เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 101

รุ่ยอ๋องทำความเคารพก่อน “ฝ่าบาท”

สายตาของเซียวอวี้ข้ามผ่านรุ่ยอ๋องไป จับจ้องไปที่ตัวเฟิ่งจิ่วเหยียน

เขาใช้น้ำเสียงออกคำสั่งพูดกับนางทันที

“เจ้า กลับไป เสด็จย่าไม่ชอบให้คนนอกมารบกวน”

เหลียนซวงหน้าชื่นอกตรม

พระนางเป็นถึงภรรยาที่ถูกต้องของฮ่องเต้ หลานสะใภ้ของไทฮองไทเฮา ไยอยู่ในคำพูดของฮ่องเต้ทรราชย์ก็กลายเป็นคนนอกไปแล้ว?

เฟิ่งจิ่วเหยียนทำความเคารพด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง

“เพคะ”

นางก็ไม่อยากมาตั้งแต่เริ่มแรกอยู่แล้ว

เมื่อเขาบอกว่าไม่ต้อง นางก็สบายอารมณ์

......

ณ ตำหนักวั่นโซ่ว

ไทฮองไทเฮานั่งอยู่ตำแหน่งหลัก ฮ่องเต้และรุ่ยอ๋องนั่งอยู่สองข้าง

นางกวาดสายตาดุดันไปด้านหน้า

“โมงยามนี้แล้ว เหตุใดฮองเฮายังไม่มาน้อมทักทายข้า?”

เซียวอวี้ตอบกลับด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง

“ฮองเฮาปากพล่อย มีแต่จะทำให้เสด็จย่าอารมณ์เสียเปล่า ๆ

“เราให้นางกลับไปแล้ว”

ไทฮองไทเฮาไม่ได้ซักถามต่อชั่วครู่

ทว่าหลังจากที่ฮ่องเต้และรุ่ยอ๋องจากไปแล้ว นางให้โจวหมัวมัวไปสืบถาม

ผ่านไปครู่เดียว โจวหมัวมัวกลับมาแล้ว

“บ่าวไปสืบถามมาแล้ว ที่แท้เมื่อวานฮองเฮาไม่สบาย มีอาการหมดสติในเวลากลางคืน

“คิดดูแล้ว ฮ่องเต้คงจะเอ็นดูฮองเฮา...”

“เขาไม่เป็นแบบนั้นหรอก” ไทฮองไทเฮามั่นใจอย่างมาก

ตามความเข้าใจที่นางมีต่อฮ่องเต้ แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่ใช่คนที่รักหยกถนอมบุปผา

......

หลังจากที่เสวยพระกระยาหารค่ำ

เฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับนกส่งสาสน์จากอู๋ไป๋

อู๋ไป๋หาน้องชายในสายเลือดของจ้าวเฉียนเจอแล้ว

หลังจากที่จ้าวเฉียนถูกจับเข้าคุกหลวงแล้ว นางก็คิดว่ากุ้ยเฟยจะลงมือกับครอบครัวของจ้าวเฉียน

อย่างไรเสียสำหรับคนที่หมดผลประโยชน์ต่อนางแล้ว ต้องกำจัดให้ถึงรากถึงโคน

ผลเป็นไปตามคาด ยามที่อู๋ไป๋หาบ้านเกิดของจ้าวเฉียนเจอ สถานที่นั้นได้กลายเป็นซากปรักหักพังไปแล้ว

หนึ่งครอบครัวหกคน ถูกเผาตายทั้งเป็นตอนหลับอยู่ในห้วงนิทรา เหลือไว้เพียงโครงกระดูกกองหนึ่ง

อู๋ไป๋เปรียบเทียบโครงกระดูก เอามารวมกันแล้วได้เพียงห้าศพ นั่นหมายความว่า ยังมีหนึ่งคนที่มีชีวิตอยู่

เขาสืบเสาะหามาโดยตลอด จนกระทั่งสองวันนี้เพิ่งได้พบ

ที่แท้ในคืนนั้น น้องชายของจ้าวเฉียน จ้าวซีดวงไม่ถึงฆาต ได้ปีนหนีออกมาจากทะเลเพลิง

ตามคำบอกเล่าของจ้าวซี จ้าวเฉียนมีสมุดบันทึกอยู่หนึ่งเล่ม ในนั้นบันทึกสิ่งที่กุ้ยเฟยให้เขาทำในหลายปีมานี้ เพียงมิรู้สมุดบันทึกนี้ถูกไว้อยู่หนใดแล้ว ทว่ามั่นใจได้ว่าจะต้องอยู่ในตำหนักหลิงเซียว...

หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเหยียนอ่านจดหมายลับจบ แววตาเรียบนิ่งแฝงไปด้วยความเยือกเย็น

หากที่จ้าวซีพูดทั้งหมดเป็นความจริง เช่นนั้น มีสมุดบันทึกนั้น เป็นก้าวสำคัญในการตัดสินโทษของกุ้ยเฟย

ทว่า ถ้าอยากหาสมุดให้เจอ ก็ต้องเข้าไปในตำหนักหลิงเซียว

ทว่าตราบใดที่กุ้ยเฟยยังอยู่ที่ตำหนักหลิงเซียว ฮ่องเต้ก็มักจะเสด็จไปบ่อยครั้ง มีการป้องกันรักษาหนาแน่นเป็นพิเศษ อุปสรรคก็ยากเข้าไปอีก

เฟิ่งจิ่วเหยียนเคาะนิ้วบนโต๊ะสองสามครั้งอย่างไม่รู้ตัว

หนทางที่เป็นไปได้ ก็คือให้กุ้ยเฟยย้ายออกจากตำหนักหลิงเซียว

ขณะที่นางกำลังคิดจุดสำคัญของเรื่องนี้ ริ้วขบวนเสด็จของฮ่องเต้ก็มาถึงตำหนักหน่งเหออย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

......

เห็นฮองเฮาไม่แยแสใส่ใจ ไร้ซึ่งการกระทำฉุดรั้งใด ๆ ทั้งสิ้น

นี่เย็นชาเกินไปแล้ว

หารู้ไม่ว่าหลังจากที่ฮ่องเต้ออกไปแล้ว แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นกว่าเดิมเสียอีก

เหลียนซวงโมโหเพราะความอยุติธรรม

“กุ้ยเฟยเป็นแบบนี้ไปแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าฮ่องเต้ยังจะโปรดปรานเช่นนี้เอง”

เฟิ่งจิ่วเหยียนแววตาเย็นชาพูดเสียงเบา

“โปรดปรานเช่นนี้ คงไม่ใช่จะเป็นเพียงหน้าตาของนางแล้วล่ะ

“ช่างแปลกประหลาดเสียจริง”

และนึกถึงหลายคราที่กุ้ยเฟยได้เคยลั่นวาจาอย่างมั่นใจไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นางก็จะไม่มีทางสูญเสียความโปรดปรานไป ถึงขั้นพูดว่า ฮ่องเต้พลากจากนางไปไม่ได้

ในเวลาสั้น ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนหรี่ตาลง

นอกจากใบหน้าที่คล้ายคลึงกับหรงเฟยนั้น ฮ่องเต้ยังถูกใจอะไรในกุ้ยเฟยอีก?

ณ ตำหนักหลิงเซียว

แตกต่างจากความเย็นชาของฮองเฮา แม้กุ้ยเฟยยังบาดเจ็บหนักอยู่ ก็มารับที่ประตูทางเข้าด้วยตัวเอง

“ฝ่าบาท หม่อมฉันกำลังเสวยพระกระยาหารค่ำ ท่านก็มาแล้ว”

เซียวอวี้ถามเสียงเคร่งขรึม

“บาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง”

กุ้ยเฟยเผยรอยยิ้มอย่างพอใจ

“มีความห่วงใยของฝ่าบาท หม่อมฉันฟื้นฟูได้เป็นอย่างดีเพคะ”

ความเป็นจริงแล้ว ทุกค่ำคืนนางเจ็บปวดจนต้องตื่นมาหลายหน ยามค่ำคืนไม่สามารถนอนได้

เซียวอวี้มองนาง น้ำเสียงไม่เยือกเย็นเหมือนพูดกับผู้อื่น

“คืนนี้เราจะค้างที่ตำหนักหลิงเซียว”

กุ้ยเฟยดีใจจนออกนอกหน้า “เพคะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย