มือนุ่มกดเข้ากับหลังมือของเขา จากนั้นก็ดึงฝ่ามือของเขามาประคองนวลแก้มของตน
ซูชิงอู่เลิกคิ้วนิด ๆ พลางกล่าวว่า "หากท่านอยากจะสัมผัสก็เชิญเถิด ตอนนี้ข้าเป็นของท่านแล้วนี่เจ้าคะ"
เย่เสวียนถิงพลันหูแดงก่ำ
คล้ายว่าเขาจะได้ยินเสียงหัวใจของตนเต้นไม่ได้หยุดเลย
อารมณ์ความรู้สึกนับไม่ถ้วนปริ่มล้นที่สะกดกลั้นเอาไว้ในใจดูเหมือนจะไม่อาจหาทางออกได้ เย่เสวียนถิงจึงได้แต่ยืนทื่ออยู่ตรงนั้น
ถึงแม้ซูชิงอู่หาได้ล่วงรู้ถึงสิ่งที่เย่เสวียนถิงกำลังครุ่นคิดอยู่ ทว่ายามนี้นางกลับมีความสุขยิ่งนัก
ขอเพียงนางได้เห็นบุรุษผู้นี้อยู่ตรงหน้า นางก็รู้สึกสบายใจเป็นที่สุดแล้ว อารมณ์ร้อนรนกระวนกระวายใจทั้งมวลของนางที่สุดก็มลายสิ้น
ราวกับว่าบรรยากาศระหว่างคนทั้งคู่ยากที่คนนอกจะเข้ามาแทรกกลางได้
ทว่าในยามนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังรบกวนบรรยากาศในห้องโถง
จากนั้นเสียงขององค์ชายสาม เย่อวิ๋นถูก็ดังขึ้นมาจากนอกประตู "ชิงอู่!"
ท่าทียามเขาร้องเรียกซูชิงอู่ช่างแลดูคลุมเครือนัก
ซูชิงอู่ที่อยู่ในโถงหลักหันหน้าไปมองโดยไม่รู้ตัว
นางเห็นซูเชียนหลิงตามรั้งท้ายกลับมาพร้อมองค์ชายสามเย่อวิ๋นถู ก่อนที่เขาจะเดินมาหานาง
เมื่อเห็นศัตรูตั้งแต่ชาติปางก่อนทั้งสองคน ซูชิงอู่ก็เครียดเกร็งไปทั้งตัวและอดไม่ได้ที่จะกระชับข้อนิ้วมือของเย่เสวียนถิงเอาไว้แน่น
แต่ไม่นาน อารมณ์ของนางก็สงบนิ่ง
นางใช้ปลายนิ้วเกาฝ่ามือของเย่เสวียนถิงเบา ๆ พลางกระซิบบอกเขาว่า "มาไล่แขกไม่ได้รับเชิญออกไปกันก่อนเถิด หลังจากพวกเรากลับถึงจวนจะได้แสดงความรักต่อกันให้เต็มที่ ดีหรือไม่เจ้าคะ?"
สิ่งที่นางกล่าวช่างชวนให้คนหน้าแดงใจเต้นแรงทีเดียว ส่วนใหญ่แล้ว หากไม่ได้นับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เย่เสวียนถิงก็แทบจะไม่ได้ใกล้ชิดกับสตรีนางใดเลย จึงทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ไปชั่วขณะ
นางหันกลับมามองเย่อวิ๋นถูที่อยู่ตรงประตูด้วยท่าทีสงบนิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย้อนรักทวงแค้น