เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 136

เฟิ่งจิ่วเหยียนออกจากตำหนักชิงซวี ตรงไปที่กรมราชทัณฑ์

ห้องทรมานของกรมราชทัณฑ์ทั้งมืดและชื้น พวกหนูชื่นชอบนัก

มวลอากาศอวลกลิ่นเหม็นเน่าและคาวโลหิต

ชุนเหอและพวกข้าหลวงแม้ถูกจองจำ ทว่าไร้การถูกสอบสวนใด ๆ

แม้วันนี้ถูกกุมตัวสู่ห้องทรมาน ใจนางก็มิสั่นสะท้าน เสมือนรู้ชัดว่าไม่มีผู้ใดกล้าทำร้ายตน

เพียงได้เห็นหน้าของฮองเฮา สีหน้าของนางพลันแปรเปลี่ยน

“บ่าวถวายบังคมฮองเฮา!”

ชุนเหอโค้งคำนับ รักษากิริยาแบบสาวใช้ในตำหนักหลิงเซียว ไม่นอบน้อมหรือเย่อหยิ่ง

ในห้องทรมานนี้มีเพียงนางสองคน

เฟิ่งจิ่วเหยียนยืนในเงามืด ใบหน้ามืดครึ้มยากประเมิน

นางโยนสำเนาบันทึกของจ้าวเฉียนใส่ชุนเหอ

“ดูเอง”

ชุนเหอไม่ทราบเหตุผล แต่เปิดมันด้วยความระแวดระวัง

หลังจากอ่านเนื้อหาของสำเนาบันทึกจบ สีหน้าของชุนเหอเปลี่ยนไปอีกครา

จ้าวเฉียนบันทึกเรื่องเหล่านี้ไว้ตั้งแต่เมื่อใด!

เขาต้องการกระทำสิ่งใด!

อีกทั้ง สิ่งนี้ไปอยู่ในมือฮองเฮาได้อย่างไร...

ชุนเหอวางตัวอึดอัด เงยหน้าจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วเหยียน

“ฮองเฮา บ่าว บ่าวไม่รู้ว่ามันคืออะไร”

นางอยากจะแสดงบทโง่เขลา

เฟิ่งจิ่วเหยียนเดินไปยังเตาไฟแดงฉาน ถือคีบเหล็กเขี่ยถ่านไม้ที่เผาจนร้อนแดง

ไม่นาน คีบเหล็กก็ถูกเผาจนแดงน่าสยอง เสียงถ่านไม้แตกดังเปรี๊ยะกึกก้องห้องอันเงียบสงัดแห่งนี้

ชุนเหอตัวสั่นโดยสัญชาตญาณกักเก็บสีหน้าสงบสุดกำลัง

เฟิ่งจิ่วเหยียนยกคีบเหล็กร้อนไปวางใกล้ปรางแก้มของชุนเหอด้วยท่าทางสบาย ๆ

ความร้อนที่มาแบบกะทันหัน ตีหัวใจชุนเหอให้เต้นรัวเหมือนกลอง

นางหลับตาปี๋ไม่กล้ามอง

“ฮองเฮา บ่าวไม่รู้จริง ๆ เพคะ...”

ชวี่!

คีบเหล็กร้อนเผาเส้นผมของนางสร้างกลิ่นไหม้ทันที

ชุนเหอเผลอกลั้นหายใจ

ฮองเฮาคิดทำสิ่งใด?!

นัยน์ตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนคมกริบ

“ปีนี้เจ้าก็อายุยี่สิบสี่แล้ว ปีหน้าจะถูกปล่อยตัวออกจากวังเพื่อแต่งงาน

“ยังได้ยินว่าเจ้ามีคนรักรออยู่ที่บ้านแล้วด้วย

“หากเจ้าเสียโฉมเหมือนเจ้านาย การแต่งงานครั้งนี้ยังจะเกิดขึ้นได้หรือไม่?”

ชุนเหอเบิกตากว้างโดยพลัน

นางเก็บงำเรื่องนี้ไว้กับตัว แม้แต่กุ้ยเฟยยังไม่รู้ แล้วฮองเฮารู้ได้อย่างไร?

วังหลวงหาใช่บ้านของมนุษย์

นางแค่เพื่อใช้มันเก็บออมสินเดิมให้เพียงพอ เมื่อถึงวัยออกเรือนก็จะออกจากวังหลวง แล้วไปใช้ชีวิตอิสระเสรี

ฝันนั้นเห็นจะใกล้เป็นจริงแล้ว

ไยฮองเฮากลับสอดมือเข้ามายุ่ง!

ดวงตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเย็นชาราวน้ำค้างแข็ง

“เจ้าน่ะฉลาดเป็นกรด รู้วิธีซุกซ่อนคนสำคัญได้ดี ไม่ให้เขาเปิดเผยตัวตนและทำกิจการในต่างแคว้น

“แต่เจ้ากุมความลับของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์มากปานนั้น คิดว่านางจะยอมปล่อยเจ้าออกจากวังจริงหรือ?

เห็นนางเป็นคนมีรสนิยมประหลาดที่ชื่นชอบส่องมองเรื่องแบบนั้นหรือไร?

ชุนเหอหน้าแดงระเรื่อ

“เจ้านายห้ามตามรับใช้ บ่าวจะกล้าสอดแนมได้อย่างไรเล่า ตั้งแต่ฝ่าบาทและพระสนมร่วมหลับนอนในตำหนักชั้นใน จนฝ่าบาทเสด็จกลับ หลิวกงกงจัดความเรียบร้อยเสร็จ บ่าวจึงจะเข้าไปได้เพคะ

“อีกทั้ง ในตำหนัก...ในตำหนักมีพื้นที่เพียงเท่านี้ ถ้าไม่อยู่บนเตียง ยังจะไปไหนได้อีกเพคะ?”

หากจริงตามที่นางพูด ชุนเหอจะไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นในห้องบรรทมโดยสิ้นเชิง จึงไม่ต้องเอ่ยถึงเรื่องมีสถานที่ลับอื่นใดอีก

หัวคิ้วเฟิ่งจิ่วเหยียนขมวด

เดิมคิดว่าจะได้รับเบาะแสมีค่าจากชุนเหอ กลับมิคาดว่าหลิงเยี่ยนเอ๋อร์รอบคอบในการกระทำ ไม่ปล่อยให้ชุนเหอสาวใช้คนสนิทรู้เรื่องสถานที่ลับด้วยซ้ำ

เช่นนั้น ชุนเหอจึงไม่อาจล่วงรู้ถึงเหตุผลที่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ได้ครอบครองความโปรดปรานสุดซึ้งจากเซียวอวี้ได้

เฟิ่งจิ่วเหยียนสายตาเยือกเย็น

ชุนเหอประหวั่นพรั่นพรึง ถึงอย่างไรข้อมูลสำคัญที่สุดของนางก็ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือฮองเฮาแล้ว

นางเข้าใจไปว่าเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พอใจคำตอบของนาง พาลคิดว่านางปิดบัง นางจึงพูดสิ่งที่คิดว่าไร้นัยสำคัญเพื่อแสดงถึงการ “สวามิภักดิ์”

“บ่าวมีเรื่องหนึ่งที่ไม่รู้ว่าสำคัญหรือไม่ หลังพระสนมร่วมหลับนอนทุกครั้ง ร่างกายก็จะอ่อนล้าลงมาก ต้องเสริมด้วยรังนก เออเจียว[1]และขนมพุทราจำนวนมาก...”

รังนก เออเจียวและขนมพุทรา

ทั้งสามสิ่งนี้มีสรรพคุณในการบำรุงเลือดเหมือนกันหมด

ในใจเฟิ่งจิ่วเหยียนเกิดแสงสว่างวาบ ขจัดความสงสัยที่เหมือนเงาดำบังใจออกไปทันที ส่องแสงนำทางที่ชัดเจนให้นาง

นางไม่รอช้ารีบออกจากห้องทรมานและสั่งเหลียนซวง

“ไปขอเบิกบันทึกราชกิจและพระราชดำรัสรายวันของฝ่าบาทมา! เดี๋ยวนี้!”

เหลียนซวงฉงนสงสัย

บันทึกราชกิจและพระราชดำรัสรายวัน ล้วนบันทึกวันที่ฝ่าบาทพระราชทานความโปรดปรานเหล่าสนม ฮองเฮาเร่งรีบให้ไปขอเบิกมาเพื่อเหตุใด?

-------------------------------------------

[1] เออเจียว ราชาสมุนไพรบำรุงเลือดหรือเจลาตินหนังลา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย