เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 116

เงาร่างสูงของเซียวอวี้ แทบบดบังแสงแดดตรงข้างประตู

บนโต๊ะภายในห้องมีหน้ากากทาสคุนหลุนใบนั้นวางอยู่

บนใบหน้าหล่อเหลาผอมเรียวของเซียวอวี้ ปกคลุมไปด้วยความดุร้าย สายตาจับจ้องมองดูเงาร่างข้างหลังม่าน

เขาต่อสู้กับนักฆ่าสาวคนนั้นหลายครั้ง

กระบวนท่าของนาง ฝังแน่นอยู่ในความจำลึกล้ำของเขา

การเคลื่อนไหวหลายอย่างของเฟิ่งเหยียนเฉินเมื่อกี้นั้น เป็นเหมือนกับนางอย่างมาก!

เป็นเรื่องบังเอิญหรือไม่ เขาต้องมายืนยันด้วยตาตนเอง!

ภายใต้ชุดคลุมมังกร ชายหนุ่มก้าวเท้ายาวออกไปอย่างรวดเร็ว

เขาเดินเข้าไปในอีกทางด้านหนึ่งของม่าน เอื้อมแขนยาวออกไป…

วินาทีนั้น สายตาสองคู่ประสานกัน

เฟิ่งเหยียนเฉินถูกคว้าจับแขน เผยไหล่ขวาออกมาครึ่งหนึ่ง: ! ?

“ถวายบังคมฝ่าบาท!”

เฟิ่งเหยียนเฉินไม่ทันได้ดึงอาภรณ์ขึ้น รีบก้มศีรษะถวายบังคมก่อน

คิ้วเข้มเยือกเย็นชาของเซียวอวี้ ขมวดชนกันแน่นเป็นเส้นตรง ดวงตาทั้งคู่ดำเข้ม เหมือนเมฆครึ้มก่อตัวรวมกัน

“ที่นี่ มีเจ้าคนเดียว?”

เฟิ่งเหยียนเฉินไม่เข้าใจ

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

เวลานี้หลิวซื่อเหลียงตามเข้ามา เห็นฝ่าบาทคว้าจับอาภรณ์คุณชายตระกูลเฟิ่งที่สวมอาภรณ์ไม่เรียบ สายตานั้น เหมือนจะกลืนกินคนอื่น

หลิวซื่อเหลียงหวาดกลัวอย่างมาก

“ฝ่าบาท…”

เซียวอวี้ปล่อยมือ หันเดินออกมาจากม่าน

แต่ไม่ได้ออกไปจากห้องนี้ กวาดสายตามองดูรอบๆ อย่างเยือกเย็นชา เหมือนกำลังค้นหาร่องรอยผิดปกติ

เขาคิดมากไปแล้วจริงๆ หรือ?

ภายในม่าน

เฟิ่งเหยียนเฉิน อดไม่ได้ที่จะมึนงง

เหมือนฝ่าบาทกำลังตามหาคน

เขารีบจัดอาภรณ์ให้เรียบร้อย เดินออกมาจากม่าน ทำการถวายบังคมตามมาตรฐานในวังอีกครั้ง

“ข้าน้อยผู้มีโทษ ถวายบังคมฝ่าบาท!”

เซียวอวี้ชักสายตากลับ หันไปมองดูเขาอย่างเรียบเฉย

“เจ้าต่อสู้ชนะขวยโต่ว มีโทษตรงไหน”

ถ่อมตัวมากเกินไป ก็จะกลายเป็นเสแสร้ง

เซียวอวี้ตามหาคนไม่เป็นผล ก็กลับไปยังงานเลี้ยงในท้องพระโรง

ระหว่างทางนั้นกลับได้เจอกับฮองเฮา

ที่ไม่เหมือนกับเขาก็คือ นางกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้

เมื่อได้เจอกัน เฟิ่งจิ่วเหยีบนถวายความเคารพ

“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท”

เซียวอวี้จับจ้องมองดูนาง พร้อมพูดขึ้นมาว่า “คนล้วนกลับท้องพระโรงแล้ว ฮองเฮาจะไปไหน”

เฟิ่งจิ่วเหยียนหลุบตาลง พร้อมพูดตอบว่า

“หม่อมฉันเป็นห่วงพี่ชายใหญ่ จึงจะไปดู”

เซียวอวี้ไม่ถามอะไรต่อ ทั้งสองคนเดินผ่านกันไป

แต่เขาเพิ่งเดินไปได้สองก้าว ก็หยุดชะงักฝีเท้า

“ฮองเฮา เมื่อกี้ตอนที่มีการประลองบนเวที เราไม่เห็นเจ้า ตอนนั้นเจ้าอยู่ที่ไหน”

เฟิ่งจิ่วเหยียนยังไม่ทันแสดงออกถึงปฏิกิริยาใด เหลียนซวงที่ตามอยู่ข้างหลังนางหัวใจเต้นแรง หายใจกระสับกระส่าย

เซียวอวี้หันมา จับจ้องมองดูข้างหลังเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยแววตาเฉียบคม

เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับคิดไม่ถึงว่า คนที่มาดูการแข่งขันนั้น รวมกันยืนอยู่อย่างวุ่นวาย เซียวอวี้ยังรู้ว่านางไม่อยู่

แต่นางก็ไม่กระวนกระวายอะไร

นายท่านเฟิ่งภาคภูมิใจ เชิดคางสูงขึ้นมา

กุ้ยเฟยที่นั่งอยู่ตรงกลางสายตาฉายแววเยือกเย็น มือกำหมัดแน่น เล็บมือแทงเข้าเนื้อบนฝ่ามือ

สีหน้าเซวียฉือนั้นริษยาเกลียดแค้น

แขนได้รับบาดเจ็บยังสามารถชนะได้? เฟิ่งเหยียนเฉินทำได้อย่างไร!

ขวยโต่วพ่ายแพ้ เหล่าขุนนางแคว้นหนานฉีล้วนเงยศีรษะเชิดสูง

“ราชทูต การประลองเมื่อครู่นั้นสนุกจริงๆ น่าเสียดายที่จบลงอย่างรวดเร็ว เรามาดื่มกันต่อ?”

ในใจหูเอ๋อร์ต๋าหงุดหงิด ยังต้องยกจอกเหล้าขึ้นมาอย่างอมยิ้มจางๆ

“ใช่ ดื่มกันต่อ”

กุ้ยเฟยไม่พอใจที่เฟิ่งเหยียนเฉินโดดเด่น ยิ่งไม่พอใจที่ราชทูตรัฐเหลียงไม่ได้เรื่องขนาดนี้ เสียแรงที่นางวางแผนไว้อย่างดี

นางหัวเราะเย้ย พร้อมพูดขึ้นมาว่า

“เหนือคนยังมีคน! ก่อนหน้านี้ราชทูตพูดว่า แคว้นหนานฉีเราไม่มีคนมีฝีมือต่อสู้ หากเป็นเช่นนี้จริง วันนี้ก็คงไม่ใช่แคว้นของท่าน ส่งราชทูตมาเจรจาเพื่อความสันติแล้ว!”

เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ สภาพการณ์เข้าสู่สภาวะเงียบสงัด

แม้แต่สีหน้าเซียวอวี้ก็บึ้งตึง หันไปมองกุ้ยเฟยด้วยแววตาเฉียบคม

กุ้ยเฟยอึ้งตะลึง

ทำไมถึงล้วนมองนางด้วยสายตาเช่นนี้?

นางพูดอะไรผิดไปหรือ?

เดิมรัฐเหลียงก็ถูกต่อสู้จนกลัว จึงมาร้องขอเจรจามิใช่หรือ!

ฮวา...

หูเอ๋อร์ต๋ายืนขึ้นมาอย่างกะทันหัน พร้อมพูดขึ้นว่า “ฮ่องเต้ฉี ฮ่องเต้ของเราต้องการช่วยผู้คนจากความทุกขเวทนา จึงให้พวกเรามาเจรจาเพื่อความสันติ กลับคิดไม่ถึงว่า ในสายตาแคว้นของท่าน พวกเราเป็นฝ่ายต่อสู้พ่ายแพ้? เห็นทีผู้คนส่วนใหญ่ของแคว้นหนานฉี ไม่ได้เต็มใจที่จะเจรจาสันติ การประลองในวันนี้ ก็เพียงเพื่อความสนุกสนานเท่านั้นเอง กลับถูกดูถูกถึงเพียงนี้!”

ถูกต่อสู้พ่ายแพ้จนต้องมาร้องขอ ถึงแม้จะเป็นความจริง แต่คนรัฐเหลียงล้วนไม่ยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อรู้ว่าเมิ่งสิงโจวบาดเจ็บสาหัสจนลุกไม่ขึ้น พวกเขาก็คิดว่าตนเองมีโอกาส ต่อให้เจรจาไม่สำเร็จ พวกเขาก็ไม่กลัวที่จะทำศึกอีกครั้ง

ดังนั้น คำพูดของกุ้ยเฟยเมื่อครู่นั้น ทิ่มแทงใจพวกเขาอย่างจัง ยังไงก็จะต้องได้รับคำอธิบาย

กุ้ยเฟยค่อยรู้ตัวขึ้นมาว่า ตนเองพูดจาผิดไปแล้วจริงๆ

เรื่องระหว่างประเทศนั้น ใช่ว่าจะสามารถนำมาพูดกันต่อหน้าได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย