เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 109

ความจริงแล้ว ในเมื่อราชทูตขานชื่อพี่น้องตระกูลเฟิ่ง พวกเขาทำได้เพียงยอมรับ

แม้กระทั่งเซียวอวี้ที่เป็นฮ่องเต้ ก็ปฏิเสธแทนพวกเขาไม่ได้

ตามที่เขาทราบมา สองพี่น้องตระกูลเฟิ่งนี้

น้องรองเป็นแค่น้องชายที่ทำตัวเสเพลคนหนึ่ง

สำหรับเฟิ่งเหยียนเฉินนั้น เมื่อเป็นชายหนุ่มมีผลงานล้ำเลิศจริง ทว่าไม่นานนักก็สูญสิ้นความสามารถ และถูกผู้คนลืมเลือน อย่างไรก็ตาม จอหงวนฝ่ายบู๊ก็มีทุกปี ต่อให้ความสามารถทางการต่อสู้จะเก่งกาจเพียงใด ทำคุณูปการอันใดไม่ได้ ก็จะถูกทิ้งขว้างดั่งสิ่งของไร้ค่า

การต่อสู้กับขวยโต่วครั้งนี้ เซียวอวี้ไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาชนะอยู่แล้ว

ในทางตรงกันข้าม การประลองสองรอบแรกยอมอ่อนข้อให้รัฐเหลียงไม่ใช่เรื่องเสียหายอันใด

เพียงแค่คนที่จะประลองต่อจากสองพี่น้อง สามารถประลองโจมตีให้ขวยโต่วพ่ายแพ้ เอาชนะรอบสุดท้ายมา แคว้นหนานฉีก็สามารถรักษาความมีน้ำใจของเจ้าบ้านและไม่อับอายขายหน้า

เขารับสั่งกับข้าหลวง

“พาพวกเขาไปเตรียมตัว”

“น้อมรับคำสั่งพ่ะย่ะค่ะ!”

เฟิ่งหมิงเซวียนได้ยินดังนั้น ตกใจจนขาอ่อนแทบจะเดินไม่ไหวทันที

นี่ ๆ ...นี่จะต้องเข้าสู่สนามประลองหรือ?

ไม่!

เขาไม่อยากตาย!

เขาคิดที่จะปฏิเสธ ทว่าเผชิญสายตาที่เย็นยะเยือกของฮ่องเต้ เขาก็กลืนคำพูดลงไป

ต่อให้เขาจะโง่เพียงใด ก็ทราบดีว่าหากปฏิเสธตอนนี้ ในอนาคตอยากจะเลื่อนตำแหน่งคงจะเป็นไปได้ยาก

ต่อให้พ่ายแพ้ อย่างน้อยเขาก็สามารถสร้างความประทับใจที่ดีให้กับฮ่องเต้ได้

ได้รับเกียรติจากการพ่ายแพ้และยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้ต่อสู้ ความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิง

หลังจากพี่น้องตระกูลเฟิ่งไปเตรียมตัว กุ้ยเฟยกล่าวเสนอด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ฝ่าบาท สองคนต่อยตีกันไปมา คงจะดูโหดร้ายทารุณไม่น้อย

“หม่อมฉันทราบมาว่าที่ชนเผ่าหม่าหยาจะมีการแข่งขันมวยปล้ำทุกปี ผู้แข่งขันมวยปล้ำจะใส่หน้ากาก ไม่เพียงเพื่อให้ตระการตามากขึ้นเท่านั้น ยังเชื่อว่าหน้ากากสามารถช่วยให้พวกเขาสื่อสารกับเทพเจ้าที่แท้จริงประทานพละกำลังแก่พวกเขาได้

“การประลองในวันนี้ ตั้งใจเน้นความสนุกสนานเป็นหลัก สู้เลียนแบบชนเผ่าหม่าหยา ให้พวกเขาสวมหน้ากาก พร้อมให้ข้าหลวงตีกลองเสริมบรรยากาศ ดีหรือไม่?”

ด้วยวิธีเช่นนี้ ต่อให้พี่น้องตระกูลเฟิ่งถูกต่อยจนใบหน้าฟกช้ำ ขอความเมตตา ขอลงจากสนาม ก็ไม่สามารถถอยได้ ทำได้เพียงถูกต่อยตีอย่างน่าเวทนาทั้งเป็น อาจถึงขั้นถูกต่อยตีจนวายชนม์!

กุ้ยเฟยคิดว่าไม่มีใครทราบความคิดของนาง

ความเป็นจริงแล้ว เฟิ่งจิ่วเหยียนมองนางออกอย่างทะลุปรุโปร่ง

การประลองที่สวมหน้ากาก ผนวกรวมกับเสียงกลอง เจอผู้ที่อ่อนพละกำลังยากที่จะเอาชนะ จะเป็นการส่งคนไปสู่ความตาย!

ช่างเป็นวิธีที่โหดเหี้ยมอำมหิต

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดแทรก มองไปทางเซียวอวี้

ฮ่องเต้ย่อมสนองความปรารถนาของกุ้ยเฟยทุกอย่าง ตกปากรับอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย

“ทำตามที่กุ้ยเฟยกล่าว”

ในสนามประลอง มีเพียงนายท่านเฟิ่งที่จิตใจรุ่มร้อนดั่งไฟสุม

บุตรชายสองคนของเขาถูกลากเข้าไปประลองแล้ว หากมีคนใดคนหนึ่งพลั้งพลาดไป ก็ไร้ซึ่งผู้สืบสกุลแล้ว!

เหตุใดไม่ให้คนอื่นไป ดึงดันให้บุตรชายของเขาไป?

......

สองพี่น้องตระกูลเฟิ่งแยกกันเปลี่ยนอาภรณ์คนละที่ สวมเกราะป้องกัน

เฟิ่งหมิงเซวียนลงสนามคนแรก ถูก “ลาก” ออกไปก่อน

เฟิ่งเหยียนเฉินยังคงรออยู่ในห้อง

ทันใดนั้น เหลียนซวงก็เข้ามาหา

นางทำตัวอย่างลี้ลับ มากระซิบเสียงเบา

“คุณชายใหญ่ พระนางให้บ่าวมาบอกท่านว่า อีกประเดี๋ยวที่ท่านสู้กับขวยโต่ว ท่านไม่จำเป็นสู้หน้าตรงกับเขา ต้องโจมตีเข่าขวาของเขา...”

เฟิ่งเหยียนเฉินประหลาดใจเล็กน้อย

“ฮองเฮาทราบชัดเรื่องนี้ได้เยี่ยงไร?”

เหลียนชวงแต่งเรื่องโกหก: “พระนางรับผิดชอบงานเลี้ยงต้อนรับ สืบข่าวเบื้องลึกของเหล่าราชทูตรัฐเหลียงมาก่อนแล้ว ดังนั้นจึงทราบเรื่องของขวยโต่วผู้นั้นด้วย คุณชายใหญ่ ท่านจงจำไว้ เพียงแต่ปฏิบัติตามที่พระนางบอก ท่านต้องชนะอย่างแน่นอนเพคะ!”

คุณชายใหญ่ศิลปะการต่อสู้แข็งแกร่ง ในตอนนี้ก็ทราบจุดอ่อนของขวยโต่ว อยากจะชนะไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน

เฟิ่งเหยียนเฉินขมวดคิ้วเป็นเส้นตั้ง

ถึงแม้จะไม่รู้ว่า เหตุใดไม่เหมือนกับแผนที่ฮองเฮาพูดก่อนหน้านี้ อยู่ ๆ ก็ต้องการให้เขาลงสนามประลอง ทว่าเขาก็ควรลองเชื่อใจนาง

เขาเพียงแค่เสียใจเล็กน้อย เมื่อวานเขาไม่ควรไปมีเรื่องกับเซวียฉือ

ราคาของเราเพียงแค่ 1/4 ของผู้ให้บริการรายอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย