บทที่ 33 ได้เงินก้อนโต
“แม่นางจ้าว”
สวี่หยางทักทาย
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคือภรรยาของหวงเสี่ยวไฉ ที่เพิ่งแต่งงานไปเมื่อไม่นานมานี้ นางเป็นผู้บำเพ็ญหญิงที่มีรากฐานวิญญาณ และมีรูปร่างหน้าตาธรรมดา
จ้าวหงสะดุ้ง แล้วตระหนักได้ว่าเป็นสวี่หยางที่มีความขัดแย้งกับสามีของนางเมื่อไม่กี่วันก่อน
“สหายเต๋าสวี่”
“แม่นางจ้าวเป็นอะไรหรือเปล่า?”
สวี่หยางถาม
ครั้งสุดท้ายที่หวงเสี่ยวเหมยเขียนจดหมายถึง นางหวังว่าเขาจะรู้อะไรบางอย่าง เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของน้องชายนาง เพราะนางรู้ดีว่าพ่อแม่ตามใจน้องชายมาก เมื่อเร็ว ๆ นี้น้องชายใช้เงินไปเป็นจำนวนมากอย่างผิดปกติ นางจึงกังวลว่าเขาจะใช้จ่ายเงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย
“ไม่เป็นอะไรหรอก ข้าแค่ทะเลาะกับสามีน่ะ”
“เอ่อ… ช่วยบอกได้หรือไม่? พูดตามตรง หวงเสี่ยวเหมยเพิ่งมาขอให้ข้าสืบเรื่องสามีของเจ้า” สวี่หยางถามตามตรง โดยไม่อ้อมค้อม
ทันใดนั้นดวงตาของจ้าวหงก็เบิกกว้าง “จริงหรือ พี่เสี่ยวเหมยส่งจดหมายถึงเจ้าหรือ?”
“ใช่แล้ว”
“เช่นนั้นก็เยี่ยมมาก เจ้าช่วยคุยกับพี่เสี่ยวเหมยให้หน่อยได้หรือไม่? สามีของข้าเพิ่งไปคบกับกลุ่มเพื่อนไม่ดี และไปที่เมืองชั้นในเพื่อเล่นการพนันทุกวัน เมื่อไม่นานมานี้ เขาเสียหินวิญญาณทั้งหมดไปแล้ว…”
“แต่เสี่ยวเหมยบอกว่าเพิ่งมอบหินวิญญาณให้น้องชายไปสามสิบก้อน เมื่อสิบกว่าวันก่อนเองนะ!”
“ทุกอย่างสูญไปหมดแล้ว รวมถึงยาที่ส่งมาด้วย เพราะเขาเอาไปจำนำ ข้าทะเลาะกับเขา แต่เขากลับไม่สนใจข้าเลย พ่อแม่สามีก็ไม่คิดตักเตือนเช่นกัน ซ้ำยังช่วยเขาหลอกลวงพี่เสี่ยวเหมยด้วยซ้ำ…”
“เข้าใจแล้ว!” สวี่หยางพยักหน้า
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจริงที่คนจนบางคนไม่สามารถควบคุมทรัพย์สินเกินความรู้ของตนได้ ความมั่งคั่งอย่างฉับพลันมีแต่จะยิ่งทำให้พวกเขาเสียนิสัย
เมื่อมาถึงศาลาพักม้า สวี่หยางก็เขียนจดหมายอธิบายเรื่องนี้ทันที แล้วส่งไปให้หวงเสี่ยวเหมย
พร้อมทั้งขอให้นางช่วยหายาเสริมฐานลมปราณให้หน่อย เขายินดีที่จะซื้อมันเต็มราคา
……
เมื่อเดินตรงไปยังถนนสายหลักของเมืองชั้นใน สมัยนี้ผู้บำเพ็ญมนุษย์น้อยลงมาก ถนนจึงรกร้างว่างเปล่า
จนกระทั่งมาถึงสถานที่ที่เรียกว่า ‘ร้านขายยาตระกูลสวี’ นี่คือร้านขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองสวีเจียฟาง ซึ่งมีผู้คนเข้าออกมากมาย
แม้แต่ผู้บำเพ็ญมนุษย์จำนวนมากที่ไม่มีเงินซื้อ บางครั้งก็มักจะมาที่นี่เพื่อเปิดหูเปิดตา และศึกษาตลาดราคายา
นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่หยางมาที่นี่!
ในอดีตเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเป้า เขามักจะเลือกขายของเป็นร้านค้าเล็ก ๆ แต่คราวนี้เขาตัดสินใจมาที่ร้านขายยาตระกูลสวี
“เฮ้ สหายเต๋าสวี่”
เมื่อเข้าประตูไป เสียงของเถ้าแก่สวีก็ดังขึ้น
สวี่หยางสะดุ้ง มาครั้งแรกก็ได้พบสหายเก่าทันทีเลยหรือ?
แต่เถ้าแก่สวีไม่ได้อยู่หอการค้าหลินไห่หรือ เหตุใดเขาถึงมาอยู่ที่นี่?
หลังจากได้พูดคุยกัน เถ้าแก่สวีก็อธิบายเหตุผล
ปรากฏว่าช่วงนี้ตระกูลสวีขาดแคลนคน หอการค้าหลินไห่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลสวี เขาจึงได้รับมอบหมายให้มาทำงานในร้านนี้เป็นการชั่วคราว
“ก็ว่าอยู่ ไม่เคยเห็นท่านในร้านอื่นเลย ที่แท้ก็มาอยู่ที่นี่แล้วนี่เอง”
สวี่หยางพูดด้วยรอยยิ้ม การได้พบคนคุ้นเคยทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาก
“สหายเต๋าสวี่ต้องการอะไรหรือ?”
“เมื่อไม่กี่วันก่อนข้าโชคดี ข้าไปเก็บโอสถวิญญาณจากทะเลสาบปี้กุ้ย รวมถึงโสมหญ้าโลหิตมาได้จำนวนมาก”
หลังกวาดสายตามองไปรอบ ๆ สวี่หยางก็กระซิบอีกครั้ง “ขอคุยด้วยหน่อยได้หรือไม่?”
“รีบเอามาให้ดูเร็วเข้า”
เถ้าแก่สวีรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย สวี่หยางไม่โชคดีบ่อยไปหน่อยหรือ?
ข้างในห้อง
มีโสมหญ้าโลหิตทั้งหมดหกต้น!
ซ้ำยังมีโอสถวิญญาณและหญ้าหลิงเฉ่าด้วย
สาเหตุที่จัดชุดนำมาขายเช่นนี้ ก็เพื่อให้เหมือนเป็นของที่เก็บมาจากบนภูเขาจริง ๆ
แน่นอนว่าสินค้าชุดนี้มีปริมาณค่อนข้างมาก แต่เขาไม่มีทางเลือก นอกจากต้องรีบนำมาขาย เพื่อซื้อยาเสริมฐานลมปราณ
“สหายเต๋าสวี่ เจ้าแสดงให้ข้าเห็นถึงประสบการณ์ของเจ้าจริง ๆ เจ้ามีประสบการณ์มากมาย! ดี ดีมาก ตระกูลสวีต้องการโอสถวิญญาณชนิดนี้จำนวนมาก สถานการณ์ในแนวหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก เจ้ามาได้ทันเวลาจริง ๆ”
สวี่หยางยกยิ้มและพยักหน้า
เขาได้ยินมาว่าในช่วงนี้ ตระกูลสวีขาดแคลนเสบียงจำนวนมาก โดยเฉพาะยารักษา และแนวหน้าก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก
เรื่องนี้ทำให้ราคายาพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน