กริชตกลงที่พื้น หกเนตรจ้องมองกันไปมา
รุ่ยอ๋องปริปากเล็กน้อย
ทว่า เฟิ่งจิ่วเหยียนชิงพูดก่อน
นางถอยหลังมาหนึ่งก้าว โน้มกายทำความเคารพให้กับเซียวอวี้
“ฝ่าบาท หม่อมฉันหลงทางอยู่ในป่า ดังนั้นจึงลงจากม้า เดิมทีคิดว่าจะใช้กริชทำเครื่องหมายบนต้นไม้ ป้องกันไม่ให้ตนเองเดินกลับมาทางเดิม
“เห็นมีเงาที่เข้าใกล้มาอย่างไม่ทันตั้งตัว และคิดถึงเรื่องที่ช่วงก่อนในวังมีนักฆ่าปรากฏตัว ยังไม่สามารถจับตัวได้ จึงคิดว่าเป็นนักฆ่า จึง...”
รุ่ยอ๋องช่วยกลบเกลื่อนคำโกหก
“ที่แท้พระนางเข้าใจผิดว่ากระหม่อมเป็นนักฆ่า มิน่าล่ะ”
เขาเก็บกริชขึ้นมา ส่งคืนให้เฟิ่งจิ่วเหยียนด้วยความเคารพ
แววตาของเซียวอวี้เย็นยะเยือกมองร่างสองคนสลับไปมา
คำพูดของฮองเฮา เขาไม่หลงเชื่อ
ทว่ารุ่ยอ๋องเป็นพี่น้องที่ดีของเขามาตั้งแต่ยังเยาว์วัย...
“ฝ่าบาท พระนาง กระหม่อมกราบบังคมลา”
รุ่ยอ๋องจูงม้าจากไป สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนยังคงมองไปที่ร่างของเขา
เซียวอวี้กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
“ออกไป ที่นี่ไม่ใช่สถานที่ที่สตรีนางหนึ่งเยี่ยงเจ้าควรจะอยู่”
“เพคะ” เฟิ่งจิ่วเหยียนตอบด้วยความเคารพ
เพิ่งจะเดินไปได้ไม่กี่ก้าว นางก็หันกายกลับมาอีกครั้ง
“ฝ่าบาท หม่อมฉันมีเรื่องที่อยากไถ่ถาม
แววตาของนางจริงจังเป็นอย่างมาก
เซียวอวี้ที่กระโดดขึ้นหลังม้าแล้ว มือถือแส้ม้า มองนางลงจากที่สูง สีหน้าเย็นชาปกคลุมไปด้วยความรำคาญ
“ว่ามา”
“ฮ่องเต้องค์ก่อนเคยกล่าวไว้หรือไม่ว่าตระกูลมู่หรงไม่สามารถเป็นฮองเฮาได้ตลอดกาล?”
เซียวอวี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เคยกล่าวเช่นนั้นจริง ๆ”
นางจงใจสอบถามเรื่องนี้ เกรงว่าเขาจะแต่งตั้งฮองเฮาใหม่ เป็นการเปลี่ยนวิธีกล่าวเตือนเขางั้นหรือ
......
ด้านนอกป่าเขตพระราชฐาน
เหลียนซวงกระวนกระวายใจ เห็นว่าพระนางออกมาแล้ว นางจึงถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“ฮองเฮา ในที่สุดท่านก็ออกมาแล้ว! ไม่เป็นไรใช่ไหมเพคะ? รุ่ยอ๋องนั้น...”
“กลับไปที่ตำหนักหย่งเหอก่อน” เฟิ่งจิ่วเหยียนออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ณ ตำหนักหย่งเหอ
เหลียนซวงไม่สบายใจ “ฮองเฮา สอบสวนได้หรือยังเพคะ ใช่รุ่ยอ๋องเพื่อช่วยให้จิ้งกุ้ยเหรินได้รับตำแหน่งฮองเฮา จึงจัดการทุกอย่างเช่นนี้จริงหรือเพคะ!”
นางทำใจยากที่จะเชื่อ รุ่ยอ๋องที่ดูอบอุ่นใจดีเช่นนั้น จะเป็นตัวการปองร้ายคุณหนูเวยเฉียง
เฟิ่งจิ่วเหยียนนำกริชวางไว้บนโต๊ะ แววตาเปี่ยมไปด้วยความเป็นปรปักษ์
“ฮ่องเต้องค์ก่อนเคยกล่าวไว้ตระกูลมู่หรงไม่สามารถเป็นฮองเฮาได้ เรื่องนี้ รุ่ยอ๋องก็เข้าใจดี”
เหลียนซวงกลัดกลุ้มใจเล็กน้อย
“ฮองเฮาเช่นนั้นเบาะแสก็ขาดตอนอีกแล้วไม่ใช่หรือเพคะ?”
คาดเดามาได้อย่างยากลำบาก ว่าบุคคลลึกลับนั้นทำไปเพื่อตำแหน่งฮองเฮา ทว่าตอนนี้จิ้งกุ้ยเหรินผู้นั้นเป็นฮองเฮาไม่ได้ รุ่ยอ๋องก็ไม่สามารถช่วยออกอุบายให้นางได้หรอก
สายตาของเฟิ่งจิ่วเหยียนเยือกเย็นราวน้ำแข็ง
ดูแล้ว นางคงต้องไปพบกับหลิงเยี่ยนเอ๋อร์เสียหน่อย
หลิงเยี่ยนเอ๋อร์เคยติดต่อกับบุคคลลึกลับ ต่อให้เป็นแค่การส่งจดหมาย ก็ต้องรู้มากกว่าที่นางรู้
ยามราตรี
ณ ตำหนักจื้อเฉิน
เฉินจี๋เข้ามากล่าวรายงาน
“ฝ่าบาท สิ่งเหล่านี้คือยาถอนพิษแดนฝันที่สั่งสมไว้ นักฆ่าผู้นั้นไม่มารับยา คืนนี้ก็เป็นช่วงทุกสิบวันที่พิษกำเริบอีกครั้ง ยังต้องให้ส่งยาถอนพิษต่อไปอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
เซียวอวี้ผินสายตามองไปที่แส้เก้าท่อนนั้น
ของสิ่งนี้ ควรจะกลับไปอยู่กับเจ้าของนานแล้ว
เขาหันกายไปรับสั่งกับเฉินจี๋
“ไปจุดโคมไฟที่ตำหนักฉางซิ่น”
เฉินจี๋มีความสับสนอยู่ในใจ
จุดโคมไฟที่ตำหนักฉางซิ่น เป็นวิธีการนัดพบระหว่างฮ่องเต้และนักฆ่าผู้นั้น
ทว่า การที่จุดโคมไฟได้ ต้องเป็นยามที่ฮ่องเต้พิษวารีสวรรค์กำเริบ และต้องการให้นางปรากฏกายมาถอนพิษเท่านั้น

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย
เติมเหรีญญไป 500 เหรียญ เริ่มกดซื่อตอน จาก 223 มาถึงตอน 227 = 5 ตอน 40 เหรัยญ แต่ตอนนี้มีเหรียญคงเหลือ 444 เหรียญ และเปิดอ่านย้อนหลังไม่ได้ ช่วยแก้ไขด้วยค่ะ...
สนุกดี แต่ใช้บัตร์เติมเงินเอไอเอสไม่ได้ ขอบคุที่ให้อ่าน...