ซูจิ่วเอ๋อร์วางโทรศัพท์ลงข้างๆ กำลังจะสั่งกำชับกับพยาบาลให้เตรียมอาหารกลางวันให้สวี่รั่วฉิง เผื่อหลังจากเธอตื่นมาจะได้ทาน
แต่ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีกรอบ
ก๊อก ก๊อกก๊อก ก๊อกก๊อกก๊อก
คนที่มาเยือนคล้ายกับว่าไม่มีความอดทน เมื่อเห็นว่าไม่มีคนตอบรับ ก็รีบเคาะประตูอย่างรีบร้อนอีกครั้ง
ซูจิ่วเอ๋อร์ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เธอจำได้ว่าเธอเคยสั่งกำชับบอดี้การ์ดที่อยู่หน้าห้องไว้แล้ว ถ้าหากว่าไม่ใช่หมอหรือพยาบาล คนแปลกหน้าคนอื่นๆหน้าไหนก็ห้ามเข้ามาเด็ดขาดเลย
"คุณน้าพยาบาลคะ รบกวนคุณน้าเปิดประตูดูให้หน่อยค่ะว่าใครมา ถ้าหากไม่ใช่หมอหรือพยาบาลก็เรียกบอดี้การ์ดให้มาเอาตัวไปได้เลยค่ะ" ซูจิ่วเอ๋อร์พูด
หลังจากนั้นหนึ่งนาที ก็มีเสียงเอะอะโวยวายเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากหน้าประตู "เอ๋? พี่ลี่ของพวกเราไม่อยู่หรอกเหรอ?"
ซูจิ่วเอ๋อร์ "…"
ชายคนที่สร้างความรำคาญให้เธอเมื่อวานคนนั้นมาได้ยังไง?
เส้นเลือดข้างขมับซูจิ่วเอ๋อร์นั้นเต้นตุบๆขึ้นมาเล็กน้อย
เธอเงยหน้ามองไปทางเสิ่นเชียนอย่างไม่เกรงใจ "คุณมาได้ยังไง?"
เสิ่นเชียนเดินเข้ามาในห้องอย่างรู้สึกเหมือนคนคุ้นเคย เพราะว่าเป็นเพื่อนของลี่ถิงเซิ่ง บอดี้การ์ดที่อยู่หน้าประตูนั้นล้วนรู้จักเขาจึงปล่อยให้เขาเข้ามาได้
ถึงยังไงก็เป็นเพื่อนสนิทของประธานลี่ บอดี้การ์ดที่ไหนจะกล้ามาขวาง?
"ผมคิดว่าพี่ลี่จะอยู่ที่นี่เหมือนกันซะอีก วันนี้ไม่ใช่วันพักผ่อนหรอกเหรอ? ก็เลยมาดูสักหน่อยว่าพี่สะใภ้ฟื้นหรือยัง" เสิ่นเชียนพูด เขาวางของบำรุงที่ซื้อติดมือมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงผู้ป่วย "ในเมื่อพี่สะใภ้เกิดอุบัติเหตุ ก็ควรจะบำรุงเสียหน่อย ที่ผมซื้อมาล้วนเป็นของบำรุงที่ดีที่สุดทั้งนั้น รอหลังจากพี่สะใภ้ตื่นขึ้นมาต้องได้ใช้แน่ๆ!"
หลังจากเสิ่นเชียนพูดจบ สีหน้าก็ดูผิดหวังเล็กน้อย
ที่เขามาหลักๆคือต้องการมาหาพี่ลี่ ไม่คาดคิดว่าพี่ลี่จะไม่อยู่
คาดไม่ถึงว่าแอนนาก็ยังไม่ฟื้น เสิ่นเชียนมองสวี่รั่วฉิงอย่างละเอียดพร้อมคิดในใจเงียบๆ พี่ลี่นี่ก็จริงๆเลยนะ ไม่คิดว่าจะปล่อยให้พี่สะใภ้อยู่ในโรงพยาบาลนี้คนเดียว!
เวลาแบบนี้ ไม่ใช่ว่าควรจะมาอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเพื่อนพี่สะใภ้หรอกเหรอ!
ซูจิ่วเอ๋อร์อาจจะไม่รู้ว่าเสิ่นเชียนเป็นคนหนึ่งที่มีอารมณ์ความรู้สึกลึกซึ้ง เธอแค่รู้สึกว่าเขานั้นช่างเอะอะโวยวายซะเกินจะทน
แล้วพี่สะใภ้น่ะ? รั่วฉิงไปแต่งงานกับลี่ถิงเซิ่งตอนไหนกัน!
ซูจิ่วเอ๋อร์เหลือกตามองบนอย่างเงียบๆ จากนั้นเธอก็กวาดตามองพวกของบำรุงที่เสิ่นเชียนวางไว้บนชั้นวางของข้างเตียง
ทันทีหลังจากนั้น เส้นเลือดข้างขมับของซูจิ่วเอ๋อร์ก็เต้นตุบๆขึ้นมา
นายคนนี้ซื้อของมาเล่นอะไร! นี่มันเป็นของบำรุงของผู้ชายทั้งหมดเลยไม่ใช่หรือไง!
อีกนิดซูจิ่วเอ๋อร์ก็แทบจะเอาพวกของบำรุงบนโต๊ะนั้นโยนใส่หน้าเสิ่นเชียนแล้ว ถ้าหากไม่เห็นว่าสวี่รั่วฉิงนั้นยังไม่ฟื้น ไม่สามารถที่จะเสียงดังได้ ไม่เช่นนั้นเธอต้องตะโกนด่าเสิ่นเชียนให้กลับไปแล้วแน่ๆ!
ลักษณะของซูจิ่วเอ๋อร์เป็นคนตรงไปตรงมา ในใจคิดอะไรก็พูดออกมาแบบนั้น
เพียงแค่เพราะเวลานี้สวี่รั่วฉิงยังไม่ฟื้น เธอจึงไม่สามารถทำอะไรเสิ่นเชียนได้
ซูจิ่วเอ๋อร์ทำได้เพียงแค่กดอารมณ์ร้อนใจที่อยากจะเอาของที่เขาซื้อมาโยนใส่หน้าเขาเอาไว้ พร้อมพูดอย่างไม่เกรงใจ "งั้นคุณก็เลือกมาผิดเวลาแล้วล่ะ ลี่ถิงเซิ่งไม่อยู่ อีกอย่าง ของพวกนี้ที่คุณซื้อมา แอนนาใช้ไม่ได้!"
ซูจิ่วเอ๋อร์มองเสิ่นเชียนอย่างเยือกเย็น ขี้เกียจจะสนใจเขา
เดาว่าถ้าเกิดเสิ่นเชียนรู้สึกไม่มีอะไรทำแล้วก็คงจะกลับไปเอง
ตอนที่ซูจิ่วเอ๋อร์กับเสิ่นเชียนมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไร ก็มีน้ำเสียงของชายที่ค่อนข้างอ่อนโยนดังขึ้นขัดจังหวะการเผชิญหน้ากันระหว่างพวกเขา "สถานการณ์ของแอนนาเป็นยังไงบ้างแล้วครับ?"
น้ำเสียงของผู้ชายคนนั้นไม่ได้หยิ่งและไม่ได้รีบร้อน ทำให้คนที่ฟังนั้นรู้สึกดีกับเขาได้ง่ายๆ
ซูจิ่วเอ๋อร์และเสิ่นเชียนหันไปทางคนคนนั้นพร้อมกัน
คนที่มานั้นไม่ใช่ใครคนอื่นไกล คาดไม่ถึงว่าจะเป็นฉินซวี่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แฝดชายหญิง:แด๊ดดี้ต้องชนะใจหม่ามี๊นะ