บทที่ 34 เมตตามากแล้ว
“ไม่นานมานี้ข้าได้รวมกลุ่มกับเพื่อนใหม่ และมีส่วนร่วมอย่างมาก จึงได้รับอนุญาตให้หยุดสามวัน”
เสิ่นม่านอวิ๋นยกยิ้ม “เพื่อนใหม่ของข้าเก่งกาจยิ่งนัก คนผู้นั้นอยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นปลาย”
นางพูดพร้อมกับส่งของให้ “นี่ ของขวัญสำหรับเจ้า”
“ขอบคุณ”
สวี่หยางยกยิ้ม ไม่คิดเลยว่าเสิ่นม่านอวิ๋นจะนำของฝากมาให้เขาจริง ๆ
เมื่อเปิดออกก็เห็นว่าเป็นกล่องชาที่มีสรรพคุณทำให้สดชื่น
“สหายเต๋าสวี่ เจ้าขี้กลัวเกินไป หากเจ้าออกไปกับข้าในครั้งนี้ เจ้าจะได้รับหินวิญญาณห้าสิบก้อน เพราะกลุ่มพวกข้าจับตัวคนทรยศกลุ่มเจ็ดคาบสมุทรได้สามคน!”
“โอ้? นั่นไม่เลวเลย”
“และปรมาจารย์ที่อยู่ขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นปลายคนนั้นก็ไม่เลวเช่นกัน” ในขณะพูด เสิ่นม่านอวิ๋นจ้องหน้าสวี่หยาง “เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าคนผู้นั้นเป็นชายหรือหญิง?”
“เป็นชายหรือหญิง?”
“ก็ต้องเป็นผู้ชายสิ!” เสิ่นม่านอวิ๋นกล่าว
“ก็ดี…”
เมื่อมองตาของเสิ่นม่านอวิ๋น สวี่หยางเหมือนจะมองบางอย่างออก “เช่นนั้นก็ยินดีกับสหายเต๋าเสิ่นด้วย”
เสิ่นม่านอวิ๋นถอนหายใจ “น่าเบื่อ ไม่คุยกับเจ้าแล้ว ไปคุยกับน้องอวี้เอ๋อร์ดีกว่า”
ในความเป็นจริง สวี่หยางก็รู้ตัวเช่นกันว่าเสิ่นม่านอวิ๋นมีความรู้สึกต่อเขา
แต่เขายอมไม่ได้!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็ถอนหายใจเงียบ ๆ ควรทำอย่างไรดี?
……
สามวันต่อมา
เสิ่นม่านอวิ๋นออกจากบ้านอีกครั้ง
“สามี อาหารพร้อมแล้ว”
ช่วงค่ำ หลินอวี้เรียกสามีที่กำลังฝึกตนอยู่ในห้อง
บนโต๊ะอาหารมีอาหารเลิศรสมากมาย
ช่วงนี้อาหารของพวกเขามีหลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ ค่าอาหารคิดเป็นสองหรือสามหินวิญญาณต่อวัน
เพราะอาหารที่ดีเช่นนี้ ร่างกายของหลินอวี้จึงได้รับการบำรุงอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้นางก็เข้าสู่ขั้นผู้ฝึกยุทธ์ระดับสองแล้ว
“สามี พี่เสิ่นกลับมาคราวนี้ นางมาคุยกับข้า นางบอกว่านางได้รู้จักกับชายที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ในขอบเขตกลั่นลมปราณขั้นปลาย ชายคนนั้นดูเหมือนจะสนใจนาง และตามติดนางแจเลยละ”
หลินอวี้มองสามี อยากรู้ว่าสวี่หยางกำลังคิดอะไรอยู่
“นั่นก็ดีแล้วนี่ มีอะไรผิดปกติหรือ?”
“ข้ามองออกว่าพี่เสิ่นสนใจเจ้า ข้าคิดว่าการมีพี่เสิ่นอยู่เคียงข้างจะเป็นประโยชน์ต่อเจ้ามาก”
“เอ่อ…”
คาดไม่ถึงว่าหลินอวี้จะพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง
ซึ่งหมายความว่าหากเขาแต่งงานกับเสิ่นม่านอวิ๋นจริง ๆ หลินอวี้ก็จะไม่ได้ไม่พอใจ และจะไม่ส่งผลกระทบต่อการได้รับคะแนนพิเศษด้วย
แต่จะเกิดอะไรขึ้น หาก…
“สามี เพื่อให้ครอบครัวของเราเจริญรุ่งเรือง เจ้าควรยอมรับพี่เสิ่น”
สวี่หยางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี หลินอวี้ช่างใส่ใจเกี่ยวกับอนาคตของสามีจริง ๆ
สวี่หยางจับข้อมือของหลินอวี้ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ปล่อยให้เป็นไปตามทางของมันเถอะ คืนนี้เจ้าอยากกินยานั้นอีกหรือไม่?”
“อ๊ะ?” หลินอวี้หุบขาเข้าด้วยกันโดยไม่รู้ตัว เมื่อนึกถึงเหตุการณ์น่าอับอายก่อนหน้านี้ก็ก้มหน้าลงอย่างเขินอาย “ไม่กินแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไม่มีแรง”
นางกลอกตา “ครั้งหน้ามอบให้พี่เสิ่นบ้างดีหรือไม่?”
สวี่หยาง “…”
……
สองวันต่อมา
“ขณะนี้มีโสมหญ้าโลหิตมากกว่ายี่สิบต้นแล้ว เราต้องคิดหาทางขายบางส่วนออกไป”
เขาคิดจะตั้งแผงขายของ หรือแม้แต่เปิดร้าน!
พอถึงเวลานั้นเขาก็จะบอกคนอื่น ๆ ได้ว่าพืชและสมุนไพรพวกนี้ได้มาด้วยความบังเอิญระหว่างเก็บของป่าทั้งนั้น
ความคิดนี้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่เขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการเปิดร้านมากนัก
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ย่างก้าวสู่วิถีเซียน