เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 131

ชุนเหอยืนอยู่นอกห้องทรงพระอักษร เดิมคิดว่าคืนนี้พระนางจะได้ถวายการรับใช้ฝ่าบาท ตัวนางเองย่อมได้รับรางวัลไปด้วย นึกไม่ถึงว่าฝ่าบาทจะมีพระดำรัสสั่งให้ลดตำแหน่งพระนางเป็นกุ้ยเหริน ทั้งยังให้ย้ายออกจากตำหนักหลิงเซียวที่เป็นสัญลักษณ์ของความโปรดปรานอย่างล้นเหลืออีก

เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้...

ชุนเหอที่ยังอยู่ในสภาวะตื่นตระหนกคุกเข่าลงอย่างรีบร้อน หัวหน้าขันทีหลิวซื่อเหลียงเดินออกมาประกาศพระราชดำรัสด้วยเสียงก้องกังวาล

“ฝ่าบาทมีรับสั่ง ให้หลิงกุ้ยเหรินย้ายไปพำนักที่ตำหนักชิงซวี ข้าหลวงเดิมของตำหนักหลิงเซียวจะถูดจัดสรรไปยังตำหนักอื่น ไม่อนุญาตให้ติดตามไปด้วย!”

ตำหนักชิงซวี?

นั่นแทบไม่ต่างอะไรกับการไปตำหนักเย็นเลยเชียวนะ!

ครั้นชุนเหอฟังพระประสงค์ของฝ่าบาทเสร็จ สมองของนางก็มืดมิดไปหมด

พระนางถูกลงโทษ แม้แต่ข้าหลวงเหล่านี้ก็ยังถูกแยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง เห็นได้ชัดว่าฮ่องเต้ต้องการตัดแขนขาของพระนาง!

อารมณ์ตื่นตระหนก สับสน หวาดกลัว...ความรู้สึกกระวนกระวายใจทุกรูปแบบล้วนผสมปนเปกันไปหมด

ท้องฟ้ายามราตรีปรากฎฟ้าแล่บฟ้าร้อง พายุฝนพลันซัดโหมลงมา

ชุนเหอเงยหน้ามองอย่างระมัดระวัง กลับเห็นพระนางนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้นในตำหนัก เงาร่างนั้นไม่ได้ดูสูงศักดิ์มีเกียรติมียศดั่งวันวาน กลับดูเศร้าโศกอ้างว้างอย่างยิ่ง...

เซียวอวี้เป็นผู้ที่แบ่งแยกรักชังชัดเจน ยามนี้ไม่หลงเหลือความอ่อนโยนใดให้กับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์มานานแล้ว

เขาสั่งให้คนนำตัวนางไป ครั้นแล้วก็กำจัดผู้ติดตามของนาง รั้งตัวไว้เพียงเฟิ่งจิ่วเหยียนฮองเฮาผู้นี้

ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนสงบดั่งน้ำนิ่ง

ด้วยความผิดที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์กระทำลงไปนั้น ตามกฎหมายแล้วต้องจำคุกตลอดชีวิต

แต่เห็นได้ชัดว่าเซียวอวี้ยังคงใส่ใจหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ จนไม่อาจตัดใจให้นางตายได้

“ฮองเฮา เราเคยบอกเจ้าแล้วว่าจะต้องมีคำอธิบายให้กับเจ้า”

เมื่อตัดสินลงโทษคนโปรดแล้ว เซียวอวี้คล้ายกับได้ทำการตัดสินใจเรื่องที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่ง เขากดนวดที่หัวคิ้วด้วยความอ่อนล้าเป็นอย่างมาก

จากนั้นเขาเงยพระพักตร์ จ้องมองไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียนแล้วตรัสเบา ๆ

“เรื่องที่เฟิ่งหมิงเซวียนใช้สินบนซื้อตำแหน่งขุนนาง เป็นเราที่ไม่สืบสวนให้กระจ่าง ทำให้เจ้าได้รับความไม่เป็นธรรม”

“เราได้ลงโทษนางสถานหนักโดยลดขั้นให้เป็นกุ้ยเหรินแล้ว ยกเลิกการกักบริเวณเจ้า ตราประทับทองก็ย่อมส่งคืนแก่เจ้า สินบนที่ตำหนักหลิงเซียวรับมาทั้งหมด เจ้าก็จัดแบ่งประเภทแล้วนำเข้าคลังหลวงเสีย

ส่วนน้องชายต่างแม่ที่ไม่ได้เรื่องของเจ้า พรุ่งนี้เราจะให้คนปล่อยเขาออกจากคุกหลวง เรายอมถอยให้เจ้าได้มากสุดเท่านี้ ยังมีอะไรที่เจ้าไม่พอใจอีกหรือไม่?”

ประโยคสุดท้ายนั้นไม่ได้เป็นการถามความคิดเห็นของนาง เหมือนคำเตือนเสียมากกว่า

ที่เขาถอนคำสั่งคุมขังเฟิ่งหมิงเซวียน ก็เพื่อที่จะแลกกับการไว้ชีวิตหลิงเยี่ยนเอ๋อร์

เฟิ่งจิ่วเหยียนยอบกายคำนับด้วยความเฉยชา

“คำสั่งของฝ่าบาทเป็นประกาศิต หม่อมฉันไม่มีเรื่องใดให้ไม่พอใจเพคะ

ทว่าหม่อมฉันมีคำขอเรื่องนึงเพคะ”

แววตาดำขลับของเซียวอวี้คมปลาบดุจคมมีด

เซียวอวี้มองฝนที่ตกหนักด้านนอกด้วยแววตาเย็นชา

“คดีของเซวียฉือ ในฐานะที่เจ้าเป็นฮองเฮาไม่สมควรสอดมือไปยุ่งเกี่ยว

ต่อให้เป็นแค่สำเนาคำให้การก็ผิดกฎของวังหลวง

เจ้าจงอยู่ที่นี่คัดกฎของวังหลวง คัดจนกว่าเราจะพอใจค่อยหยุด”

เฟิ่งจิ่วเหยียนขมวดคิ้วทันที

“เพคะ”

ข้าหลวงจัดวางพู่กัน หมึก กระดาษและจานฝนหมึก

หลังจากนางนั่งลง แม้มือจะคัดกฎของวังหลวง ในใจกลับคิดถึงเรื่องอื่น

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ย้ายออกจากตำหนักหลิงเซียว เท่านี้แผนของนางก็สำเร็จไปกว่าครึ่ง

เรื่องต่อไปที่สำคัญที่สุดคือการหาบันทึกของจ้าวเฉียน

ดีที่จากคำสั่งของเซียวอวี้ ข้าหลวงตำหนักหลิงเซียวจะถูกจัดสรรใหม่ให้กระจายไปในตำหนักต่าง ๆ เรื่องนี้ควรให้นางที่เป็นฮองเฮาจัดการ

ถึงเวลานั้นนางสามารถใช้อำนาจเพื่อความต้องการส่วนตัวได้

ทว่าต้องจัดสรรอย่างไรถึงจะสามารถค้นหาบันทึกนั้นอย่างเปิดเผยได้เล่า?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย