เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 102

วันรุ่งขึ้น ฟ้าเพิ่งสว่าง กุ้ยเฟยก็ตื่นบรรทมแล้ว

ในตำหนักไร้ซึ่งร่างเงาของฮ่องเต้ สายตาของนางพลันปรากฎความเศร้าสร้อย

ชุนเหอแขวนม่านมุ้งขึ้น ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม

“ยินดีกับพระนางที่ฮ่องเต้ไม่ตัดขาดความโปรดปราน

“เช้าวันนี้ก่อนฮ่องเต้เสด็จออกไปได้ทรงรับสั่งให้บ่าว ปรุงแกงไก่ใส่โสมบำรุงร่างกายให้ท่าน พระนาง บ่าวบังอาจกล่าวถาม เมื่อคืนท่าน...ได้ปรนนิบัติแล้วงั้นหรือ?”

ฮ่องเต้โปรดปรานพระนางเป็นเรื่องที่ดี ทว่าแผลสาหัสของพระนางยังไม่หายดี ไม่ควรที่จะปรนนิบัติ

ชุนเหอกังวลใจอย่างเลี่ยงไม่ได้

กุ้ยเฟยไม่ได้ตอบกลับ “น้ำ”

ตอนที่ชำระร่างกาย ชุนเหอกล่าวว่า

“ไทฮองไทเฮากลับวังมาไม่ถึงสองวัน ก็จะไปภูเขาอวี้หยางอีกแล้ว พระนาง ท่านจะไปส่งเสด็จหรือไม่เพคะ?”

กุ้ยเฟยยิ้มอย่างเยือกเย็น แววตาเปี่ยมไปด้วยความแค้นเคือง

“ส่งเสด็จ? ไปส่งศพเสียมากกว่า!

“เดิมทีคิดว่านางจะสามารถลงมือจัดการเฟิ่งจิ่วเหยียน แต่นางกลับส่งเสริมให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาร่วมเรือนหอ นางอายุมากจนเลอะเลือน อายุขนาดนี้แล้ว ยังจะมีชีวิตอยู่ไปทำไมกัน!”

ชุนเหอมองไปด้านนอกตำหนักด้วยความระแวดระวัง เกรงว่าคำพูดเมื่อครู่จะถูกใครได้ยิน

“พระนาง กล่าวเช่นนี้ไม่ได้นะเพคะ”

ตำหนักหลิงเซียวในตอนนี้ไม่เหมือนก่อนแล้ว

นับตั้งแต่ที่ฮองเฮาครอบครองตราประทับทอง สาวใช้ขันทีก็สับเปลี่ยนไปกลุ่มหนึ่งแล้ว

ถึงแม้ว่าคนที่ปรนนิบัติในตำหนักยังคงเป็นคนของตนเอง ทว่ายากที่จะยืนยันได้ว่าหน้าต่างมีหูประตูมีช่อง

กุ้ยเฟยกล่าวถามด้วยสีหน้าเย็นเยียบ

“เรื่องที่ข้ามอบหมายให้ มีความคืบหน้าเยี่ยงไรแล้ว?”

ชุนเหอกล่าวตอบ

“พระนางวางใจเถิดเพคะ ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาของกองกำลังรักษาคุ้มกันเขตพระราชฐานแล้ว พี่ชายของฮองเฮาผู้นั้นเป็นเพียงแค่เจ้านครฝ่ายซ้ายขั้นเก้า การพูดแค่สองสามประโยคจากผู้บังคับบัญชาก็สามารถสร้างความวุ่นวายให้เขาได้แล้ว”

......

ณ จวนตระกูลเฟิ่ง

หลังจากทราบข่าวว่า ในที่สุดฮ่องเต้และฮองได้ร่วมเรือนหอแล้ว นายท่านเฟิ่งปลื้มปิติเป็นอย่างมาก

เขาพักผ่อนยามค่ำคืนในห้องของภริยา ร่ำสุรามากกว่ายามปกติสองสามจอก จับมือฮูหยินเฟิ่งพูดอย่างไม่หยุดหย่อน

“...ข้ารู้อยู่แล้วว่านางมีฝีมือ!

“ดีเลย! เพียงแค่พยายามอย่างหนักต่อไปอีกเสียหน่อย ตั้งครรภ์ราชโอรสทีเดียว ตำแหน่งฮองเฮานี้ก็มั่นคงแล้ว!

“ฮูหยิน ครั้งหน้าที่เจ้าเข้าวัง นำยาบำรุงช่วยในการตั้งครรภ์ไปให้ฮองเฮามากเสียหน่อย ต้องให้นางดื่มเข้าไปเยอะ ๆ!”

ถึงแม้ฮูหยินเฟิ่งก็ยินดีกับเรื่องนี้เช่นกัน ทว่าสิ่งที่ตามมาคือความวิตกกังวล

อุปนิสัยของจิ่วเหยียนแตกต่างจากเวยเฉียง จะเต็มใจยินยอมอยู่ในวังให้กำเนิดบุตรสั่งสอนบุตรีให้ฮ่องเต้ไปทั้งชีวิตรึ ?

อีกอย่าง ช่วงนี้เหยียนเฉินก็มีเรื่องกวนใจเล็กน้อย ไม่ทราบว่ากุ้ยเฟยเป็นคนยุยงให้ทำหรือไม่

สองสามปีมานี้ลูกคนนั้นยิ่งโตยิ่งเงียบขรึม ถามอะไรไปเขาก็ไม่พูด

นางรู้เพียงแค่ว่าทุกค่ำคืนเขาจะบาดเจ็บทั้งเรือนร่างกลับมา

เกรงว่านายท่านเฟิ่งจะคิดมาก ฮูหยินเฟิ่งจึงไม่กล้าพูดออกไปมากมาย

อีกฝั่งหนึ่ง ณ อุทยานอี๋ชิง

อี๋เหนียง[1]หลินโมโหจนกัดฟันแน่น ฉีกพัดในมือเป็นสองท่อน ก็ยังคงรู้สึกว่าอึดอัดใจ

“ฮ่องเต้ไม่ใช่โปรดปรานกุ้ยเฟยเป็นพิเศษหรอกหรือ เขาจะโปรดปรานเฟิ่งเวยเฉียงได้อย่างไร?”

สาวใช้กล่าวเตือนด้วยความกังวล

“อี๋เหนียง ตอนนี้คุณหนูใหญ่เป็นฮองเฮา ไม่สามารถเรียกชื่อโดยตรงได้แล้วนะเพคะ”

“ส่วนเฟิ่งเวยเฉียงนั้นก็ยิ่งไร้ประโยชน์เข้าไปใหญ่!

“นิสัยของนาง ข้ารับรองว่าใช้ชีวิตในวังได้ไม่เกินสามปี คนในวังล้วนเป็นคนเช่นไร นางจะสามารถสู้กับพวกนางไหวหรือ?”

คำพูดของเขาเปี่ยมไปด้วยการดูถูกเหยียดหยาม ยกตนข่มท่าน

หลังจากนั้น เขาก็พูดอย่างภาคภูมิใจมาก

“ข้าไปเรือนบุปฝา ไม่เพียงแต่เป็นการไปแสวงความรื่นรมย์ นั้นเป็นการสานขยายสายสัมพันธ์!

“ราชทูตรัฐเหลียงจวนจะมาแล้ว กำลังขาดทูตส่งสาส์น ข้าพอหาลู่ทางได้แล้ว!”

ดวงตาของอี๋เหนียงหลินเปล่งประกายทันที

“จริงหรือ? คงจะไม่ได้โกหกเจ้าหรอกกระมัง?”

เฟิ่งหมิงเซวียนสีหน้ามั่นใจ “เป็นไปมิได้! ข้าจ่ายเงินไปมากมายขนาดนั้นเชียวนะ!”

อี๋เหนียงหลินเป็นคนละเอียดรอบคอบ กล่าวแนะนำ “พรุ่งนี้ข้าจะไปไถ่ถามพ่อเจ้าว่า ขาดทูตส่งสาส์นจริงหรือไม่ เจ้าก็ต้องระวังตัวด้วย อย่าเชื่อใจคนอื่นง่าย ๆ”

วันถัดมา เมื่อไปถามเป็นเรื่องจริง

อี๋เหนียงหลินอยากให้นายท่านเฟิ่งแนะนำลูกชายตนเอง กลับได้รับความรังเกียจจากนายท่านเฟิ่ง

“อย่างเขานั้น อยู่บ้านทำตัวดี ๆ ก็ใช้ได้แล้ว เป็นทูตส่งสาส์นอะไรกัน เขามองนิสัยของราชทูตรัฐเหลียงออกงั้นหรือ? เอาเถอะ อย่าให้เขาไปก่อความวุ่นวาย!”

เมื่อเฟิ่งหมิงเซวียนได้ยินบิดาดูถูกตนเองเช่นนี้ พูดโผงผางออกมา

“เช่นนั้นก็ยังเก่งกว่าพี่ใหญ่ เช้าวันนี้ข้าเห็นเขาถูกองค์รักษ์หลวงดุด่าอย่างรุนแรงต่อหน้าสาธารณชน คนไม่เอาไหน! ทำให้ตระกูลเฟิ่งของพวกเราอับอายขายขี้หน้า!”

หลังจากฮูหยินเฟิ่งได้ยินแล้ว ลนลานหันซ้ายหันขวา

ไม่สามารถให้เหยียนเฉินตกเป็นเป้าหมายอีกต่อไปแล้ว

นางต้องไปหาจิ่วเหยียน ไปขออภัยกับกุ้ยเฟย...

[1] อี๋เหนียง อนุภรรยา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย