เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 125

เฟิ่งจิ่วเหยียนเม้มริมฝีปาก ท่าทางสงบนิ่ง เผยกลิ่นอายความเยือกเย็นออกมา

นี่เป็นสิ่งที่กุ้ยเฟยทำได้ฉลาดมาก

เฟิ่งหมิงเซวียนติดสินบนลู่ซิน เพื่อขอตำแหน่งจริง ๆ

ดังนั้น แม้นความผิดถูกเปิดโปง ก็ไม่นับว่าลู่ซินพูดปด ทั้งยังโยนความผิดส่วนหนึ่งมาที่เฟิ่งหมิงเซวียนและฮองเฮาได้อีก

หากไม่ใช่เพราะนางส่งคนไปสืบรู้ชัดตั้งแต่แรก ก็คงไม่คาดคิดว่าคนวางแผนของเรื่องนี้คือกุ้ยเฟย——ใช้ประโยชน์จากความปรารถนาอยากได้ตำแหน่งของเฟิ่งหมิงเซวียน สร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมา

เรื่องนี้ เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่ได้โต้แย้งอะไร

“หม่อมฉันอาจจะอบรมสั่งสอนแบบผิด ๆ จึงทำให้น้องชายกระทำการบุ่มบ่ามเช่นนี้

“หม่อมฉันน้อมรับผิด เชิญฝ่าบาทลงทัณฑ์”

นางรับผิดอย่างไม่อิดออด กลับทำให้เซียวอวี้ประหลาดใจ

แต่คำว่า “อาจจะ” ฟังดูเป็นคำส่วนเกิน ราวกับกำลังประชดประชัน

เซียวอวี้จ้องเขม็งมาที่นาง

“กลับไปสำนึกผิดที่ตำหนักหย่งเหอก่อน ถึงคราวที่เราควรพิจารณาแล้ว ว่ายังสามารถให้เจ้าครอบครองตราประทับทองต่อหรือไม่!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนโค้งคำนับราวกับยอมรับผลสรุปนี้ได้อย่างง่ายดาย

“เพคะ ฝ่าบาท”

ทันทีที่นางออกไป เฟิ่งหมิงเซวียนพลันตื่นตระหนก และเกิดความรู้สึกต่อว่า

นางออกไปทั้งอย่างนี้เลยหรือ ไม่คิดจะขอร้องช่วยเขาหรืออย่างไร?

พอไม่ใช่พี่น้องที่เกิดมาจากท้องแม่เดียวกัน นางก็ไม่คิดจะสนใจความเป็นความตายของเขาเลยหรือ!

เซียวอวี้เป็นผู้เด็ดขาด ไม่แม้แต่จะเห็นแก่สถานะฮองเฮา เพื่อยอมลดโทษให้เฟิ่งหมิงเซวียน

เขาออกคำสั่ง

“สั่งพักงานและสอบสวนลู่ซิน ตรวจสอบงานทุกอย่างที่ผ่านมือเขา แล้วค่อยตัดสินลงโทษ

“ส่วนเฟิ่งหมิงเซวียน ปลดออกจากตำแหน่ง เงินที่ติดสินบนให้นำเข้าคลังหลวง นอกจากนี้ จงเข้าไปสำนึกผิดในคุกเป็นเวลาหนึ่งปี ห้ามสอบจอหงวนสามปี ห้ามเข้ารับตำแหน่งในราชสำนักห้าปี!”

ลู่ซินไม่ค่อยมีปฏิกิริยาเท่าไรนัก แต่เฟิ่งหมิงเซวียนกลับร้องระงมออกมา

“ไม่! ไม่นะ!

“ฝ่าบาท พี่เขย!

“ได้โปรดท่านปล่อยข้าไปเถอะ!”

ทั้งติดคุก ทั้งห้ามสอบห้ามเข้ารับราชการเช่นนี้ แล้วเขาจะยังมีหนทางไปได้อย่างไร!

ฝ่าบาททรงโหดร้ายเหลือเกิน!

เขาเพิ่งเป็นทูตส่งสาส์นได้เพียงไม่กี่วัน แต่เขากลับต้องชดใช้คืนเป็นเวลาหลายปี…

เมื่อเซียวอวี้ได้ยินคำว่า “พี่เขย” ก็ขมวดคิ้วแน่น แสดงสีหน้ารำคาญออกมา

“ลากตัวออกไป!”

หลิวซื่อเหลียงที่อยู่ข้าง ๆ ไม่กล้าเอ่ยสิ่งใด ในใจพร่ำบ่นว่าคุณชายรองตระกูลเฟิ่งผู้นี้ช่างโง่เขลายิ่งนัก

รู้ทั้งรู้ว่าฝาบาททรงมิโปรดฮองเฮา ยังจะมาเรียกพี่เขย เช่นนี้มีแต่จะทำให้ฝ่าบาททรงพิโรธกว่าเดิม

……

อีกด้าน

หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนออกมาจากห้องทรงพระอักษร นัยน์ตาก็ทอแววลุ่มลึก

พอเหลียนซวงรู้ว่าฝ่าบาทสั่งลงโทษฮองเฮา พลันโมโหปนแปลกใจ

“พ่ะย่ะค่ะ!” เฉินจี๋ประสานมือรับคำสั่ง

ณ ตำหนักหลิงเซียว

ในที่สุดกุ้ยเฟยก็ฟื้นขึ้นมา

นางรู้สึกตัวตื่นเพราะถูกชุนเหอเขย่าตัว เจ็บบาดแผลแทบร้องขอชีวิต

ชุนเหอไม่มีเวลามาขอให้อภัย รีบนำเรื่องราวรายงานให้นางฟัง

ยามกุ้ยเฟยได้ยินว่าฝ่าบาทสอบสวนเซวียฉือจนสาวตัวมาถึงนาง พลันตกตะลึง ในใจดิ่งวูบ

“เซวียฉือทำเสียเรื่องเช่นนี้ ทำไมยังไม่มีผู้ใดไปฆ่าปิดปากเขาอีก!”

ชุนเหอก้มหน้าลง “ท่านหมดสติไปในงานเลี้ยง พอไม่มีคำสั่งจากท่าน บ่าวก็มิกล้าออกคำสั่งต่อ”

เพี้ยะ!

กุ้ยเฟยยกแขนข้างที่ดีอยู่ขึ้น สะบัดฝ่ามือลงบนหน้าของนาง แววตาอึมครึมดุดัน

“ไร้ประโยชน์! ข้ายังหวังให้เจ้าทำอะไรได้บ้าง!”

ชุนเหอกล้ำกลืนความเจ็บบนหน้าเอาไว้ กล่าวอย่างนอบน้อมว่า “พระนาง ยังมีข่าวที่ไม่นับว่าเลวร้ายอีกเรื่องนะเพคะ เรื่องที่เฟิ่งหมิงเซวียนใช้เงินซื้อตำแหน่งถูกตรวจสอบเจอ ฮองเฮามีความผิดร่วมด้วย จึงถูกลงโทษกักบริเวณ และอาจจะถูกยึดตราประทับทองคืน…”

แววตาของกุ้ยเฟยทอประกายเล็กน้อย

“จริงหรือ?”

ไม่เสียแรงที่นางลงทุนทำไปมากขนาดนี้

“เปลี่ยนอาภรณ์ ข้าจะไปเข้าเฝ้าฝ่าบาท”

เรื่องยุ่งยากในตอนนี้ นางจะนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย