เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 104

ภายในตำหนักหย่งเหอ เซียวอวี้สีหน้าเคร่งขรึมประทับนั่งอยู่บนเก้าอี้ สายตาเย็นยะเยือก ถามเฟิ่งจิ่วเหยียนเชิงตำหนิ

“หากไม่ใช่ว่าเราบังเอิญเจอวันนี้ ก็ไม่ทราบว่าเจ้าแอบดื่มยานี้ด้วย”

เฟิ่งจิ่วเหยียนสีหน้าเรียบนิ่ง กล่าวตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน

“ยานี้ท่านแม่ของหม่อมฉันส่งมาให้ นางไม่ทราบเรื่องเบื้องลึกการร่วมเรือนหอ หม่อมฉันกำลังจะสั่งให้เหลียนซวงไปจัดการเสียเพคะ”

นางปฏิเสธรวดเร็วเช่นนี้ ทำให้คนสังเกตร่องรอยการกล่าวโป้ปดไม่ได้แม้แต่น้อย

เซียวอวี้มองนางอย่างพินิจพิเคราะห์ แววตาเย็นยะเยือก

“ทางที่ดีเจ้าอย่าได้คิดเป็นอื่น”

จากนั้น เขาทรงรับสั่งตามหน้าที่

“ราชทูตรัฐเหลียงจวนจะเสด็จมาเยี่ยมเยือน จะมีการจัดงานเฉลิมฉลองต้อนรับ

“ก่อนหน้านั้นกุ้ยเฟยเป็นผู้จัดการ ทว่าเพลานี้นางบาดเจ็บสาหัส เราจึงส่งมอบต่อให้เจ้า

“จำไว้ด้วย เรื่องนี้เกี่ยวเนื่องกับสัมพันธภาพระหว่างสองแคว้น อย่าให้เกิดข้อผิดพลาดใด ๆ ได้ทั้งสิ้น!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อย

คนของรัฐเหลียงหน้าไหว้หลังหลอก วาจากลับกลอก

การเสด็จมาเยือนแคว้นหนานฉีของราชทูตรัฐเหลียงครั้งนี้ จะต้องมีการต่อสู้แก่งแย่งชิงกันอีกเป็นแน่

ทว่า เหล่าขุนพลก็ได้ต่อสู้และชนะในสนามรบทั้งหมดแล้ว ลำดับถัดไป ก็เป็นเหล่าขุนนางฝ่ายบุ๋นที่ต้องกังวลใจ

“เพคะ หม่อมฉันจะพยายามจัดการเป็นอย่างดี”

อีกด้านหนึ่ง

กุ้ยเฟยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจเช่นกัน

“ฮูหยินเฟิ่งเสด็จเข้าวัง?”

ชุนเหอกล่าวตอบ “ใช่เพคะ พระนาง ต้องมาด้วยเรื่องคุณชายคนโตตระกูลเฟิ่งเป็นแน่ ตอนนี้ฮองเฮาคงจะลนลานแล้ว ได้รับรู้ว่าหากเป็นปฏิปักษ์กับท่าน จะมีจุดจบเยี่ยงไร คาดว่าไม่นานคงจะมาก้มหัวขออภัยกับท่านอย่างแน่นอน”

ถึงแม้ว่าบุตรสาวที่ออกเรือนแล้ว เสมือนน้ำที่สาดออกไป ทว่าหลังแต่งแล้ว ก็ยังต้องมีการพึ่งพาบิดาและพี่ชายของตระกูลมารดาอยู่บ้าง

พี่คนโตที่มารดาเดียวกันเกิดเรื่อง ฮองเฮาต้องกระวนกระวายใจเป็นแน่

ดังนั้น ชุนเหอจึงมั่นใจว่า ภายในวันนี้ฮองเฮาจะต้องมากล่าวขอโทษอย่างแน่นอน

หากไม่มา เฟิ่งเหยียนเฉินคงได้ถูกกลั่นแกล้งต่อไปตลอด

กุ้ยเฟยเฝ้ารอการมาเยือนของฮองเฮา

ทว่า ฮูหยินเฟิ่งได้ออกจากวังไปสองชั่วยามแล้ว ยังไม่ได้ข่าวการมาตำหนักหลิงเซียวของฮองเฮา

กุ้ยเฟยนั่งไม่ติด หน้านิ่วคิ้วขมวด

“ตระกูลเฟิ่งไม่แยแสอนาคตของลูกชายคนโต เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ไม่สนใจพี่ชายคนโตของนางงั้นหรือ!”

ชุนเหอไม่เข้าใจเช่นกัน

ฮองเฮาคงไม่ใจอำมหิตถึงเพียงนี้หรอกกระมัง?

กุ้ยเฟยกัดฟันแน่น ดวงตาคู่งามเปี่ยมไปด้วยความเย็นยะเยือกอันดุร้าย

“ไปบอกองครักษ์หลวงนั้นอีกครั้ง ให้ทรมานต่อไป! ลงมือให้หนัก!”

“ข้าจะคอยดู เฟิ่งเหยียนเฉินจะทนได้ถึงเมื่อใด ตระกูลเฟิ่งและฮองเฮาจะทนดูต่อไปนานเพียงใด!”

“เพคะ!”

กรมองครักษ์เขตพระราชฐาน

ถึงโมงยามที่ต้องลาดตระเวน องครักษ์หลวงมอบหมายต่อให้เฟิ่งเหยียนเฉิน

“อีกสองสามวัน ราชทูตรัฐเหลียงจะเดินทางมาถึง เบื้องบนรับสั่งให้เพิ่มกำลังลาดตระเวน ตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ข้าได้ข่าวมาว่าคืนนี้จะมีคนปลอมตัวเข้าเมือง เจ้าจงรีบไป พาพวกเขากลับมาสืบสอบอย่างเข้มงวด!”

เฟิ่งเหยียนเฉินพยักหน้ารับ จากนั้นนำลูกน้องสองคนมุ่งหน้าไปที่ประตูเมือง

ณ ทางเข้าประตูเมือง

ลูกน้องสองคนนั่งจิบชาอยู่ตรงมุม

สีหน้าของเฟิ่งเหยียนเฉินซีดเล็กน้อย กำหมัดแน่น

ลูกน้องสองคนของเขาเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี ลนลานรีบแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเอง

“ท่านองครักษ์หลวง พวกเราโน้มน้าวเจ้านครฝ่ายซ้ายแล้ว ทว่าเขาไม่ฟัง!”

“ใช่แล้วใต้เท้า เจ้านครฝ่ายซ้ายยังคงดื้อดึง พวกเราสองพี่น้องไม่มีความผิด...”

อัครเสนาบดีทราบว่าผู้นี้เป็นพี่ชายคนโตของฮ่องเฮา เพื่อหลีกเลี่ยงมีปัญหาตามมา จึงพาบุตรีจากลาไป

หลังจากที่เขาจากไป องครักษ์หลวงยกแขนขึ้นตบหน้าเฟิ่งเหยียนเฉินไปหนึ่งที

เพียะ!

ตบคนไม่ตบหน้า นี่จะทำให้คนอับอายที่สุด

ศีรษะของเฟิ่งเหยียนเฉินหันไปด้านข้าง ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย

องครักษ์หลวงออกคำสั่ง: “ถอดเสื้อผ้าขุนนางเจ้านครฝ่ายซ้ายเขาออก! เนรเทศออกไป! คนไร้ค่าเช่นนี้ เขตพระราชฐานไม่ต้องการแล้ว!”

......

ณ พระราชวัง ตำหนักหย่งเหอ

เฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับจดหมายจากอู๋ไป่ ทราบเรื่องที่เฟิ่งเหยียนเฉินถูกปลดออกจากตำแหน่ง

นางสายตาเย็นชา จดหมายในมือกลับกลายเป็นผุยผงอย่างเงียบเชียบ

เหลียนซวงกล่าวถามอย่างกังวล

“พระนาง ท่านชายใหญ่เสียตำแหน่งไปแล้ว เกรงว่านายท่านฮูหยินคงจะกระวนกระวายใจอย่างมาก”

เฟิ่งจิ่วเหยียนพูดเสียงเยือกเย็น

“ก็แค่ตำแหน่งเจ้านครฝ่ายซ้าย จะเสียก็เสียไป”

ขอเพียงแค่เขายินยอม นางก็สามารถทำให้เขากลับอยู่ในตำแหน่งที่สูงได้

เพราะว่าความจริงของเรื่องในปีนั้น นางสืบสอบจนกระจ่างแล้ว...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย