เมื่อวานเฟิ่งเหยียนเฉินได้รับบาดเจ็บจากพวกเซวียฉือ แขนขวาออกแรงไม่ได้ชั่วคราว
หากเขาขึ้นเวทีประลองด้วยสภาพเช่นนี้ จะต้องถูกขวยโต่วโต้กลับอย่างแน่นอน
เฟิ่งจิ่วเหยียนแววตาเย็นยะเยือก
เวลานี้ บนเวทีประลอง เฟิ่งหมิงเซวียนยังคงถูกขวยโต่วต่อยตีอย่างทารุณ
ผู้ใดชนะผู้ใดพ่ายแพ้ มองปราดเดียวก็ทราบชัด
เหล่าเสนาบดีแคว้นหนานฉีต่างรู้สึกอับอาย
อย่างไรก็ตามคุณชายรองตระกูลเฟิ่งนี้ก็ฝึกจากอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ไยถูกต่อยตีจนไร้ทางสู้กลับเช่นนี้?
ช่างน่าอายเหลือเกิน!
นายท่านเฟิ่งก้มหน้า พยายามทำตัวไม่ให้โดดเด่นอย่างเต็มกำลัง
ขวยโต่วนั้นเก่งกาจเช่นนี้ วันนี้ตระกูลเฟิ่งของเขาอับอายเป็นอย่างมาก!
อยากจะขุดหลุมหมุดผืนพสุธาเสียจริง
ตุ้บ!
เฟิ่งหมิงเซวียนถูกโยนลงจากเวที ท้ายที่สุดก็หมดสติไป
หน้ากากยังคงอยู่บนหน้าเขาอย่างสมบูรณ์ไร้ความเสียหาย
ข้าหลวงรีบพาตัวเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ถึงแม้นายท่านเฟิ่งจะเป็นห่วง ทว่าก็ไม่กล้ารุดหน้าเข้าไปถามตอนนี้
ขวยโต่วที่อยู่บนเวทีฮึกเหิมดวงตาแดงก่ำ ใช้กำปั้นทุบอกตนเองดั่งชะนีแขนยาว คำรามด้วยความเดือดดาล
“ยังไม่พอ! มีผู้ใดอีก!”
เขาราวกับผู้ล่า สายตามองไปที่เหล่าขุนพลด้านล่างเวที
“มีใครอีก! ขึ้นมา!”
เหล่าขุนพลเดือดดาลอย่างมาก
ขวยโต่วนี้จะกำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!
กุ้ยเฟยจงใจกล่าวเตือน
“ฝ่าบาท ตกลงกันว่าให้คุณชายใหญ่ตระกูลเฟิ่งขึ้นเวทีลำดับที่สอง เขาอยู่ที่ใดกัน?”
หูเอ่อร์ต๋ายกเคราสองข้างขึ้น
ยังต้องถามอีกหรือ? คงจะหวาดกลัวจนสติแตกกระเจิงไปแล้ว!
ดวงตาลึกล้ำของเซียวอวี้ปรากฏความเย็นยะเยือก
“เฟิ่งเหยียนเฉินอยู่ที่ใด!”
ไม่นานนัก ขันทีคนหนึ่งรุดหน้ามากราบทูล
“ฝ่าบาท คุณชายใหญ่เฟิ่งไม่สบายกายกะทันหัน ต้องการพักฟื้นระยะหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”
กุ้ยเฟยหันไปมองโดยรอบอย่างไม่รู้ตัว สีหน้าพลันเปลี่ยนไป
ไยไม่เห็นฮองเฮา?
คงจะไม่ใช่เพราะเห็นสภาพเช่นนั้นของเฟิ่งหมิงเซวียน ตกใจกลัวไปแล้วหรอกกระมัง
การที่เฟิ่งเหยียนเฉินถ่วงเวลาไม่ลงสนาม คงจะไม่ใช่ความคิดของฮองเฮาหรอกกระมัง!
คิดจะหนี?
ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอก!
กุ้ยเฟยแววตาเยือกเย็น ดั่งลูกธนูอาบพิษ
“ฝ่าบาท คุณชายใหญ่ตระกูลเฟิ่งคงจะไม่ได้จงใจแกล้งป่วย รออีกประเดี๋ยวดีหรือไม่เพคะ?”
ทว่าขวยโต่วไม่มีความอดทนนี้
ไร้ผู้คนต่อสู้กับเขา อารมณ์ของเขาหงุดหงิดฉุนเฉียว
บัดนี้ เขาโอบเสาไม้ข้างเวทีประลองใช้แรงทีเดียว ถอนทั้งเสาออกมาได้
ตุ้บ!
เขาโยนเสาไม้ลงไปจากเวที คำรามเสียงดัง
“มีใครอีก! แคว้นหนานฉี ไม่มีใครกล้าขึ้นมารึ! อะไรกัน?”
ผู้ชมห่างไกลเวทีเกินไป เขาสุ่มชี้ไปที่เหล่าขันทีที่ดูแลเวทีด้านล่างเหล่านั้น
“เจ้า! ขึ้นมา! มาสู้กับข้า! ”
เหล่าขันทีจะเป็นคู่ต่อสู้เขาได้อย่างไรกัน รีบร้อนก้มหน้า ไม่สบตาใด ๆ ทั้งสิ้น
เหล่าขุนนางแคว้นหนานฉีได้ยินดังนี้ สิ่งแรกที่คิดได้ก็คือ เป็น“การต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรม”
เหล่าราชทูตรัฐเหลียงล้วนเห็นดีเห็นงามด้วย
“ขึ้นไปพร้อมกันจึงทำให้สนุก!”
หลังจากนั้น สามขุนพลแคว้นหนานฉีขึ้นเวทีพร้อมกัน
พวกเขายืนอยู่คนละมุม วางแผนจะรุมโจมตีขวยโต่ว
สองหมัดยากจะสู้สี่มือดังคาด
เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้ขวยโต่วไม่ได้สู้ง่ายดายเหมือนสองรอบแรก
สมาธิของเขาถูกแยกออก
เหล่าขุนนางแคว้นหนานฉีตะโกนส่งเสียงไม่หยุด
หูเอ่อร์ต๋ายังคงมั่นใจเต็มเปี่ยม
กุ้ยเฟยไม่มีสมาธิจดจ้องดูการประลองรอบนี้ นางสนใจเพียงว่าเฟิ่งเหยียนเฉินจะขึ้นเวทีเมื่อใด
ดังนั้น นางจึงส่งคนไปเร่งเร้าทันที
......
ในช่วงต้นที่การประลองรอบสองเริ่มขึ้น เฟิ่งจิ่วเหยียนก็มาตรวจสอบแขนเฟิ่งเหยียนเฉินด้วยตนเองที่ตำหนักข้าง
เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ได้พบน้องสาวนาน ความรู้สึกที่มีต่อนางซับซ้อน
ทั้งถวิลหาและรู้สึกผิด
หากเขามีความสามารถปกป้องนางได้ นางก็คงไม่ถูกกลั่นแกล้งในวัง
“ฮองเฮา บาดแผลนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด ให้ข้าลงสนาม...”
“ไม่ได้” เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวขัดคำพูดเขาด้วยเสียงเรียบนิ่ง
เขาได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อและกระดูกแล้ว
ต่อให้ฝืนต่อไป ก็สามารถใช้พละกำลังได้สี่ส่วนเท่านั้น
จะต่อสู้กับขวยโต่ว ต้องมีพละกลังเต็มสิบส่วนเท่านั้นจึงจะเอาชนะได้!
หากลงสนามไปก็ไม่สามารถเอาชนะได้ เช่นนั้นจะมีประโยชน์อันใด?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...