เข้าสู่ระบบผ่าน

แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย นิยาย บท 145

ขณะที่เซียวอวี้กำลังจะสัมผัสหน้ากากของนาง เข็มเงินเล่มหนึ่งก็แตะอยู่ที่อกของเขา

แววตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็น

“ความสงสัยบางครั้งก็ทำร้ายคนได้”

เซียวอวี้เม้มริมฝีปากบางเล็กน้อย

จากนั้น เขารีบชักมือกลับทันที

นางก็ชักเข็มเงินในมือกลับเช่นกัน

ทั้งสองคนต่างอยู่ในอาการสงบ

หลังจากกลไกทางเข้าถูกเปิดออก

เฉินจี๋เห็นว่าฮ่องเต้ยังทรงปลอดภัยดี ความกังวลใจจึงคลายลง

แต่นักฆ่าหญิงผู้นั้น ถ้าจะให้มั่นใจแน่ ๆ ก็ต้องจับตัวไว้

หรือฉวยโอกาสตอนที่นางกำลังอ่อนแอ สังหารนางซะ!

เฉินจี๋ชักดาบของเขาออกมาทันที

แต่กลับได้ยินฮ่องเต้รับสั่งว่า

“ปล่อยนางไป”

......

รัตติกาลมืดมิด

ตำหนักหย่งเหอ

สองวันมานี้เหลียนซวงจิตใจว้าวุ่น จนกระทั่งเห็นฮองเฮาเสด็จกลับมา จึงค่อยโล่งใจขึ้นมา

แต่ทันใดนั้นก็พบว่าฮองเฮาเหมือนจะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง!

“ฮองเฮา ท่าน…”

เฟิ่งจิ่วเหยียนพยุงสังขารที่อ่อนแรง มือหนึ่งจับที่มุมโต๊ะ อีกมือหนึ่งกำคอเสื้อของตนเองไว้แน่น

“ออกไปเฝ้าด้านนอกไว้”

ลำคอของนางเหมือนถูกไฟเผา น้ำเสียงที่เอ่ยดูแหบพร่า

“เพคะ!” เหลียนซวงไม่รู้ว่าในช่วงสองวันที่ผ่านมาฮองเฮาทรงพบเจอสิ่งใดมาบ้าง แต่ก็เข้าใจดีว่าตอนนี้นางต้องการพักฟื้นร่างกาย ไม่ควรรบกวน ดังนั้นจึงถอยออกไปด้านนอกประตูทันที

ตำหนักด้านใน

เฟิ่งจิ่วเหยียนนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง หลับตาลง และเริ่มต้นฝึกเดินลมปราณ

ครั้งนี้นางสูญเสียพลังภายในอย่างรุนแรง พลังหายไปเกือบครึ่งในชั่วพริบตา ร่างกายไม่อาจทนรับไหว คืนนี้จึงต้องฝึกเดินลมปราณเพื่อฟื้นฟูร่างกาย

หลังจากนั้น นางต้องฝึกฝนวิชากำลังภายในที่ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ ถึงจะฟื้นฟูพลังภายในได้

กระบวนการนี้ใช้เวลานานมาก

อย่างน้อยก็สามเดือน อย่างมากก็ครึ่งปี

แต่นางกลับไม่รู้สึกเสียใจ

เพราะในที่สุดพิษวารีสวรรค์ของเซียวอวี้ก็ถูกขับออก

ต่อไปจะเล่นงานหลิงเยี่ยนเอ๋อร์ก็ไม่ต้องกังวลสิ่งใดอีก

เฟิ่งจิ่วเหยียนลืมตาขึ้น ในดวงตาฉายแววอาฆาต

......

ตำหนักชิงซวี

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ร้อนใจอย่างมาก

ตอนนี้ดึกมากแล้ว นางก็ยังไม่ได้เข้านอน

นางนอนไม่หลับตลอดคืน

เช้าวันรุ่งขึ้น ในที่สุดนางก็ได้ยินสาวใช้มารายงานว่า “พระนาง ฝ่าบาทเสด็จกลับวังแล้วเพคะ!”

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ซักถามทันที

“เจ้าเห็นฝ่าบาทกับตาตัวเองหรือไม่ สภาพร่างกายของเขาเป็นอย่างไร?”

สาวใช้ท่าทางมึนงง

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ตวาดใส่ด้วยความโมโห

“ไสหัวออกไป!”

นางร้อนใจจนเลอะเลือนถึงถามสาวใช้เช่นนี้

เส้นสีเงินบนคอของฮ่องเต้ไม่ปรากฎเห็นแล้ว!

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ประหลาดใจอย่างมาก กลัวว่านางจะมองเห็นไม่ชัดเจน ยังคงดึงดันและแสร้งเขยิบเข้าไปใกล้

แต่ก็เหมือนกับที่นางเห็น เส้นสีเงินนั้นหายไปจริง ๆ!

เป็นไปได้อย่างไร?

เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อยู่เหนือความคาดหมาย ทำให้นางประหลาดใจ และไม่รู้จะทำเช่นไร ข้อศอกที่พยุงตัวเกือบจะหมดเรี่ยวแรง

“เส้นสีเงิน” ที่เกิดจากพิษนั้น หากไม่กินยาระงับจะไม่มีทางหายได้

และยาตัวนั้นก็จะใช้เลือดหัวใจของนางในการช่วยเสริมฤทธิ์ของยา

เรื่องนี้อัศจรรย์เกินไป

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ หรือถึงขั้นสงสัยว่าวันนั้นนางอาจจะตาลาย

แต่ถ้านับดูเวลาแล้ว พิษของฮ่องเต้จะกำเริบในสองสามวันนี้!

“ฝ่าบาท หม่อมฉัน...หม่อมฉันเป็นห่วงท่าน ถึงจำเป็นต้องใช้แผนนี้ และหลายวันมานี้ทรงสบายดีหรือไม่เพคะ”

“อืม” เซียวอวี้ตอบอย่างเย็นชา

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์คิ้วขมวดแน่น

นางรู้สึกร้อนใจและสงสัย จึงถามออกไปตรง ๆ ว่า

“ฝ่าบาท ท่านไม่มีสัญญาณเตือนที่พิษจะกำเริบเลยหรือเพคะ วันนั้นหม่อมฉันเห็นชัดเจนที่คอของท่าน...”

เซียวอวี้พูดอย่างแผ่วเบาว่า

“เราสบายดี อย่าจัดฉากกรีดข้อมือแบบนี้มาขู่เราอีก ชีวิตเป็นของเจ้าเอง”

“แต่ฝ่าบาท...”

หลิงเยี่ยนเอ๋อร์ยังอยากจะเอ่ยบางอย่าง แต่เฉินจี๋กลับมาทูลรายงานอยู่ด้านนอกตำหนักว่า

“ฝ่าบาท ราชทูตแห่งรัฐเหลียงมาถึงวังหลวงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ราชทูตแห่งรัฐเหลียงมาวังหลวงในครั้งนี้ อาจจะมีเจตนาที่ไม่ดี

ระหว่างหนึ่งล้านเหรียญตำลึงทองกับเมิ่งสิงโจว แคว้นหนานฉีจะต้องส่งมอบอย่างใดอย่างหนึ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย