หลังจากบ่ายลมพัดแรงโหมกระหน่ำ เมฆครึ้มดำรวมตัวกันบนอากาศในบริเวณตำหนักหลิงเซียว พลอยทำให้คนรู้สึกอึดอัด หายใจไม่ทั่วท้อง
กุ้ยเฟยปวดหัวอย่างรุนแรง กลับไม่มียาบรรเทาความเจ็บปวดนี้
นางนอนบนเตียง ร้องโอดโอยไม่หยุด
ดีที่ไม่นานนัก นางก็ไม่ปวดหัวแล้ว แต่กลับแน่นหน้าอกอย่างไม่มีสาเหตุ ทรมานอย่างยิ่ง
นางไม่มีอารมณ์รับชมการแสดงของคณะงิ้วอีกต่อไป
แต่เหล่าข้าหลวงกลับรับชมอย่างใจจดใจจ่อ
เจ้านายได้รับความโปรดปราน เหล่าคนรับใช้ก็สุขสบาย
ณ ตำหนักหย่งเหอ ซุนหมัวมัวเริ่มพร่ำบ่นอีก
“คนในตำหนักหลิงเซียวกำลังดูการแสดงงิ้ว แต่เรากลับต้องมาปัดกวาดเช็ดถูอยู่ที่นี่ พูดออกไป ผู้ใดจะเชื่อว่าพวกเราคือข้ารับใช้ในตำหนักของฮองเฮา?”
ไม่เพียงแค่ตำหนักหย่งเหอ เหล่านางสนมและคนรับใช้ของแต่ละตำหนัก ต่างก็อิจฉาตำหนักหลิงเซียวกันทั้งนั้น
หนิงเฟยมานั่งเล่นพูดคุยกับเสียนเฟย
“ท่านพี่เสียนเฟย คนเรานี่วาสนาต่างกันเหลือเกิน ข้าไม่เป็นอะไร แต่ท่านพี่กับกุ้ยเฟย ต่างก็คล้ายคลึงกับหรงเฟย ไฉนไม่เห็นฝ่าบาทโปรดปรานเจ้าเช่นนั้นบ้างล่ะ?”
เสียนเฟยไม่คิดเช่นนั้น
“ฝ่าบาทจะทรงโปรดปรานใคร ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของฝ่าบาท”
หนิงเฟยยิ้มเยาะออกมา
“นั่นสินะ ก็เหมือนฮองเฮา ฝ่าบาททรงมิโปรดปราน แม้นจะเคยมอบความเมตตาให้แล้วหนึ่งหน แต่ก็ยังไม่ชอบนางอยู่ดี หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่ฮ่องเต้องค์ก่อน เกรงว่าฝ่าบาทคงโยนนางทิ้งไปที่ตำหนักเย็นนานแล้ว”
เสียนเฟยไม่ได้ต่อบทสนทนา เมื่อเห็นเมฆดำทะมึน พลันรู้สึกใจไม่ดี
……
ตกค่ำ หลิวซื่อเหลียงมาที่ตำหนักหลิงเซียวเพื่อแจ้งเรื่องบางอย่าง
“กุ้ยเฟย ฝ่าบาททรงเรียกท่านไปเข้าเฝ้าที่ห้องทรงพระอักษรพ่ะย่ะค่ะ”
ชุนเหอพูดยิ้ม ๆ
“พระนาง ฝ่าบาทต้องคิดถึงท่านแน่เลยเพคะ! ทรงเรียกสาวงามไปคลอเคลียข้างกายขณะท่องตำราเป็นแน่!”
กุ้ยเฟยดีใจเป็นอย่างมาก เลือกปิ่นปักผมหยกขาวจี้ทอง และใช้ผงแป้งทาลงบนหน้าอย่างหนา เพื่อปกปิดรอยแผลเป็น
นางจัดการตัวเองเสร็จ ก็นั่งเกี้ยวไปยังห้องทรงพระอักษร
ทว่า หลังจากเข้าไป กลับเห็นฮองเฮาอยู่ด้วย
นางไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ฝ่าบาทเรียกนางมาแล้ว ยังจะเรียกฮองเฮามาอีกทำไม?
กุ้ยเฟยอาศัยความโปรดปรานที่ฝ่าบาทมีให้ ไม่ทำความเคารพฮองเฮา วิ่งเข้าไปหาบุรุษหลังโต๊ะทรงงานแทน
“ฝ่าบาท…”
เซียวอวี้มองมาที่นางด้วยสายตาเยือกเย็น
“คุกเข่าลง!”
กุ้ยเฟยตกใจจนตัวสั่น จากนั้นก็คุกเข่าลงแต่โดยดี
“ฝ่าบาท หม่อมฉันทำอะไรผิดไปหรือเพคะ?” นางไม่เข้าใจ
นั่นสินะ กล้าแม้กระทั่งร่วมมือกับราชทูตจากรัฐเหลียง นางช่างไม่กลัวตายเอาเสียเลย!
ดวงตาของเซียวอวี้เย็นยะเยือก แผ่ซ่านกลิ่นอายหนาวเย็นออกมารอบกาย
“ไม่ว่าเจ้าทำอะไร เราปล่อยผ่านโดยตลอด
“แต่เรื่องเดียวที่ปล่อยผ่านไม่ได้ คือการร่วมมือกับคนนอกแคว้น เจ้ากำลังชักศึกเข้าบ้าน!”
เมิ่งสิงโจวคือแม่ทัพที่มีชื่อเสียงแห่งแคว้นหนานฉี โดดเด่นเรื่องการสู้รบ ผู้ติดตามเขาจึงมีไม่น้อย
พูดได้ว่า หากไม่มีเมิ่งสิงโจว แม้แคว้นหนานฉีจะรบชนะรัฐเหลียงได้ ก็ต้องเสียเวลามากขึ้นอีกหลายปี
กุ้ยเฟยกลับนำเขามาเป็นข้อแลกเปลี่ยนเช่นนี้ หากเหล่าพลทหารในค่ายเป่ยต้ารู้เข้า คงจุดชนวนการก่อกบฏขึ้นเป็นแน่
สายตาที่เซียวอวี้มองมายังกุ้ยเฟย ไร้ซึ่งความอ่อนโยนที่เคยมีดั่งในวันวาน หลงเหลือไว้เพียงความผิดหวังและเฉยชา
กุ้ยเฟยส่ายหน้า บีบน้ำตาออกมา
“ไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น…ฝ่าบาท ท่านฟังหม่อมฉันอธิบายก่อน หม่อมฉันไม่…”
นางยังหวังจะปฏิเสธ เซียวอวี้เริ่มหมดความอดทน
“เฉินจี๋สืบเจอหลักฐานหมดแล้ว แม้นเจ้าจะรอบคอบที่ส่งลูกน้องไปเจรจากับราชทูตแทน แต่ตราบใดที่เป็นคนของเจ้า ย่อมต้องทิ้งร่องรอยไว้!
“กุ้ยเฟย ครานี้ เรามิอาจปกป้องเจ้าได้”
เปลี้ยง——
เสียงฟ้าคำรามข้างนอกดังขึ้นมา กุ้ยเฟยสั่นสะเทือนไปทั้งร่างกาย
ทำไมกลายเป็นเช่นนี้!

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลิออยู่ 220 เหรียญแต่ทำไมปลดล็อกไม่ได้คะ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
ในกระเป๋ายังมีเหรียญเหลืออยู่ 220 เหรียญแต่ปลดล็อกไม่ได้ แก้ไขให้หน่อยค่ะ...
เติมเหรียญไปแล้ว แต่ปลดล็อกไม่ได้ มีข้อความว่าเกิดข้อผิดพลาด กรุณาลองใหม่อีกครั้ง...
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...