สายตาเย่อวิ๋นถูมองเย่เสวียนถิงด้วยสายตาไม่พอใจและโกรธ
ความชิงชังประเภทนั้นคล้ายจะทะลักออกก็ไม่ปาน
เมื่อได้ยินวาจาดังกล่าว ซูชิงอู่ก็เกือบจะหัวเราะออกมา
แต่ทันทีหลังจากนั้น สีหน้านางก็เคร่งขรึมขึ้น
ชาติก่อนนางช่างใสซื่อหลอกลวงได้ง่ายโดยแท้ เป็นคุณหนูอ่อนหัดไม่ทันความโหดเหี้ยมของใจใครต่อใคร หลงเชื่อถ้อยคำเขา ทึกทักไปว่าเย่เสวียนถิงทำลายลาภของนาง!
ไม่ได้ใช้สมองที่ติดตัวมาฉุกคิดเลยสักนิด นางคือบุตรีภรรยาเอกแห่งจวนอัครเสนาบดี เกิดมาก็มีฐานะเป็นทายาทตระกูลสูงศักดิ์ เหตุใดต้องไปเป็นอนุภรรยาใคร?
เจ้าเย่อวิ๋นถูมีสิทธิ์อะไร?!
สิทธิ์ที่เขาหน้าหนา?
สิทธิ์ที่เขาเจ้าอารมณ์?
ซูชิงอู่อดพูดขัดวาจาเขาตรง ๆ ไม่ไหว “ตอนนี้หม่อมฉันเป็นพระชายาเสวียน ผู้ซึ่งฝ่าบาททรงพระราชทานอภิเษกสมรสให้ด้วยพระเองค์เอง หม่อมฉันคงจะสมองเพี้ยนไปกระมังเจ้าคะถึงจะอยากเป็นอนุของท่าน”
เดิมทีเย่อวิ๋นถูคิดจะเอ่ยต่อ ทว่าถูกวาจาประโยคนี้ของซูชิงอู่ขัดขึ้นเสียก่อน
เนตรหงส์ดำขลับลึกล้ำของเขาจับจ้องใบหน้ายิ้มเยาะถากถางของเย่อวิ๋นถูตาเขม็ง นึกอยากต่อยเขาสักหมัด
ทว่าถ้อยคำฝ่ายตรงข้ามกลับแทงกลางซี่โครงอ่อนของเขา ทำหัวใจเจ็บราวถูกเข็มเหล็กกล้านับพันทิ่มแทง
เดิมทีซูชิงอู่ยังพอสงบอารมณ์ได้ พอคราวนี้กลับเย็นชาดุจน้ำแข็งเย็นเยือก
นางเห็นสีหน้าเย่เสวียนถิงขาวซีดยิ่งขึ้น เงาร่างสูงใหญ่เผยความอ่อนแอน้อย ๆ
ความรู้สึกที่ถูกคนใช้มีดแทงเข้าจุดอ่อนเช่นนี้ ซูชิงอู่รู้สึกเข้าใจลึกซึ้งนัก
นางไม่สนอารมณ์ของเย่อวิ๋นถูตรงหน้า อารามกอดเอวเขาไว้จากด้านหลัง โดยไม่ปิดบังพฤติกรรมใกล้ชิดของตนกับเขาแม้แต่น้อย
ตรงข้ามกับร่างนุ่มนวล แข็งแรง และอบอุ่นของนาง เสียงซูชิงอู่เย็นชาดั่งน้ำแข็ง
“เย่อวิ๋นถู หุบปากเถอะ!”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนรักทวงแค้น