เฟิ่งจิ่วเหยียนล้มลงบนเตียงหยก บุรุษที่เดิมทีนอนอยู่บนเตียง ในเวลานี้กลับพลิกตัวขึ้นมาอยู่บนตัวนาง เขาใช้ฝ่ามืออันแข็งแกร่งกดไหล่ของนางไว้ และโน้มตัวลงมา ราวกับพยัคฆ์ร้าย สายตาดุดันกวาดมองไปทั่วร่าง หวังจะกลืนนางลงไปในท้อง
นางหรี่ตาลงและแทงเข็มสุดท้ายลงไปโดยไม่ลังเล
นางรีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาค้ำยันแผงอกของเขาที่ขยับใกล้เข้ามา และยังป้องกันไม่ให้สัมผัสกับเข็มเงินเหล่านั้น
ริมฝีปากบางของบุรุษเกือบจะแนบกับใบหน้าด้านข้างของนาง คลับคล้ายเหมือนจะถูกับใบหน้าและติ่งหู
ลมหายใจของเขาที่กำลังพ่นใส่ข้างลำคอของนาง ราวกับคลื่นความร้อนในคิมหันตฤดู
“เราลืมบทสวดชำระล้างจิตใจไปแล้ว...”
เฟิ่งจิ่วเหยียนเตือนเขาด้วยประกายตาเยือกเย็น
“ข้าท่องให้ฟังแล้วท่านก็ท่องตาม”
พอฝืนท่องไปได้สักพัก มันก็เริ่มเห็นผล
แววตาอันร้อนรุ่มของเซียวอวี้ที่มองนางก็คลายลงอย่างมาก
จากนั้นเขาก็รู้ตัวว่าตนเองทำสิ่งใดลงไป จึงรีบลุกขึ้นนั่ง ทำสมาธิ และสงบจิตใจทันที
หลังจากนั้นมาเขาก็ไม่สูญเสียการควบคุมอีกเลย
ครึ่งชั่วยามผ่านไป
เฟิ่งจิ่วเหยียนก็ดึงเข็มขึ้นมา
เซียวอวี้เหงื่อไหลออกมาก ใบหน้าหล่อเหลาของเขาปกคลุมด้วยชั้นเหงื่อ และไหลมารวมกันจนกลายเป็นเม็ดเหงื่อ จากนั้นไหลลงมาตามขากรรไกร และซึมมาที่ลูกกระเดือกและคอเสื้อ
เหงื่อยังไหลลงมาตามแผงอกด้านนอกที่ไม่ได้ปกปิดด้วยอาภรณ์ ไหลมาตามแนวกล้ามเนื้อ และไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง...
นี่อาจเป็นภาพที่ชวนมองสำหรับผู้อื่น แต่เฟิ่งจิ่วเหยียนกลับทำเป็นมองไม่เห็น
นางหิวแล้ว
นางจึงนั่งกินขนมเปี๊ยะอยู่ข้างกำแพงหิน
ขนมเปี๊ยะของหัวหน้าห้องเครื่องรสชาติใช้ได้ แต่ก็ยังสู้ฝีมือเหล่าสวีคนปรุงอาหารในค่ายทหารไม่ได้
พอกินขนมเปี๊ยะของเหล่าสวีแล้ว ก็สามารถบุกเข้าไปในค่ายศัตรู พร้อมกับตัดหัวพวกมันทิ้งเพิ่มอีกหลายหัว
พอเซียวอวี้ลืมตาขึ้น เขาก็เห็นคนบางคนกำลังยื่นมือไปหยิบขนมเปี๊ยะชิ้นสุดท้าย
ตั้งแต่คืนก่อนจนถึงตอนนี้ เขายังไม่ได้กินสิ่งใดเลย ของกินที่เฉินจี๋ส่งมาก็เข้าไปอยู่ในท้องของนางหมดแล้ว
เขาขมวดคิ้วมุ่น
ไม่เคยเห็นสตรีที่หยาบกร้านและไร้มารยาทอย่างนางมาก่อน
ไม่นานเซียวอวี้ก็รู้ว่าเหตุใดนางถึงกินมากเพียงนี้
การฝังเข็มครั้งที่ห้า
ทว่าความร้อนในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อน เป็นความร้อนที่ทำให้สารน้ำและโลหิตทั้งหมดในร่างกายคนเหือดแห้งได้
ราวกับว่าสิ่งที่แทงเข้าไปในร่างกายไม่ใช่เข็ม กลับเป็นการเทเหล็กหลอมที่กำลังเดือดพล่านลงไป
เซียวอวี้นั่งขัดสมาธิ กำมือแน่น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดโปน
เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งอยู่ด้านหลังเขา และใช้สองมือค้ำยันแผ่นหลังของเขา
จากนั้นพลังภายในก็ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง
เซียวอวี้พลันลืมตาขึ้น
“เจ้า...”
“ห้ามพูด” เฟิ่งจิ่วเหยียนจดจ่ออยู่กับการถ่ายทอดพลัง ทว่าเขายังวอกแวกก็จะไม่สามาถรับพลังได้ ซึ่งนั่นเท่ากับว่าต้องเสียเปล่า
คิ้วเรียวงามของเซียวอวี้เผยให้เห็นความประหลาดใจ
แค่พบกันโดยบังเอิญเท่านั้น เขาไม่ได้ให้สิ่งใดแก่นาง แต่นางกลับไม่ลังเลที่จะใช้พลังภายในเพื่อช่วยเขา...
ในการฝังเข็มครั้งหลัง ๆ เฟิ่งจิ่วเหยียนล้วนใช้พลังภายในของนางช่วยด้วย เพื่อเร่งความเร็วในการขับพิษ
ในครั้งที่แปดนางอาเจียนออกมาเป็นเลือด แต่ก็ยังฝืนทำต่อ
เซียวอวี้ก็ทรมานเช่นกัน ด้วยการฝังเข็มในแต่ละครั้ง เกือบจะถึงระดับขีดจำกัดที่เขาทนได้
ข่าวดีก็คือ “เส้นสีเงิน” นั้นได้ถอยร่นกลับไปที่คอของเขา และเหลือเพียงครึ่งนิ้วเท่านั้น
......
ตำหนักชิงซวี
หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ร้อนใจดั่งไฟสุมอก
ผ่านไปหนึ่งวันกว่า ๆ แล้ว
ฮ่องเต้เสด็จไปที่ใดกันแน่!
หากพิษเขากำเริบจะทำอย่างไร?

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...