เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 139

แม้ว่าหงส์ที่ถูกถอนขนงามมิสู้ไก่[1] แต่หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เป็นสตรีที่ครองความโปรดปราดเหนือกว่าทั้งหกตำหนัก แม้ว่าใบหน้าจะเสียโฉม แต่ฝ่าบาทยังคงโปรดปรานนางอยู่หลายวัน แสดงให้เห็นว่านางมีความสามารถมาก

เหลียนซวงภักดี ย่อมปฏิบัติตามคำสั่งของฮองเฮา แต่ซุนหมัวมัวกลับไม่กล้า

ซุนหมัวมัวเกรงว่า หากหลิงกุ้ยเหรินกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง นางจะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้

เดิมนางคาดเดาไว้ว่า ฮองเฮาพานางออกมาคงไม่ใช่เรื่องดี แต่นางไม่คิดว่ามันจะเป็นงานที่น่าลำบากใจขนาดนี้!

นางปักหลักยืนนิ่ง ไม่ไหวติง

เหลียนซวงคนเดียวไม่อาจจับตรึงหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไหว กลับถูกผลักออกมาแทน

“เฟิ่งเวยเฉียง! หากเจ้ากล้าแตะต้องข้าแม้เพียงปลายเส้นผม ฝ่าบาทจะไม่มีวันละเว้นเจ้า!! ในวังแห่งนี้ นอกจากฝ่าบาทแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าถอดเสื้อผ้าของข้า! เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร...”

เฟิ่งจิ่วเหยียนใช้สายตาเยือกเย็นมองไปยังซุนหมัวมัว

“ลงมือ!”

ซุนหมัวมัวตื่นตกใจกับดวงตาของนาง ไม่ว่าหัวใจคัดค้านแค่ไหน สุดท้ายยังต้องกัดฟันเดินหน้า

“หลิงกุ้ยเหริน บ่าวขอล่วงเกินแล้ว!”

เสียงกรีดร้องของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ดังกึกก้องอยู่ในตำหนัก

“กรี๊ด——”

มีเสียงผ้าฉีกขาดดังสอดประสานด้วย

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไม่เคยได้รับความอัปยศเช่นนี้

นางก่นด่าเฟิ่งจิ่วเหยียน

เฟิ่งจิ่วเหยียนมีสีหน้าเย็นชาตลอดเวลา ไม่แสดงความกลัวและไร้ความเห็นอกเห็นใจ

แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ ยามที่เวยเฉียงเผชิญความอับอายนั้น หลิงเยี่ยนเอ๋อร์กลับไม่สั่งให้ใครหยุด!

ตอนนี้นางหวังว่าจะถลกหนังของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ออกมาด้วยซ้ำ

สาวใช้ของตำหนักชิงซวีได้ยินเสียงกรีดร้องของกุ้ยเหริน เมื่อเล็งเห็นว่าสถานการณ์ไม่สู้ดี จึงแอบวิ่งออกไปทางประตูด้านข้างเพื่อกราบทูลฝ่าบาท

……

ภายในตำหนัก

หลังจากที่เสื้อท่อนบนของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ถูกถอดออก เฟิ่งจิ่วเหยียนจ้องมองที่จุดหนึ่งด้วยสายตาเย็นเยียบ

นางรีบโบกมือสั่ง “หยุดก่อน พวกเจ้าถอยออกไปก่อน”

เหลียนซวงและซุนหมัวมัวหยุดมือทันทีและถอยออกจากตำหนักหลัก

เวลานี้ หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เอามือทั้งสองข้างปิดหน้าอกไว้ ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อยและจดจ้องเฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยสายตาดุร้าย

นางเข้าใจว่าอีกฝ่ายกำลังแก้แค้นเรื่องที่เคยถูกโจรภูเขากระทำ

“เฟิ่งเวยเฉียง! ข้าจะจดจำความอัปยศในวันนี้ไว้! มีแต่ข้าที่เป็นฝ่ายรังแกผู้อื่นตลอดมา ไม่มีเหตุผลที่ข้าจะถูกผู้อื่นมารังแกได้!”

เฟิ่งจิ่วเหยียนไม่พูดอะไรให้ไร้สาระ นางคว้าข้อมือที่ปกปิดหน้าอกคู่นั้นให้กางออกและจ้องมองตรงไปที่รอยแผลเป็นตรงตำแหน่งหัวใจของอีกฝ่าย...

แผลใหม่ทับแผลเก่า ตรงจุดนั้นดูราวจะถูกลงทัณฑ์ด้วยพันมีดหมื่นแล่

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เห็นสายตาของนางมองไปที่ตำแหน่งนั้น แววตาแสดงออกด้วยหมดหนทาง

จากนั้นก็ได้ยินนางพูดพึมพำ

“เป็นเลือดจากหัวใจตามที่คาดไว้จริง ๆ ”

ตามที่นางคาดเดาไว้ พิษวารีสวรรค์ในร่างกายของเซียวอวี้มิได้คร่าชีวิตของเขา เพราะมันถูกระงับด้วยเลือดจากหัวใจของมนุษย์

ทว่า ไม่ใช่เลือดหัวใจของทุกคนจะมีผลลัพธ์เช่นนี้

ผู้ที่ถูกเจาะเลือดจำเป็นต้องแช่ในบ่อยามานานนับสิบปีขึ้นไป

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ร่างกายของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์แตกต่างจากคนทั่วไป...

ได้ยินถ้อยคำนี้ ทำให้ลมหายใจของหลิงเยี่ยนเอ๋อร์หยุดชะงัก

นางรู้เรื่องเลือดจากหัวใจได้อย่างไร!

เฟิ่งจิ่วเหยียนปล่อยมืออีกฝ่าย ดวงตาคมชัดเฉียบแหลม

“ชุนเหอบอกข้าหมดแล้ว

“หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ เจ้าให้เลือดจากหัวใจเพื่อฝ่าบาทมาตลอด ไม่น่าแปลกใจที่หลังจากร่วมหลับนอนทุกครั้ง เจ้าต้องเสริมด้วยอาหารบำรุงจำนวนมากมาย ยิ่งไม่น่าแปลกใจที่เจ้ามักจะชอบพูดว่า ฝ่าบาทขาดเจ้าไม่ได้”

ในความเป็นจริง ชุนเหอไม่รู้อะไรเลย

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ที่กำลังหยิบเสื้อบนพื้นขึ้นมาสวมใส่ เกิดอาการตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ

เป็นไปไม่ได้!

บทที่ 139 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย